วันนี้ (5 เม.ย.2567) ภายหลังการลงพื้นที่ของ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบในอาคารของโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร หลังมีรายงานว่า มีการจัดเก็บกากแคดเมียมไว้มากกว่า 15,000 ตัน โดยใช้เวลาตรวจสอบนานเกือบ 2 ชั่วโมง
- "รมว.อุตฯ" สั่งหยุดขนย้ายกากแคดเมียม-นำกลับฝังกลบ รง.ใน จ.ตาก
- เปิดเส้นทางลอบขน "แคดเมียม" ตาก-สมุทรสาคร ใครอนุญาต?
น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า ภายในมีกากแคดเมียม ตรวจนับได้จำนวน 2,440 ตัน บรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ็ก ตัวเลขนี้ไม่ตรงกับที่บริษัทต้นทางต้นในจังหวัดตาก ทำเอกสารขอเคลื่อนย้ายจำนวนที่ตัวเลขกว่า 13,000 ตัน ในช่วงส.ค.2566
มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบสวนหาแหล่งกากแคดเมียมที่หายไปกว่าหมื่นตัน
พร้อมกับมีคำสั่งอายัด และให้เคลื่อนย้ายกลับไปแหล่งต้นทางภายในกรอบระยะเวลา 7 วัน และยังมีคำสั่งให้ต้องดำเนินการปรับสภาพแวดล้อมให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
กากแร่แคดเมยมในถุงบิ๊กแบ็กที่โรงงานในจ.สมุทรสาคร พบเหลือเพียง 2,440 ตัน
กากแร่แคดเมยมในถุงบิ๊กแบ็กที่โรงงานในจ.สมุทรสาคร พบเหลือเพียง 2,440 ตัน
สำหรับการตรวจสอบขั้นตอนการขอเคลื่อนย้าย พบว่าบริษัทปลายทาง เป็นโรงงานลำดับที่ 106 และ 60 ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการหลอมแท่งโลหะอลูมิเนียม เพื่อเตรียมหลอมหรือขายต่อ การพบกากแคดเมียมจำวนมาก ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
มีรายงานว่า ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อพิจารณาให้อุตสาหกรรมจังหวัดตาก ออกจากพื้นที่ไว้ก่อน เพื่อสอบสวนขั้นตอนการขออนุญาตเคลื่อนย้ายว่าไปตามระเบียบ และกฎหมายหรือไม่
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ่อแร่แคดเมียมในโรงงานต้นทาง จ.ตาก (สนง.อุตสาหกรรม จังหวัดตาก )
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ่อแร่แคดเมียมในโรงงานต้นทาง จ.ตาก (สนง.อุตสาหกรรม จังหวัดตาก )
เปิดภาพบ่อฝังกลบแร่กากแคดเมียม จ.ตาก
ขณะที่ช่วงเช้า นายปฐมพงศ์ ทองแกมแก้ว วิศวกรเหมืองแร่ชำนาญการ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ได้ร่วมกันเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่และข้อเท็จจริงโรงงานถลุงแร่สังกะสีของบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ที่ต.หนองบ้วใต้ อ.เมือง จ.ตาก หลังมีรายงานสื่อมวลชนได้เสนอข่าวกรณีมีโรงงานใน จ.ตาก ขายกากแร่สังกะสีและกากแร่แคดเมียมที่ฝังกลบให้กับโรงงานใน จ.สมุทรสาคร
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าสภาพโรงงาน ไม่มีสภาพประกอบกิจการต่อไปได้แล้ว เนื่องจากได้รื้อถอนอาคารโรงงาน และเครื่องจักรในการผลิต และพบว่าบริษัทดังกล่าวได้รับอนุญาตให้นำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกโรงงานปริมาณ 15,000 ตัน ไปกำจัดยังโรงงานปลายทางที่ จ.สมุทรสาคร
จากการตรวจสอบบ่อเก็บกากแคดเมียมจำนวน 7 บ่อ พบว่า 2 บ่อ ที่ได้มีการขนย้ายกากแคดเมียมออกไป บางส่วนที่มีการบรรจุใสถุง บิ๊กแบ็ก และยังไม่บรรจุได้เก็บไว้ภายในอาคาร
เบื้องต้น คณะเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างกากแคดเมียมทั้งจากบ่อเก็บการและในอาคาร เพื่อส่งวิเคราะห์ตรวจสอบต่อไป
อ่านข่าว
คพ.ชี้ "แคดเมียม" อันตรายพบค่าความเข้มข้น-ยังไม่ปนเปื้อน สวล.