เร่งติดตาม 3 เกาหลีฆ่าเพื่อน ตัดนิ้ว ยัดถังถ่วงน้ำชลบุรี

อาชญากรรม
12 พ.ค. 67
13:11
3,006
Logo Thai PBS
เร่งติดตาม 3 เกาหลีฆ่าเพื่อน ตัดนิ้ว ยัดถังถ่วงน้ำชลบุรี
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รอง ผบช.น. เผยความคืบหน้าคดีฆ่าหนุ่มเกาหลียัดถังโบกปืนถ่วงน้ำ ใน จ.ชลบุรี พบผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุ 3 คน วางแผนกันทำเป็นขั้นตอน ขณะนี้ 2 คน หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนปมเหตุ ยังไม่ชัดเจนว่าขัดเรื่องผลประโยชน์ เกี่ยวกับเรื่องผิดกฎหมายหรือไม่

วันนี้ (12 พ.ค.2567) ความคืบหน้ากรณีคดีหนุ่มเกาหลี คือ นายโรห์ อึน จง อายุ 34 ปี ถูก 2 เพื่อนร่วมชาติฆาตกรรมนำร่างยัดใส่ถัง 200 ลิตร แล้วโบกปูนถ่วงน้ำที่อ่างเก็บน้ำมาบประชัน หมู่ 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยก่อนหน้านี้ยังมีข้อมูลจากแม่ผู้เสียชีวิตที่อยู่เกาหลีได้รับสายปริศนาว่า ลูกชายได้นำยาเสพติดไปทิ้งน้ำ ทำให้ได้รับความเสียหาย แม่ต้องเอาเงินมาให้จำนวน 3 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นลูกชายจะถูกฆ่าตาย

ด้วยความเป็นห่วง จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับสถานทูตเกาหลี เพื่อประสานมาทางยังตำรวจ ให้เร่งติดตามตัว สุดท้ายตำรวจแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จนตามไปเจอและพบเป็นศพแล้ว

ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 14.00 น. จะเดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.มักกะสัน ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้มีการตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนร่วม เพราะมีพื้นที่เกี่ยวเนื่อง โดยจุดเกิดเหตุ คือ สน.มักกะสัน และขณะนี้พี่สาวของผู้เสียชีวิต กำลังบินมาจากเกาหลีแล้ว ก็จะมีการตรวจยืนยันอัตลักษณ์บุคคลให้ชัดเจน

อ่านข่าว : พบศพ "หนุ่มเกาหลี" โบกปูนยัดถังถ่วงน้ำ หลังถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้าน

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.

เบื้องต้นสภาพศพ แพทย์ระบุว่า นิ้วทั้ง 10 นิ้วถูกตัด ซึ่งการตัดนิ้วก็ถือเป็นการอำพรางศพ เพื่อไม่อยากให้ตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือได้ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าตัดก่อนหรือตัดหลังการเสียชีวิต หากตัดนิ้วก่อนเสียชีวิตจะถือเป็นการทรมาน และหากตัดหลังการเสียชีวิต ก็เพื่อไม่ให้ตรวจหาเจอว่าผู้ตายคือใคร หลังพบศพจึงเป็นประเด็นที่จะต้องตั้งไว้เรื่องของการตัดนิ้ว

ทั้งนี้หาก วิเคราะห์พฤติการณ์ คือคนเกาหลีด้วยกัน และทางเพื่อนหรือทางญาติของผู้เสียชีวิต ก็ยืนยันว่า ผู้ตายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ดังนั้นจึงต้องทำการสืบสวนก่อน และจะต้องตรวจสภาพศพว่ามีสารเสพติดหรือไม่ด้วย ส่วนจุดที่ ใช้ฆ่า อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ เพราะเบื้องต้นพบว่าออกจากกรุงเทพไปแล้ว จะเป็นระหว่างทางหรือที่ไหนอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้แน่ชัด

ตำรวจได้การสอบปากคำ บุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้วบางส่วน ทั้งภรรยา เพื่อน และญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งทุกคนยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด ขณะที่การสอบปากคำภรรยา ให้การเป็นประโยชน์ และบอกว่า ผู้เสียชีวิตไม่ได้สนิทสนมกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน เพียงแค่ไปเจอกันที่อาร์ซีเอเท่านั้น

ขณะที่ผู้ก่อเหตุอีก 1 คน ที่อยู่ระหว่างหลบหนี ยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่นั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า ยังไม่พบว่ามีการออกทางด่าน ตม. ส่วนจะออกทางช่องทางธรรมชาติหรือไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด

พบมีผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุ 3 คน 

พล.ต.ต.นพศิลป์ และชุดทำคดี ร่วมประชุม ติดตามคดี โดยเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าไทย เมื่อวันที่ 30 เม.ย. และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ได้เดินออกจากที่พัก ย่านอาร์ซีเอ ประมาณ 16.00 น. เพื่อไปเดินในห้างสรรพสินค้า ที่อยู่ไม่ไกล และกลับเข้ามาที่พัก ต่อมา เวลา 19.36 น. ผู้ตาย ได้ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้าง มุ่งหน้าสถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ ช่วง 02.00 น. ได้ออกมาจากสถานบันเทิง พร้อมกับเพื่อนที่เดินประกบ ก่อนจะมีรถยนต์สีขาวขับออกมารับ จากการสืบสวนพบมีคนอยู่ในรถ 3 คน และผู้เสียชีวิตอีก 1 คน หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ชื่อนายคิม ทำหน้าที่ขับรถ และเป็นผู้ติดต่อเช่ารถมาก่อเหตุ

หลังจากขับออกจากสถานบันเทิง รถขับมุ่งไปหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านร่มเกล้า ซึ่งเป็นบ้านเช่า โดยผู้ต้องหาอีกคน หรือนายรี เป็นผู้เช่า ตั้งแต่วันที่ 1-4 พ.ค. ตรวจสอบวงจรปิดในบ้าน ผู้ต้องหาได้ถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องออกไป จากนั้นนายคิมได้ขับรถออกมาคนเดียว เพื่อมาเก็บสิ่งของ ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท และกลับมาที่บ้านหลังเดิม จากนั้นขับรถออกมุ่งหน้าไปคอนโดฯ อีกแห่งที่สุขุมวิท 77 ซึ่งเป็นที่พักของนายลุน นายลุนเข้าไปเอาสิ่งของบางอย่าง แต่ไม่ได้ไปด้วย จากนั้นได้ขับรถมุ่งหน้าไปพัทยา จ.ชลบุรี

ก่อนทั้ง 2 คนเช่าบ้านพักอีกหลัง และได้ถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด และได้เช่ารถกระบะเพิ่มอีก 1 คัน โดยนายคิมเป็นผู้เช่าทำสัญญา ช่วง 15.00 น. ของวันที่ 3 พ.ค. ผู้ต้องหา ขับรถมาซื้อถังสีดำ และเชือก ก่อนเจ้าหน้าที่ไล่สืบสวน จบพบว่าผู้ต้องหา ขับรถมาที่อ่างเก็บน้ำก่อนจะมาพบผู้เสียชีวิต

ส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหา เชื่อว่ามีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 3 คน พบว่า 1 คนหลบหนีไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนอีกคนเดินทางกลับประเทศ และอีกคนหรือนายคิม ยังไม่พบประวัติเดินทางออกนอกประเทศ โดยได้ประสานทางการเกาหลี เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาแล้ว ตามสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน

หากผลการตรวจดีเอ็นเอ ชัดเจนว่าผู้เสียชีวิต คือนายโรห์ ตำรวจจะดำเนินการออกหมายจับ ตามขั้นตอน ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายกับผู้ต้องหา จากการสอบถามญาติ และแฟนผู้ตาย ยืนยันว่าไม่รู้จักกันมาก่อน ส่วนประเด็นที่พบว่าผู้ตายถูกตัดนิ้ว จะต้องรอผลจากนิติเวชก่อน ว่าถูกตัดก่อนหรือเสียชีวิต อาจมีความไปได้ ว่าการตัด ต้องการเค้นข้อมูลบางอย่าง หรือ ทำเพราะปกปิดลายนิ้วมือ ให้ยากต่อการติดตาม

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีการเตรียมการ วางแผนมาอย่างดี นายคิม หนึ่งในผู้ต้องหา เดินทางเข้าออกไทย 8 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2563 น่าจะมีความชำนาญเรื่องเส้นทาง ทั้งนี้การสืบสวนเวลานี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงว่ามีคนไทยเกี่ยวข้อง

อ่านข่าว : 

อดีตนางงามร้องถูกแฟนหนุ่มทำร้าย - ไม่รับผิดชอบค่าเลี้ยงดูลูก

ตร.อายัดศพ "พนักงาน" มาบตาพุดแทงค์ชันสูตรรอบใหม่

ตร.เร่งตรวจวงจรปิดหาคนทิ้ง "เด็กทารก 1 เดือน" ริมทางรถไฟ ย่านบางบอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง