วันนี้ (11 เม.ย.2567) นายมัญญา นาคพน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา จ.เชียงใหม่ ชี้แจงกรณีพบคนเผาในพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา ได้รับรายงานจุด Hotspot ในพื้นที่อนุรักษ์ ในพื้นที่บ้านห้วยป่าไร ต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จำนวน 2 จุด
- มิตรภาพหนึบ! คืนนี้รถแน่นทยอยกลับบ้านฉลองสงกรานต์
- หมอชิตคึกคัก คาดวันนี้เดินทางกลับภูมิลำเนาสูงสุด 8 หมื่นคน
ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดสกัดห้วยเดื่อ และหน่วยพิทักษ์ปางปอย พร้อมชาวบ้านประจำจุดตรวจจุดสกัดจุดเฝ้าระวังไฟป่า 2 ชุด ชุดละ 3 คน รวมเป็น 6 คน พร้อมด้วยชุดอาสาดับไฟป่าประจำหมู่ บ้านห้วยป่าไร่ ต.แม่คะ อ.ฝาง จำนวน 40 คน เข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย
จากนั้นเมื่อไปถึงบริเวณจุดเกิด Hotspot เจ้าหน้าที่ได้ประเมินแล้วว่าไม่สามารถเข้าดับไฟได้โดยตรง เนื่องจากมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน โดยสภาพเป็นป่าเบญจพรรณผสมป่าไผ่ ทำให้มีไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง
ประกอบด้วยกระแสลมแรง จนไม่สามารถเข้าดับไฟโดยตรงได้ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน จึงได้วางแผนทำแนวกันไฟเพื่อควบคุมให้ไฟป่าอยู่ในวงจำกัด เมื่อทำแนวกันไฟเสร็จสิ้นแล้ว ชุดบูรณาการดับไฟป่าจึงได้เฝ้าระวังในพื้นที่และวางแผนการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไป
ต่อมาในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ชุดบูรณาการดับไฟป่าได้รับรายงานจุดความร้อนรอบบ่าย เม่อเวลา 13.35 น.จำนวน 3 จุดในบริเวณใกล้เคียงกัน ซึ่งอยู่ในแนวกันไฟที่ได้ทำไว้ในช่วงเช้า
เจ้าหน้าที่ชุดบูรณาการดับไฟป่า ได้พิจารณาแล้วว่าพื้นที่ป่าบริเวณบ้านห้วยป่าไร่ ต.แม่คะ อ.ฝาง เกิดไฟป่าติดต่อกันมาเป็นเวลานาน รวมทั้งเป็นพื้นที่สูงชัน ไม่สามารถเข้าดับไฟโดยตรงได้
ประกอบด้วยมีกระแสลมยังคงพัดแรงอยู่ตลอด หากปล่อยไว้ไฟอาจลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้ และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธธรรมชาติและสัตว์ป่าในพื้นที่ ก่อให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 จึงได้วางแผนดับไฟป่าโดยการใช้วิธี Back Firing โดยอ้างประกาศสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เรื่อง งดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่)
โดยมีข้อความตอนหนึ่งในวรรคสามของประกาศว่า “สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) จึงขอให้พื้นที่ป่าอนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ทุกแห่งในสังกัด งดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้ ยกเว้นการบริหารจัดการเชื้อเพลิงกรณีเร่งด่วน เพื่อการสกัดไฟหรือดับไฟที่มีความรุนแรง ที่จำเป็นต้องใช้การดับไฟทางอ้อมโดยการใช้ไฟชนไฟ (Back Firing) ในกรณีที่จำเป็น เป็นกรณีพิเศษและเฉพาะพื้นที่ ซึ่งต้องขออนุมัติตามขั้นตอนต่อไป
จากนั้นจึงได้วางแผนชุดดับไฟออกเป็น 2 ชุด โดยชุดที่ 1 เจ้าหน้าที่อุทยาน จะเข้าเข้าดับไฟที่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เนื่องจากมีทักษะและความชำนาญในพื้นที่ ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วพบว่าไฟป่าได้ไหม้ข้ามแนวกันไฟที่ได้จัดทำไว้
แต่ในการปฏิบัติงานกระแสลมแรงและต้นไผ่ได้ล้มพาดข้ามแนวกันไฟ เจ้าหน้าที่ห่วงว่าจะไม่สามารถควบคุมไฟได้ และไฟป่าอาจจะลุกลามจากเขตป่าอนุรักษ์เข้าสู่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งมีพื้นที่ทำกินของประชาชนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
จึงได้ประสานชุดที่ 2 ได้แก่เครือข่ายชาวบ้านชุดดับไฟป่าบ้านห้วยป่าไร่ ที่เฝ้าระวังอยู่ด้านนอกเขตอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา ให้เร่งให้ทำแนวกันไฟ และจุดไฟเผากลับ (Back Firing) เพื่อสกัดไฟไม่ให้ลุกลามเป็นกว้างจนอยู่นอกเหนือการควบคุม ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนอย่างประ เมินค่ามิได้ ซึ่งชุดอาสาดับไฟป่าได้ดำเนินการเผากลับเป็นแนวกันไฟในพื้นที่ไร่ เพื่อมิให้ไฟข้ามไปยังพื้นที่ป่าข้างเคียงต่อไป
โดยผลการดำเนินการ ชุดบูรณาการดับไฟป่าได้เข้าถอนกำลังออกจากพื้นที่ และเข้าตรวจสอบพื้นที่ไฟไหม้อีกครั้งในจุดสังเกตการณ์ ณ จุดสกัดป้องกันไฟป่าบ้านปางปอยในเวลา 21.46 น. และพบว่าไฟป่าในบริเวณดังกล่าวได้ดับสนิท