แจ้ง 3 ข้อหาเจ้าของฟาร์มดัง "ลูกเสือโคร่ง" ของกลางถึงบึงฉวาก

สิ่งแวดล้อม
18 พ.ค. 67
14:01
1,049
Logo Thai PBS
แจ้ง 3 ข้อหาเจ้าของฟาร์มดัง "ลูกเสือโคร่ง" ของกลางถึงบึงฉวาก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมอุทยานฯ แจ้ง 3 ข้อหา "เจ้าของฟาร์มดัง" ย่านบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ปมลูกเสือโคร่งหลุดแต่อ้างเป็นไลเกอร์เพ้นส์ลาย สุดท้ายยอมส่งมอบลูกเสือ ก่อนย้ายไปดูแลที่บึงฉวาก พบไม่มีเอกสารครอบครอง ไม่มีไมโครชิพ ส่วนลูกสิงโต ไม่ขออนุญาตเคลื่อนย้ายจากนครปฐม เจ้าของฟาร์ม

จากกรณีลูกเสือโคร่งหลุดในชุมชนย่านบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2567 โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านได้ช่วยกันล้อมจับได้สำเร็จ ก่อนส่งมอบให้ตำรวจ สภ.บางปะกง แต่เจ้าของได้ไปขอรับมอบโดยใช้เอกสารการถ่ายทำภาพยนตร์ อ้างว่าเป็น "ไลเกอร์เพ้นต์สี" ไม่ใช่ "เสือโคร่ง"

กู้ภัยและชาวบ้านช่วยกันล้อมจับลูกเสือโคร่งหลุดในชุมชน

กู้ภัยและชาวบ้านช่วยกันล้อมจับลูกเสือโคร่งหลุดในชุมชน

กู้ภัยและชาวบ้านช่วยกันล้อมจับลูกเสือโคร่งหลุดในชุมชน

กระทั่งวานนี้ (17 พ.ค.2567) เวลา 16.00 น. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งการชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) และชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 ร่วมส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เข้าตรวจสอบและรับมอบเสือโคร่งของกลางจากเจ้าของฟาร์มในพื้นที่บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา

แจ้ง 3 ข้อเจ้าของฟาร์มย่านบางคล้า

ทั้งนี้ ได้จับกุมผู้ต้องหา 1 คน เป็นเจ้าของฟาร์มในพื้นที่บางคล้า พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นลูกเสือโคร่ง ตัวเมีย อายุ 5-6 เดือน ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง พบว่าเป็นตัวเดียวกันกับที่ปรากฏภาพว่าหลุดไปไนชุมชน เนื่องจากมีลักษณะ ลาย อายุ เหมือนกัน แต่ไม่มีเอกสารหลักฐานการครอบครองของทางราชการ และเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า (เลขไมโครชิพ) ถือเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 15 ฐาน “ปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง พ้นจากการดูแลของตน มีโทษตามมาตรา 91 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, กระทำผิดตามมาตรา 17 ฐานครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษตามมาตรา 92 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนกรณีตรวจสอบพบลูกสิงโต พบเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า (เลขไมโครชิพ) ซึ่งแจ้งครอบครองที่ สบอ.3 (บ้านโป่ง) ของฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าควบคุม (สิงโต) กระป๋องสี ไลออน ซู จ.นครปฐม เจ้าของฟาร์มในพื้นที่บางคล้าที่นำสิงโตต่อเจ้าหน้าที่ โดยอ้างว่าเป็นไลเกอร์ในช่วงแรก จึงมีความผิดฐานครอบครองสัตว์ป่าควบคุม โดยไม่ได้รับอนุญาต”มีโทษตามมาตรา 90 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ฟาร์มกระป๋องสีฯ โดนไม่ขออนุญาตเคลื่อนย้ายสิงโต

ขณะที่ฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าควบคุม (สิงโต) กระป๋องสี ไลออน ซู จ.นครปฐม กระทำผิดตามมาตรา 19 วรรคสอง ฐานไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการแจ้งการรับแจ้ง ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด (เคลื่อนย้ายลูกสิงโตโดยไม่ได้รับอนุญาต) มีโทษตามมาตรา 91 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมเจ้าของฟาร์มในพื้นที่บางคล้า พร้อมตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครอง และสัตว์ป่าควบคุม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งขอให้พนักงานสอบสวนเรียกเจ้าของฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าควบคุม (สิงโต) กระป๋องสี ไลออน ซูม มารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีต่อไป

ลูกสิงโตของกลาง

ลูกสิงโตของกลาง

ลูกสิงโตของกลาง

สำหรับสัตว์ป่าของกลาง ลูกเสือโคร่งส่งมอบให้ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก (สวนสัตว์บึงฉวาก) ส่วนสิงโต รับฝากไว้ที่ฟาร์มสิงโตขาวบางคล้า ดูแลจนกว่าคดีถึงที่สิ้นสุดต่อไป

"ลูกเสือ" ถึงสวนสัตว์บึงฉวาก พบขาหลังอ่อน

ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ค.2567) เวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่นำส่งลูกสิงโตตัวดังกล่าวถึงสวนสัตว์บึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี พบว่า ลูกเสือโคร่งเป็นเพศเมีย น้ำหนัก 20.5 กิโลกรัม

สัตว์แพทย์ตรวจสุขภาพเบื้องต้น พบว่า มีความสนใจสิ่งแวดล้อมดี มีพฤติกรรมค่อนข้างติดคน มีความอยากใกล้ชิคคนตลอดเวลา กินเนื้อวัวและนมปกติ ปัสสาวะปกติ แต่ยังไม่ถ่ายอุจจาระ โดยจะให้กินนม KMR ชนิดผง (ชง) ภายใน 1 วัน แบ่งให้กินนมทุก 3 ชั่วโมงต่อครั้ง ครั้งละ 500 มิลลิลิตร ให้กินเนื้อวัวสับหยาบวันละ 2 มื้อ ครั้งละ 500 มิลลิกรัม รวมทั้งเสริมแคลเซียมสำหรับสุนัขแบบเม็ด

นำส่งลูกเสือถึงสวนสัตว์บึงฉวาก

นำส่งลูกเสือถึงสวนสัตว์บึงฉวาก

นำส่งลูกเสือถึงสวนสัตว์บึงฉวาก

นอกจากนี้ พบว่า สองขาหลังลงน้ำหนักได้ แต่ไม่แข็งแรงมาก (ขาหลังอ่อน) ซึ่งจะต้องตรวจดูอาการต่อไปอย่างต่อเนื่อง ต้องเสริมสารอาหารจำพวกแคลเซียม และให้กินอาหารที่ถูกหลักตามโภชณศาสตร์ที่ลูกเสือโคร่งควรได้รับตามหลักวิชาการ เพื่อป้องกันภาวะโรคกระดูกบาง กระดูกเสื่อม ในลูกสัตว์ได้

ส่วนการเลี้ยงดูแลจะต้องทำการแยกเลี้ยงเดี่ยว เพื่อทำการกักโรคภายใน 7 วัน ไม่ปล่อยเดินเล่นนอกอาคารเลี้ยงดูลูกสัตว์ โดยสัตวแพทย์จะต้องดำเนินการเจาะเลือด เพื่อตรวจสุขภาพทั่วไป และส่งเก็บเลือดไปยังหน่วยนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานฯ เพื่อทำการตรวจชนิดพันธุ์ของลูกเสือโคร่ง และทำการฝังไมโครชิฟ เพื่อทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่าต่อไป

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบไมโครชิพ

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบไมโครชิพ

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบไมโครชิพ

อ่านข่าว

ล้อมจับ "ลูกเสือโคร่ง" โผล่กลางชุมชนย่านบางปะกง 

เจ้าของอ้าง "ไลเกอร์" เพ้นท์ลาย ไม่ใช่ "ลูกเสือโคร่ง" 

คนละตัว! ลูกเสือโคร่ง-สิงโต กรมอุทยานฯ สั่งยึด-เช็กสัตว์ทุกตัว 

อายัด "ลูกเสือโคร่ง-สิงโต"ฟาร์มดัง ไม่มีใบอนุญาต 

รู้จักเจ้าป่าเลือดผสม "Liger และ Tigon" 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง