คณะทูต 12 ประเทศอิสลาม ลง 3 จว.ใต้ ขับเคลื่อน-แลกเปลี่ยนแก้ปัญหา

ภูมิภาค
12 มิ.ย. 67
10:48
370
Logo Thai PBS
คณะทูต 12 ประเทศอิสลาม ลง 3 จว.ใต้ ขับเคลื่อน-แลกเปลี่ยนแก้ปัญหา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
คณะทูตกลุ่มประเทศอิสลาม ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนการพัฒนาขับเคลื่อนแก้ปัญหาในพื้นที่ ทั้งการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม และการลงทุนอุตสาหกรรมอาหาร

วันนี้ (12 มิ.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันที่ 2 ที่คณะทูตกลุ่มประเทศอิสลาม หรือ OIC ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนการพัฒนาขับเคลื่อนแก้ปัญหาในพื้นที่ ที่ TK Park จ.ยะลา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ระบุว่า การลงพื้นที่ของคณะทูตฯ เป็นการพยายามทำความเข้าใจพื้นที่ และยืนยันด้านความปลอดภัย เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว สวยงาม และต้องการให้คณะทูตเห็นว่า พื้นที่มีความพร้อม สามารถลงทุนโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล

อย่างไรก็ตามคณะทูต ได้ถามถึงสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งได้ทำความเข้าใจแล้ว โดยขอให้ทุกหน่วยงาน ทั้งฝ่ายปกครอง ด้านการศึกษา พร้อมกันนี้ ย้ำให้หน่วยงานความมั่นคงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด

สำหรับการลงพื้นที่ของคณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม 12 ประเทศมี กิจกรรมรวม 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-13 มิ.ย. ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยเมื่อวานนี้ คณะทูต ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เยี่ยมชมมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี โดยมีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานีให้การต้อนรับ

จากนั้นได้ร่วมชมวิธีการผลิตผ้าบาติกของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนยาริงบาติก ของกลุ่มสตรีในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี โดยคณะทูตได้ทดลองลงสีลวดลายด้วยตัวเอง และลงนามเป็นที่ระลึกด้วย

จากนั้นจึงเดินทางไปยังจ.ยะลา ซึ่งจัดงานเลี้ยงรับรองไว้ โดยมีนายอนุทิน และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อ รมว.ยุติธรรม เป็นตัวแทนรัฐบาลในการต้อนรับคณะทูตและผู้แทนกลุ่มประเทศมุสลิม จาก 12 ประเทศ ที่ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนใต้ จ.ยะลา ร่วมรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน

ทั้งตัวแทนรัฐบาลและคณะทูตฯ ต่างสวมใส่เสื้อผ้าบาติก ลายขอ ซึ่งเป็นลายพระราชทานผ้าลายสิริวชิราภรณ์ สีเขียว สีประจำ จ.ปัตตานี ด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวขอบคุณคณะทูต และระบุว่า พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความหลากหลาย มีประวัติศาสตร์ และทรัพยากรสมบูรณ์ แต่ก็มีความท้าทายต่าง ๆ ที่ต้องการความร่วมมือและความเข้าใจจากทุกฝ่าย

สำหรับบทบาททางการเมืองและผู้แทนประชาชนในพื้นที่ ต้องการพัฒนาและแก้ปัญหา โดยมีเป้าหมายลดความขัดแย้ง และสร้างสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้พลเรือนมีบทบาทสำคัญ ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา และพัฒนาสังคมควบคู่กัน

ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ คณะทูตฯ จะเดินทางไปยัง ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม และจะเยี่ยมชมจุดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

ด้าน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. ระบุว่า การทางเดินทางเยือนพื้นที่ของเอกอัครราชทูตประเทศโลกมุสลิมนั้น มีเป้าหมายสื่อสารข้อเท็จจริงในพื้นที่สู่สายตาชาวโลก ที่สำคัญเพื่อสร้างประโยชน์ต่อยอดความสัมพันธ์ และยกระดับคุณภาพชีวิตในพื้นที่

เนื่องจากจะมีการสื่อสารแบบ two-way communication ด้านเศรษฐกิจ การศึกษา ซึ่งคณะฯ ที่จะเดินทางมามีบทบาทต่อความคิดต่อประเทศโลกมุสลิม ดังนั้นรัฐบาลต้องการสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของการลงทุน พร้อมนำเสนอความสามารถและศักยภาพของพื้นที่ ให้คณะได้เห็น เพื่อเป็นโอกาสที่ดีแก่ประชาชนในพื้นที่

อ่านข่าว : "ฮัจย์" พิธีศักดิ์สิทธิ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ "มุสลิม" ทุกคนปรารถนา

"สิงคโปร์แอร์ไลน์" ชดเชยผู้บาดเจ็บตกหลุมอากาศ 3.6 แสนบาท

กรกฎาคม 2567 หยุดยาว 2 รอบ เตรียมลาพักผ่อนรับฝนพรำฉ่ำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง