วันนี้ (17 พ.ค.2567) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีการออกมาเรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และเรียกร้องให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายมาตรา 112 ภายหลังจากที่มีการเสียชีวิตของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติขอแสดงจุดยืนจะคัดค้านไม่ให้มีการนิรโทษให้กับผู้กระทำในมาตรา 112 และคัดค้านไม่ให้มีการแก้มาตรา 112 เพราะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ได้เป็นปัญหา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่เกิดจากการกระทำความผิดที่ฝ่าฝืนกฎหมายมาตรา 112 อีกทั้งมาตรา 112 ไม่เคยทำให้คนปกติทั่วไปได้รับความเดือดร้อน
อ่านข่าว : ราชทัณฑ์เปิดข้อมูลรักษา "บุ้ง ทะลุวัง" ก่อนส่ง รพ.ธรรมศาสตร์
นายอัครเดช กล่าวว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้นเป็นกฎหมายที่ป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นความมั่นคงของรัฐ ดังนั้นกรณีที่เกิดจะต้องไปดูว่าสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากการทำผิดอะไร มีบุคคลใครอยู่เบื้องหลัง อีกทั้งกระบวนการในการพิจารณาคดีก็เป็นอำนาจศาลที่จะให้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งหากได้รับการประกันตัวแล้วก็จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลสั่ง แต่หากมีการฝ่าฝืนเงื่อนไขการประกันตัวก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยยกเลิกการประกันตัวเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
“ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ไม่เช่นนั้นประเทศชาติจะเดินต่อไม่ได้ และการนิรโทษกรรมผู้กระทำผิดมาตรา 112 นั้นไม่ได้มีเป็นมูลเหตุจูงใจทางการเมือง เป็นเรื่องของความมั่นคงของรัฐ ไม่ใช่คดีที่มีมูลเหตุทางการเมืองเนื่องจากสถาบันอยู่เหนือการเมือง จึงไม่ควรมีการนิรโทษกรรม และการแก้ไขมาตรา112 ก็จะกระทบความมั่นคงของประเทศ พรรครวมไทยสร้างชาติจึงขอคัดค้าน” โฆษก รทสช. กล่าวทิ้งท้าย
อ่านข่าว : "รุ้ง-มายด์" บุกทำเนียบจี้รัฐบาลสอบ "บุ้ง ทะลุวัง" เสียชีวิต
“ธนกร” ค้าน “ปิยบุตร” ชี้ แค่ปลายเหตุนิรโทษฯ คนผิด ม.112
นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เรียกร้องให้ผู้มีอำนาจและรัฐบาลตรากฎหมายนิรโทษกรรม โดยรวมคดีผู้กระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เข้าด้วย หลังเกิดเหตุ “บุ้ง ทะลุวัง” เสียชีวิตในเรือนจำ โดยอ้างว่าคดีนี้มีแรงจูงใจจากการเมือง ว่า ส่วนตัวต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว “บุ้ง” ด้วย เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
แต่ตนก็ไม่เห็นด้วยกับทั้งการแก้ไขมาตรา 112 รวมถึงการนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดในคดีมาตรา 112 ดังกล่าว เพราะถือเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ และย้ำมาโดยตลอด ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง จึงขอคัดค้านหากมีผู้เสนอให้รวมคดีนี้ เป็นคดีการเมือง เพราะมาตราดังกล่าวถือเป็นความมั่นคงของชาติที่ต้องมีไว้ปกป้องประมุขแห่งรัฐ ซึ่งผู้ใดจะละเมิดมิได้ ซึ่งควรมุ่งไปแก้ไขที่ต้นเหตุ คือผู้ที่ให้ข้อมูลบิดเบือน และอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวมากกว่า หากไม่มีผู้ใหญ่กลุ่มนี้ คอยยุยง ส่งเสริมให้ข้อมูลผิดๆ คงไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวต้องการให้มีการแก้กฎหมายเกี่ยวกับการประกันตัวนั้น นายธนกร กล่าวว่า กฎหมายให้สิทธิขั้นพื้นฐานแก่ผู้ต้องหาตามกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งในกรณีของ “บุ้ง” นั้น ต้องแยกส่วน เรื่องศาลถอนประกันกับการประกาศอดอาหาร เป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งการถอนประกัน ตนเชื่อว่า ศาลมีการวินิจฉัยที่รอบคอบพิจารณาจากหลักฐานและพฤติการณ์การกระทำความผิดซ้ำหรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นดุลยพินิจของศาล ตนไม่ขอก้าวล่วง
ทั้งนี้ตนเห็นด้วยที่ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมมีคดีที่มาจากแรงจูงใจทางการเมือง มีข้อสรุปออกมาค่อนข้างชัดเจนแล้ว ว่า เรื่องการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย การจะนิรโทษกรรม ควรเป็นคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ทั้งที่เป็นแกนนำและมวลชนที่ร่วมชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2548 ถึงปัจจุบัน หากเป็นคดีที่ไม่ร้ายแรง ก็เข้าข่ายได้รับการนิรโทษกรรมได้
“คนที่พูดกล่าวหา ให้ร้ายดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำผิดมาตรา112 แบบซ้ำซาก หากมีการเหมารวมยกเข่งนิรโทษกรรมให้คนเหล่านี้ ถือเป็นการ เหยียบย่ำหัวใจคนไทยมากเกินไป เพราะกฎหมายนี้ มีไว้ปกป้องประมุขของประเทศไม่ให้ถูกละเมิด เชื่อว่า ถ้านิรโทษฯให้ไม่มีใครรับได้แน่นอน” นายธนกร กล่าว
อ่านข่าว :
รมว.ยธ.ให้รอ 30 วันผลชันสูตร "บุ้ง ทะลุวัง" ร่วมงานสวดอภิธรรมคืนนี้
ราชทัณฑ์เปิดข้อมูลรักษา "บุ้ง ทะลุวัง" ก่อนส่ง รพ.ธรรมศาสตร์
จับกระแสการเมือง 16 พ.ค.2567 : ยุติธรรม 2 มาตรฐาน "บุ้ง ทะลุวัง VS ทักษิณ" เลือกปฏิบัติของแท้