"ทักษิณ" แย้มปีหน้าควง "ยิ่งลักษณ์" ทำบุญสงกรานต์เมืองไทย

วันนี้ (14 เม.ย.2567) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังได้กลับมาร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ที่ จ.เชียงใหม่ ในรอบ 18 ปี ว่า รู้สึกม่วนอก ม่วนใจ๋ กลับมาแล้วก็อยากใช้ชีวิตเรียบง่ายและสงบ และเนื่องในวันครอบครัว เมื่อได้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่ประเทศไทยก็อบอุ่น มีความสุขและดีกว่าอยู่เมืองนอก

พร้อมหวังว่า สงกรานต์ปีหน้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คงได้มีโอกาสมาทำบุญด้วยกัน เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยากกลับและตั้งใจจะกลับภายในปีนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่ อย่างไร ทั้งนี้หากจะมีเสียงวิจารณ์ เราต้องมีเหตุผลตอบสังคมส่วนใหญ่ได้

สำหรับภารกิจของนายทักษิณ ช่วงเที่ยงแวะกินข้าวซอยร้านโปรด ก่อนสักการะพระธาตุดอยสุเทพและแวะซื้อลอตเตอรี จำนวน 7 แผง รวม 140 ใบ แจกให้กับคณะที่ติดตาม ส่วนส่วนช่วงเย็นจะมีรัฐมนตรีหลายคนมาร่วมรับประทานอาหาร ซึ่งนายทักษิณยืนยันว่าไม่มีนัยทางการเมืองหรือมาเช็กชื่อ แต่เป็นเรื่องประเพณีที่มารดน้ำดำหัว

อ่านข่าว : "ทักษิณ" ขึ้นเชียงใหม่พบญาติ-เปิดบ้านให้รดน้ำดำหัว 14 เม.ย.

ขณะที่เรื่องการปรับ ครม. นายทักษิณ ย้ำว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเป็นคนตัดสินใจปรับ ครม. เพราะเก้าอี้รัฐมนตรีก็มีข้อจำกัดเพียง 36 ที่นั่ง และไม่ได้มีส่วนดีลกับพรรคประชาธิปัตย์ แค่พบปะกินกาแฟในฐานะที่รู้จักกันเท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นศูนย์กลางอำนาจ แต่เป็นศูนย์กลางของคนแก่ที่อายุ 75 ปี รุ่นน้องอยากมาปรึกษาหารือ

นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์ช่วงค่ำ นายทักษิณจะไปดูบรรยากาศการเล่นสงกรานต์ที่ห้างสรรพสินค้าเมญ่า

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง

"เศรษฐา" ยัน "ยิ่งลักษณ์" ยังไม่ประสานกลับไทย

ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์โดยหวังว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางกลับประเทศไทยในปีหน้านั้น ว่า เชื่อว่าผู้ต้องคดีการเมืองทุกคนอยากกลับบ้านเกิด แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประสานมายังรัฐบาล

พร้อมยืนยันว่า ทุกกระบวนการต้องเป็นไปตามกฎหมายและเป็นไปตามขั้นตอนของนักโทษคดีทางการเมือง และย้ำว่าไม่กังวลกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เพราะไม่มีอะไรซับซ้อน

หากกลับมาจริงจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เช่นเดียวกับนักโทษคดีการเมืองอื่นๆ

นายกฯ ระบุอีกว่า ยังไม่มีการพูดคุยกับนายทักษิณ ถึงการลงพื้นที่ร่วมกัน แต่ย้ำว่าการลงพื้นที่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ก่อนอ้างอิงว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าการลงพื้นที่ของนายทักษิณ จะเป็นการเรียกคะแนนความนิยมให้กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หลังถูกอีกฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์

อ่านข่าวอื่นๆ

"เศรษฐา" เช็กเรตติ้งตลาดหัวหิน-ยาหอมปีหน้าเศรษฐกิจดี

อาลัย "นพ.กัณฑ์เอนก สวีวงศ์" แพทย์ประจำ รพ.ระแงะ ประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิต