กว่า 7 เดือนที่ "แป้ง นาโหนด" หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง ผู้ต้องขังคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งหลบหนีจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ขณะเข้ารับการรักษาตัว นอกเรือนจำฯ ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.2566 รวมระยะเวลา 219 วัน
คดีนี้ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่ต้องแกะรอยเส้นทางหลบหนี ก่อนพบเบาะแส พิกัดซ้อนตัวของ แป้ง นาโหนด ที่ บนเทือกเขาบรรทัด บ้านตระ ต.ปะเหลียน จ.ตรัง ครั้งนั้น ตำรวจและเจ้าหน้าที่นับร้อยคนระดมปิดเทือกเขาบรรทัดล่า แต่ไม่เจอตัว ท่ามกลางกระแสข่าวการหลบหนีออกนอกประเทศ
แป้ง นาโหนด
จากนั้นแป้ง นาโหนด มีการปล่อยคลิปออกมา 3 ครั้งทักท้วงกระบวนการยุติธรรม จนข่าวเงียบหาย ก่อนทางการไทยได้รับการประสานจากอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2567 ยืนยันจับกุมตัวได้ที่ เกาะบาหลี
กระทั่งวันที่ 4 มิ.ย. ทางการอินโดนีเซีย ส่งตัวนายเชาวลิต กลับประเทศไทย และส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามขั้นตอน ก่อนวันถัดมา วันที่ 5 มิ.ย. ได้มีการส่งตัวแป้ง นาโหนด เข้าควบคุมที่เรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง
เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว แป้ง นาโหนด จาก จ.นครศรีธรรมราช เข้า เรือนจำกลางบางขวาง (5 มิ.ย.67)
พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงกระบวนการสอบสวนและการฝากขัง แป้ง นาโหนด ซึ่งหลังเสร็จกระบวนการ จะคุมตัวมาควบคุมที่ เรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง โดยขั้นตอนการ ดำเนินการ 10 วันแรก จะเป็นการกักโรค หลังจากนั้นจะเป็นการแยกขัง (อ่าน : ส่ง "แป้ง นาโหนด" จากนครศรีฯ เข้า "บางขวาง")
อ่านข่าว : เศรษฐา" ยืนยันจับ "แป้ง นาโหนด" จนมุมที่อินโดนีเซีย
ส่อง "เรือนจำกลางบางขวาง"ที่คุมขัง "แป้ง นาโหนด"
"เรือนจำกลางบางขวาง" หรือชื่อเดิม "เรือนจำกองมหันตโทษ" เป็นหนึ่งในเรือนจำความมั่นคงสูงในไทย ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวด เพราะต้องควบคุมผู้ต้องขังที่มีอัตราโทษสูง เป็นเรือนจำที่ใช้ควบคุมผู้ต้องขังชายที่คดีเสร็จเด็ดขาดหรืออยู่ระหว่าง อุทธรณ์ ฎีกาที่มีกำหนดโทษตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไปถึงประหารชีวิต
เรือนจำกลางบางขวาง
เรือนจำกลางบางขวาง ในอดีต
เรือนจำเเห่งนี้ก่อตั้งในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงดำริเห็นว่า บ้านเมืองกำลังเดินเข้าสู่ความเจริญ ควรย้ายเรือนจำกองมหันตโทษ (คุก) ออกไปจากพระนคร และให้จัดซื้อที่ดิน ฝั่งตะวันออกแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ ต.บางขวาง อ.ตลาดขวัญ จ.นนทบุรี เป็นเนื้อที่ 60,776 ตารางวา แต่ยังไม่ทันที่จะลงมือก่อสร้าง มีการเปลี่ยนเสนาบดีฯ นโยบายการสร้างเรือนจำก็เปลี่ยนไป
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ปี พ.ศ.2470 สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิจ ได้ทรงดำริจะตั้ง "กรมราชทัณฑ์" จึงได้ทรงแต่งตั้ง มหาอำมาตย์โทพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิต) อำมาตย์เอก พระยาศิริชัยบุรินทร ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี อำมาตย์โทพระทัรฑการประชานุชิตเป็นเจ้าพนักงานซื้อที่ดินต่อไปอีก จนมีเนื้อที่จำนวน 84,981 ตารางวา ได้เริ่มก่อสร้างเรือนจำ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2470 เป็นต้นมา
อ่านข่าว : วินาที "แป้ง นาโหนด" ถึงไทย ใส่เสื้อเกราะ ผ้าปิดหน้า คุมสอบ สภ.เมืองนครศรีฯ
สำหรับ การก่อสร้างเรือนจำกลางบางขวาง ต้องการให้เป็นเรือนจำแข็งแรงมั่นคงในระดับสูง หรือ Maximum security โดยได้นำแบบก่อสร้างเรือนจำต่างๆทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา มาเปรียบเทียบกับความประสงค์ของการราชทัณฑ์ไทย ได้พยายามขจัดอุปสรรคที่เคยเกิดขึ้นตามเรือนจำแต่ก่อน เช่น สร้างหอคอยสูง 30 เมตรตรงกลาง
ให้เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ได้รอบเรือนจำ กำแพงคอนกรีตรอบนอกสูง 6 เมตร ยาว 2,406 เมตร ลึกลงไปในดินอีก 1 เมตร พร้อมทั้งป้อมรักษาการณ์เป็นระยะรวม 20 ป้อม เหนือกำแพงโดยรอบขึงไฟฟ้าแรงสูงอีกชั้นหนึ่ง กั้นกำแพงภายในให้แยกเป็นแดน ๆ ยาว 1,298 เมตร
มีประตูแต่ละแดนดุจเป็นเรือนจำเล็ก ๆ รวมกันด้วย 14 แดน อาคารนอนของผู้ต้องขังเป็นตึกสองชั้น พื้นคอนกรีตแบ่งเป็นห้องสองข้างมีทางเดินกลาง มีลูกรงเหล็กปิดกั้นหัวท้าย และกึ่งกลางตึกกั้นมิให้คนรวมกันแห่งเดียวได้
ปี พ.ศ.2474 การก่อสร้างได้เสร็จเป็นส่วนมาก ทางราชการจึงได้สั่งย้ายเรือนจำกองมหันตโทษไปอยู่ที่บางขวาง ในเดือนก.ค. พ.ศ.2474 เรือนจำกลางบางขวางจึงได้ชื่อว่า เรือนจำกองมหันตโทษ โดยมี "อำมาตย์เอกพระยาอาญาจักร์" เป็น "ผู้บัญชาการเรือนจำคนแรก"
ต่อมาในปี พ.ศ. 2485 กระทรวงมหาดไทย ได้ออกกฎกระทรวงฯ ความตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์พุทธศักราช 2479 (ฉบับที่ 3 )เปลี่ยนชื่อเรือนจำกองมหันตโทษเห็นเรือนจำกลางบางขวาง ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2484 จนถึงปัจจุบัน
เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว แป้ง นาโหนด จาก จ.นครศรีธรรมราช เข้า เรือนจำกลางบางขวาง (5 มิ.ย.67)
เรือนจำกลางบางขวาง ใน ปัจจุบัน
ปัจจุบัน เรือนจำกลางบางขวาง ตั้งอยู่ เลขที่ 117 หมู่ 3 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี อัตราความจุปกติสามารถรองรับผู้ต้องขังได้ประมาณ 5,000 คน พื้นที่ภายในกำแพงเรือนจำเป็นกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 6 เมตร ยาวโดยรอบ 2,406 เมตร มีสายไฟฟ้าแรงสูงอยู่บนสันกำแพง มีป้อมรักษาการณ์รอบกำแพง 21 ป้อม
ปัจจุบันมีนายยุทธนา นาคเรืองศรี เป็น ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง จากข้อมูล ณ วันที่ 1 มิ.ย.67 เรือนจำกลางบางขวาง ควบคุมผู้ต้องขังรวม 4,748 คน ทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังชาย ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นนักโทษเด็ดขาด 4,319 คน อีก 429 คน เป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณา
สถานที่คุมขังบุคคลที่มีชื่อเสียง - คดีอุกฉกรรจ์
ทั้งนี้ เรือนจำบางขวาง เป็นสถานที่คุมขังบุคคลที่มีชื่อเสียงและคดีอุกฉกรรจ์หลายคน ทั้ง นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ ผู้ต้องขัง คดีโจรกรรมร้านทองใน จ.ลพบุรี พ.ศ.2563 ซึ่งศาลตัดสินประหารชีวิต, นายบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และ อดีต สส.นครสวรรค์ คดีฆาตกรรมชูวงษ์ แซ่ตั๊ง และวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิต
นายวันชัย เเสงขาว ผู้ต้องขังคดีข่มขืนและฆาตกรรม ด.ญ.อายุ 13 ปี ถูกตัดสินประหารชีวิตแต่ก็ได้รับการลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตจากการพระราชทานอภัยโทษ รวมถึง ซอ ลิน และ เว พิว ผู้ต้องขังชาวเมียนมา คดีฆาตกรรม นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เกาะเต่า เมื่อปี พ.ศ.2557 ถูกตัดสินประหารชีวิตแต่มีการลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เป็นต้น
อ่านข่าว : ไทม์ไลน์ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" หลบหนี ปิดล้อมป่าไล่ล่า