วันนี้ (4 พ.ค.2567) นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (United States Trade Representative: USTR) ประกาศสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศคู่ค้ารายสำคัญ ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ (Special 301) ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา
โดยคงสถานะไทยอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List: WL) ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ดำเนินการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของไทยมาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเดินหน้าชี้แจงสหรัฐฯ ถึงพัฒนาการและเร่งขับเคลื่อนการเจรจาแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อผลักดันให้ไทยหลุดจากบัญชีที่ต้องจับตามอง
จากการประกาศสถานะดังกล่าว สหรัฐฯ ตระหนักถึงพัฒนาการด้านการคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย โดยเฉพาะการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย 2 ฉบับ
ได้แก่ กฎหมายลิขสิทธิ์และกฎหมายสิทธิบัตร รวมทั้งชื่นชมความพยายามของหน่วยงานไทยในการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและการบูรณาการภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าของสิทธิ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ศุลกากร การจัดทำระบบฐานข้อมูลเครื่องหมายการค้า และลิขสิทธิ์ของกรมศุลกากร การจัดทำแผนปฏิบัติการเร่งด่วน ในการดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญา กับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อกำหนดพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังพิเศษ
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยังคงมีข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับปัญหาบางประการ เช่น ยังคงมีการลักลอบบันทึกภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ การแอบอ้างสิทธิในการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์
การละเมิดลิขสิทธิ์ออนไลน์ผ่านอุปกรณ์หรือแอปพลิเคชันสำหรับการสตรีมและดาวน์โหลด content โดยไม่ได้รับอนุญาต และความล่าช้าในการดำเนินคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา
นายวุฒิไกร กล่าวต่อว่า ทรัพย์สินทางปัญญา ถือเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในด้านการส่งเสริม การคุ้มครอง และการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่ผ่านมากรมฯ ได้เร่งพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศอย่างต่อเนื่องและมีพัฒนาการที่ชัดเจน
มั่นใจเมือดำเนินการแล้วเสร็จว่าสหรัฐฯ จะพิจารณาให้ไทยหลุดจากบัญชีต้องจับตา และทุกบัญชี ซึ่งกรมฯ จะเร่งผลักดันให้ไทยหลุดจากบัญชีต้องจับตาให้สำเร็จ
โดยไทยมุ่งมั่นดำเนินทุกภารกิจ เพื่อที่จะหลุดจากบัญชีต้องจับตา และทุกบัญชีให้ได้ ซึ่งเห็นได้จากการดำเนินการ เพื่อตอบสนองต่อทุกข้อกังวลของสหรัฐฯ ซึ่งหลายเรื่องได้ดำเนินการสำเร็จไปแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ Smart DIP ซึ่งอำนวยความสะดวกรวดเร็วให้กับประชาชนในการให้บริการด้านทรัพย์สินทางปัญญา มีเพียงบางเรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น การแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ เพื่อรองรับการเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาว่าด้วยการแสดงและสิ่งบันทึกเสียงขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก และการแก้ไขกฎหมายสิทธิบัตร เพื่อรองรับการเข้าเป็นภาคีความตกลงกรุงเฮกว่าด้วยการจดทะเบียนการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระหว่างประเทศ
อ่านข่าว : ตั้ง “พิชิต” เป็นรัฐมนตรี แค่อ้าง “กฤษฎีกา”ไม่พอ
ตาวัย 90 ปี แจ้งความ ตร.ทองหาย 50 บ. หลังประสานกู้ภัยฯเข้าเก็บศพน้องสาว