วันนี้ (14 มิ.ย. 2567) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ "โรคไข้หวัดนก" ในต่างประเทศ ว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานโดยศูนย์ประสานงานแห่งชาติ (NFP) ของกฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศของเม็กซิโก (IHR)
พบผู้ติดเชื้อโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N2 เสียชีวิต 1 คน เป็นผู้ป่วยเพศชาย อายุ 59 ปี เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 17 เม.ย.2567 ด้วยอาการหายใจลำบาก มีไข้ ท้องเสีย คลื่นไส้ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา และเสียชีวิตในวันเดียวกัน
ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว ได้แก่ ไตวายเรื้อรัง เบาหวานและความดันโลหิตสูง ไม่มีประวัติสัมผัสสัตว์ปีก หรือสัตว์อื่นๆ มาก่อน ยังไม่ทราบแหล่งที่มาของการสัมผัสเชื้อที่แน่ชัด
อย่างไรก็ตาม มีการรายงานพบการระบาดของไข้หวัดนก H5N2 ในฟาร์มสัตว์ปีกในรัฐเม็กซิโกในช่วงเดือน มี.ค. จากการสอบสวนโรคและค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม 17 คน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อไวรัส Influenza และ SARS-CoV 2 ผู้ป่วยคนดังกล่าวนับเป็นผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N2 ในมนุษย์คนแรก
สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย ไม่เคยมีรายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N2 นอกจากนี้ไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกในประเทศมาตั้งปี 2549 เป็นต้นมา ส่วนการตรวจทางห้องปฏิบัติการด้านเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N2 ทั้งในคนและในสัตว์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีห้องปฏิบัติการที่มีศักยภาพพร้อมตรวจวินิจฉัยเชื้อดังกล่าวได้
ส่วนการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนก กรมควบคุมโรคร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ภายใต้แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว (One health) ดำเนินการด้านเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แลกเปลี่ยนข้อมูลและฝึกซ้อมแผนร่วมกันแบบบูรณาการ ทั้งหน่วยงานที่ดูแลสุขภาพคนและสัตว์ จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนก สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข
พร้อมเน้นย้ำประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดนก และมีอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก หายใจลำบาก ภายใน 14 วันให้รีบไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง ประวัติสัมผัสสัตว์ปีก หรือประวัติเสี่ยงต่างๆ หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
อ่านข่าว
ฝนพรำนำเชื้อโรค เสริม "วิตามินซี" เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย