วันนี้ (17 พ.ค.2567) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงยุติธรรม ระหว่างกรมราชทัณฑ์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และกรมคุมประพฤติ กับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าว จากสาเหตุพบว่า ปัจจุบันมีผู้ต้องขัง ที่ติดหนี้ กยศ.แล้วพ่อแม่ ผู้ปกครองต้อง นำทรัพย์สินไปค้ำประกัน จากการสำรวจมีผู้ต้องขัง 4,000 คน อยู่ในเรือนจำทั่วประเทศ ติดคุก และไม่สามารถชำระหนี้ กยศ.ได้ ทางกระทรวงฯจึงหารือกับ กยศ. ในการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังด้วยการปลดการค้ำประกัน เพื่อให้พ่อแม่ได้นำทรัพย์ไปใช้ลงทุนทำอย่างอื่นได้ ส่วนหนี้ผู้ต้องขังก็จะปรับโครงสร้างหนี้ พักการเก็บชำระไว้ก่อนซึ่งมียอดหนี้รวมของผู้ต้อง กว่า 200 ล้านบาท หรือเฉลี่ยรายละประมาณ 45,000 บาท
นอกจากนี้ที่จะไปช่วยเหลือพักหนี้ กยศ.และปลดผู้ค้ำประกัน โดยให้มีการสำรวจคือกลุ่มผู้ถูกคุมประพฤติ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติ ซึ่งคาดว่ามีเกือบ 20,000 คน และกลุ่มผู้ที่อยู่ในความดูแลของสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน อีกประมาณ 3,000 คนที่บางส่วนที่เป็นลูกหนี้ กยศ.
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ความร่วมมือพักหนี้ผู้ต้องขัง จะช่วยให้ กยศ.ก็รู้ข้อมูลติดตามลูกหนี้ในเรือนจำได้ ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ต้องขัง คลายกังวลจากที่พ่อแม่ที่ค้ำประกันจะถูกยึดทรัพย์ จากการผิดนัดชำระหนี้ สร้างโอกาสทางการศึกษาเพื่อให้ผู้ต้องโทษได้กลับคืนสู่สังคมได้
ด้านนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนให้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า กยศ.ให้ทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาประมาณ 7,000,000 คน และได้รับชำระเงินคืนจากลูกหนี้ 700,000 ล้านบาท และมีลูกหนี้อยู่ในระบบประมาณ 400,000 คน มีหนี้เสียจำนวนมาก
การทำบันทึกข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากลงพื้นที่ไป จ.เพชรบุรีและพบว่า มีผู้ต้องขังคนหนึ่งได้รับโทษจำคุก 22 ปี และยังติดหนี้ กยศ.จึงมองว่า หากทางครอบครัวของผู้ต้องขังไปเป็นหนี้ค้ำประกันกองทุนฯ อาจจะถูกยึดทรัพย์สิน สร้างความเดือดร้อน จึงหากทำโครงการพักชำระหนี้ให้กับผู้ต้องขัง ปลดการค้ำประกันจะช่วยเหลือครอบครัวและผู้ปกครองของผู้ต้องขังได้
อ่านข่าว :
รมว.ศธ.สั่งด่วนยกเว้นผ่อนผัน "เครื่องแบบนักเรียน-รองเท้า" ลดภาระผู้ปกครอง