ภาพของลูกชายไม่เคยหายไปจากในหัว ศพลูกที่ถูกยิงเข้าที่ศีรษะทะลุแก้ม มันยังแจ่มชัดทุกครั้งที่พูดถึงเหตุการณ์ตากใบ
นางเจ๊ะฮามียะ หะยีมะยังคงสะอื้น เมื่อพูดถึงลูกชายวัย 19 ปี ที่สูญเสียไปจากเหตุสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส
นางเจ๊ะฮามียะ เป็นหนึ่งใน 48 ครอบครัวของผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ ที่ได้รวมตัวเข้ายื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนราธิวาส เพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ 9 นาย ในกรณีเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต 85 คนขณะถูกจับกุมและขนย้ายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547
โดยทีมทนายได้ตั้งข้อหา มีการหน่วงเหนี่ยวกักขัง การฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาประเภทเล็งเห็นผล และยังเป็นเจ้าพนักงานที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อผู้อื่น เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
“เราฟ้องในข้อหาหนัก คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา คือ เป็นการฆ่าที่เล็งเห็นผล คือ ตามกฎหมาย มีการฆ่าที่ประสงค์ต่อผล กับการฆ่าโดยเล็งเห็นผล คือ ถึงแม้จะไม่เจตนาโดยตรง แต่ถ้าเล็งเห็นว่า ถ้าทำแบบนี้ จะทำให้คนถึงแก่ความตาย ก็เข้าองค์ประกอบของกฎหมาย” นายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม กล่าว
การเข้ายื่นฟ้องครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะ กรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้เรียกเจ้าหน้าที่ ของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงแล้ว
แต่พบว่า ในสำนวนคดีไต่สวนการตาย พนักงาน สอบสวนได้สรุปว่า ไม่รู้ตัวผู้กระทำความผิดและไม่ทราบถึงสถานะ และความมีอยู่ของสำนวนคดี
แต่ตามข้อเท็จจริงในสำนวนไต่สวนการตายของคำสั่งศาลสงขลา ที่ระบุว่า เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ และไม่พบหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่า ถูกผู้อื่นกระทำการให้เสียชีวิตและพนักงานสอบสวนและอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ผ่านมาเกือบ 20 ปีที่คดีจะหมดอายุความ ก็ยังไม่สามารถเอาผิดกับใครได้
“การยื่นฟ้องเองจะช่วยให้คดีประวัติศาสตร์นี้ถูกตรวจสอบด้วยระบบตุลาการ ให้ค้นหาความจริงให้ชาวบ้าน เพราะผ่านมา 19 ปีแล้ว ตำรวจก็ไม่ได้ดำเนินคดีใด ๆ ส่วนอัยการก็ไม่ได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าสำนวนคดีนี้อยู่ส่วนไหนของสำนักงานอัยการสูงสุด เราคงรอไม่ได้เพราะคดีจะหมดอายุความแล้ว เพราะจะให้เราตายไปตายกันไปกับประวัติศาสตร์ความรุนแรงนี้หรือ” น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
หลังชาวบ้านยื่นฟ้องเองในวันนี้ ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 24 มิ.ย.2567 ก่อนจะพิจารณาว่า มีมูลฟ้องทางอาญาหรือไม่ ซึ่งการลุกขึ้นฟ้องเองของชาวบ้านครั้งนี้ ทีมทนายของมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม มั่นใจในการต่อสู้ เพราะมีพยานทั้งจากผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จหลายชุด ภาพถ่ายจากเหตุการณ์จริง และปากคำของผู้อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งมีน้ำหนักเพียงพอ
เรียบเรียง : ติชิลา พุทธสาระพันธ์ ไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคใต้