วันนี้ (19 เม.ย.2567) นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหม ยืนยันการทำงานในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา เดินหน้าตามนโยบาย ขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ และทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว พอใจกับผลการดำเนินงาน และตามสูตร 8+2 เพื่อการปฏิรูปกองทัพ ยังคงเดินหน้า คาดว่าไม่เกิน 2 เดือนข้างหน้า จะเป็นผลชัดขึ้น
นายสุทิน ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในการปรับ ครม. และหากนายกรัฐมนตรี จะเลือกควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม ถือเป็นอำนาจโดยชอบที่จะตัดสินใจได้ และเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ก็มีศักยภาพที่จะขับเคลื่อนต่อไปได้ พร้อมระบุ เสียดายเวลาพิสูจน์ผลงานน้อยเกินไป
นายสุทิน ยังตอบถึงประเด็นมีแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะรายชื่อรัฐมนตรีที่หลุด ครม. เป็น สส.อีสาน ถึง 3 คน ว่า ยังไม่เห็นรัฐมนตรีที่มีชื่อออกมาแสดงท่าทีจะทำให้เกิดปัญหา ทุกคนให้เกียรตินายกฯ ให้เกียรติพรรค หากทุกคนออกมาแสดงท่าทีโวยวาย หรือไม่ให้เกียรตินายกฯและพรรค อันนี้มองว่าน่าห่วง แต่ตอนนี้ทุกคนมีท่าทีให้ความร่วมมือ
ยังต้องการทำงานกับพรรค เมื่อพรรคให้อยู่ก็อยู่ เพราะหากคิดจะย้ายพรรคก็ย้ายไปนานแล้ว และมีเหตุการณ์หนักกว่านี้ที่ควรย้ายด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ หากต้องพ้น รมว.กลาโหม โครงการเรือดำน้ำ โครงการจัดหาเครื่องบินรบ และโครงจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อื่น ๆ จะดำเนินการต่อได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า มาทำก็ดำเนินการต่อได้ ผมอยู่ไหนก็ช่วยต่อ แม้ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีก็จะช่วย ไม่มีปัญหา
ส่วนกรณีที่คนมองว่าขณะนี้เป็นการเมืองแบบถอยหลังเข้าคลอง และต่างตอบแทน นายสุทิน กล่าวว่า แล้วแต่คนจะคิด แต่เรื่องดี ๆ ก็มี สำหรับเหตุผลหากจะที่มีการปรับ ทั้งตัวนายสุทิน และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข เป็นเพราะไม่มีคนหนุนหลังหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า เรื่องนี้ต้องไปถามเหตุผลว่าเพราะอะไร เพราะส่วนตัวไม่รู้ ที่ผ่านมาก็ปรับเปลี่ยนกันตลอด
ส่วนจะบอกคนในพื้นที่ภาคอีสานอย่างไร เพราะเป็นเหมือนเสร็จนาฆ่าโคศึก นายสุทิน กล่าวว่า ชาวบ้านรู้ใครทำงาน ชาวบ้านทุกวันนี้เก่ง พร้อมทั้งให้กำลังใจกับตน บอกว่าจะเป็นรัฐมนตรีกี่เดือนก็แล้วแต่ 6 เดือน ก็เป็น 6 เดือน ที่ครองใจประชาชนอยู่แล้ว เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาจะอธิบายกับประชาชนได้
นายสุทิน ย้ำว่า ไม่ได้คุยเรื่อง ปรับ ครม.กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งการประชุม ครม.เมื่อวันที่ (18 เม.ย.) ก็เป็นการทักทายกันปกติ และคุยกันหลายเรื่อง ยืนยันว่า ทำงานได้ทุกที่ ถนัดทุกอย่าง บริหารก็ถนัด
นายสุทิน คลังแสง
ส่วนประเด็นเรือดำน้ำที่แก้ปัญหาไม่สำเร็จ และกลายเป็นว่าทำงานไม่สนองนโยบาย จึงเป็นเหตุทำให้ถูกปรับออกจากรัฐมนตรีนั้น นายสุทิน คิดว่าไม่เกี่ยว เพราะเป็นการทำงานร่วมกับหลายคน และส่วนตัวเข้าใจสถานการณ์ดี ยืนยันว่า ทำงานตามกฎและนโยบายของรัฐบาล
นายสุทิน กล่าวกรณีเกิดกระแสบนโซเชียลมีเดีย ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่รับพวงมาลัย ระหว่างเข้าพบที่ จ.เชียงใหม่ ว่า ในวันดังกล่าวมีผู้ที่เดินทางไปพบนายทักษิณจำนวนมาก โดยส่วนตัวเกรงใจ แต่เนื่องจากเพื่อนชวนจึงไป และคนที่ถือพวงมาลัยในวันนั้นก็มีนายพายัพ ชินวัตร ยืนอยู่ด้วย
โดยพูดคุยกันว่า การยื่นพวงมาลัยให้นายทักษิณในขณะนั้นอาจจะดูไม่เหมาะสม จึงเพียงแค่ถือไว้ไม่ได้ยื่น และหลังจากนั้นก็ได้เข้าไปนั่งมอบพวงมาลัย และนายทักษิณก็รับ พร้อมให้อวยพรปกติ และยังแซวนายทักษิณว่าใส่เสื้อหัวใจแดง ซึ่งนายทักษิณบอกว่าใส่เสื้อมาแบบนี้เพราะรักทุกคน
ทั้งนี้ได้เข้าพบนายทักษิณเป็นคนแรกๆ ตั้งแต่ในวันที่ 9 เม.ย. เป็นการพบกัน 2 คน และได้คุยกันแต่เรื่องงาน นายทักษิณ แนะนำเทคนิคการทำงาน ในภาพกว้าง แต่เรื่องหากเป็นการตัดสินใจเรื่องคนจะเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีมากกว่า
ส่วนกรณีมีบางสื่อนำเสนอข่าวออนไลน์ว่า ได้ขอพบนายทักษิณ ในวันที่ 12 เม.ย. และนายทักษิณ ไล่ให้มาทำงานนั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และไม่ควรนำเสนอแบบนี้ให้เกิดเป็นประเด็นดราม่า
ทั้งนี้ระหว่างที่ นายสุทิน ออกจากโพเดียม ได้เดินมาพูดคุยกับสื่อมวลชน ชี้แจงย้ำปมดรามาพบ นายทักษิณ และการถูกปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี พูดคุยด้วยท่าทีผ่อนคลายสีหน้ายิ้มแย้ม
อ่านข่าว
"ซาร่า" กลับดาวหมา นายกฯ บางบาล รับลูกน้องจับผิดวิธี
เช็กเงื่อนไข คุณสมบัติ ครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ รับ 3,000 บาท/เดือน