พลิกแผนที่ไทย "ทัวร์เมืองรอง" เปิดพื้นที่ใหม่รับ "นักท่องเที่ยว"

เศรษฐกิจ
14 มิ.ย. 67
15:34
3,354
Logo Thai PBS
พลิกแผนที่ไทย "ทัวร์เมืองรอง"  เปิดพื้นที่ใหม่รับ "นักท่องเที่ยว"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

เมืองรองท่องเที่ยว หรือ 55 เมืองท่องเที่ยวทั่วไทย ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เดินหน้าผลักดันให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวจากเมืองท่องเที่ยวหลัก ไปสู่เมืองรองมากขึ้นตามโครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศตลอดปี และยังเป็นการกระจายรายได้เข้าสู่จังหวัดที่เป็นเมืองรอง โดยดึงจุดเด่นของแต่ละจังหวัดมาเป็น Soft Power ของแต่ละภูมิภาคที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีทั้งความหลายหลาย ทั้ง ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

ตัวอย่างเมืองรองน่าเที่ยว เช่น  “แพะเมืองผี” เชื่อว่า แบ็กแพ็คเกอร์หน้าใหม่ อาจไม่รู้จักว่า คือ อะไร และอยู่ที่ไหน และถ้าใช้ กูเกิลแมป ค้นหาข้อมูลและรูปก็จะเห็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเรียกทางการว่า “วนอุทยานแพะเมืองผี” ต.น้ำชำ อ.เมืองแพร่ จ. แพร่ ห่างไกลจากเมืองหลวง กทม.และจังหวัดใหญ่อย่างเชียงใหม่ หลายร้อยกิโลเมตร แต่จะมีใครทราบว่า จังหวัดเล็กๆแห่งนี้ มีดีหลายอย่างกว่าที่สายตามองเห็น

แพะเมืองผี เป็น ภาษาพื้นเมือง แพะ มีความหมายว่า “ป่าละเมาะ” ส่วนเมืองผี แปลว่า “เงียบเหงา วังเวง” กายภาพของพื้นที่ดังกล่าวมีรูปร่างต่างกันจากดินและหินทราย ที่ถูกกัดเซาะตามธรรมชาติ

ยังไม่รวมตำนานเรื่องเล่าของ “ย่าสุ่ม” ที่หลงเข้าไปที่แพะเมืองผีนี่แค่จุดเริ่มต้น ก็เรียกน้ำย่อยให้เมืองรองอย่าง จ.แพร่ น่าสนใจและน่าท่องเที่ยวไม่น้อยเลย

เปิดเมืองรอง-โชว์ของดีภูมิภาค

แพร่ คือ 1 ใน 55 จังหวัดที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผลักดันให้อยู่ในแผนที่ท่องเที่ยวของ 5 ภูมิภาคเมืองรอง หลังประกาศนโยบายยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปี 2567 เพื่อสร้างมูลค่า และส่งเสริมให้การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เท่าเทียม ให้เกิดความต่อเนื่องตลอดปี เน้นความสำคัญกับเพิ่มคุณค่าและประสบการณ์บนรากฐานวัฒนธรรมพื้นถิ่น

หากปักหมุดเมืองรองน่าเที่ยวจะพบว่า ในพื้นที่ภาคเหนือมีถึง 16 จังหวัด ตั้งแต่ จ.เชียงราย พิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สุโขทัย ลำพูน อุตรดิตถ์ ลำปาง แม่ฮ่องสอน พิจิตร แพร่ น่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี และพะเยา

ขณะที่ภาคอีสาน หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีถึง 18 จังหวัด คือ อุดรธานี อุบลราชธานี หนองคาย เลย มุกดาหาร บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ สกลนคร นครพนม ร้อยเอ็ด มหาสารคาม บึงกาฬ กาฬสินธุ์ ยโสธร หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ

ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก มี 12 จังหวัด ประกอบด้วย ลพบุรี สุพรรณบุรี นครนายก สระแก้ว ตราด จันทบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม ปราจีนบุรี ชัยนาท อ่างทอง และสิงห์บุรี และภาคใต้ 9 จังหวัด ทั้ง นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล ชุมพร ระนอง นราธิวาส ยะลา และปัตตานี

วัดศรีชุม จ.สุโขทัย

วัดศรีชุม จ.สุโขทัย

วัดศรีชุม จ.สุโขทัย

อุทยานประวัติศาสตร์สุดโขทัย

อุทยานประวัติศาสตร์สุดโขทัย

อุทยานประวัติศาสตร์สุดโขทัย

ศูนย์วิจัยกรุงไทย วิเคราะห์ว่า การท่องเที่ยว คือ ปัจจัยหลักที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่นิยมเดินทางยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งมีโอกาสเติบโตขึ้นจาก 3.5 ล้านคน ในปี 2566 เป็น 7.0 ล้านคน และ 9.6 ล้านคน ในปี 2567-2568 ตามลำดับ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น รวมทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่อง

ภาคการท่องเที่ยวไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเติบโตขึ้นจาก 28.2 ล้านคน ในปี 2566 ปี 2567 มีจำนวน 34 ล้านคน และปี 2568 38.5 ล้านคน คิดเป็นการฟื้นตัว 85 % และ 96 % ของปี 2562 สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศไทยราว 1.62 และ 1.92 ล้านล้านบาท

ศูนย์วิจัยกรุงไทย เสนอว่า การท่องเที่ยวควรกระตุ้นให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวในประเทศตลอดทั้งปี เพื่ออุดช่องว่างช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว และมีมาตรการจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาเที่ยวไทยซ้ำ เพื่อเร่งให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น รวมทั้งยกระดับความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีโดย เฉพาะในสายตาของนักท่องเที่ยวจีนที่ยังมีความกังวลในเรื่องดังกล่าวค่อนข้างสูง

วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่

วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่

วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่

กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น-กระชากเงิน “ทุกกลุ่มนักเที่ยว”

ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยระบุว่า ตั้งแต่ 1 ม.ค.-9 มิ.ย. 2567 พบ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยมากกว่า 15 ล้านคน ตลาดหลักส่วนใหญ่มาจากเกาหลีใต้และจีน โดยในปีนี้จีนยังเป็นกลุ่มที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทยสูงสุด ยอดสะสมกว่า 3ล้านคน ขณะที่นักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียมีจำนวนลดลง เนื่องจากหมดช่วงเทศกาลหยุดยาว

ทั้งนี้ไทยมีรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ มูลค่า 736,096 ล้านบาท สำหรับสถิตินักท่องเที่ยวที่เข้ามาสูงสุด 5 อันดับแรก คือ จีน มีจำนวน 3,063,175 คน รองลงมาเป็นมาเลเซีย จำนวน 2,143,327 คน อินเดียจำนวน 903,248 คน รัสเซีย จำนวน 853,532 คน และเกาลีใต้ จำนวน 845,998 คน

ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวไทย 3 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.2567) พบว่ามีจำนวน 49.08 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น8.2 % เกิดรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 2.32 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.22 %

สะพานทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จ.ยะลา

สะพานทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จ.ยะลา

สะพานทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จ.ยะลา

และจังหวัดที่มีการเดินทางท่องเที่ยวสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร มีจำนวน 2,247,422 คน รองลงมาเป็น กาญจนบุรี จำนวน 1,149,691 คน และ ชลบุรี จำนวน 948,631 คน โดยสัดส่วนของนักท่องเที่ยวแบ่งตามรายภาค

ข้อมูลจากกองเศรษฐกิจท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า กรุงเทพมหานคร มีจำนวน 2,247,422 คน ภาคเหนือ จำนวน 2,768,489 คน ภาคกลาง(ไม่รวมกทม.) จำนวน 7,623,433 คน ภาคใต้ จำนวน 2,769,548 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 3,827,618 คน และ ภาคตะวันออก จำนวน 3,143,469 คน

  55 จังหวัดเมืองรองน่าท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค แนวคิดเดียวกัน  5 Must Do in Thailand

55 จังหวัดเมืองรองน่าท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค แนวคิดเดียวกัน 5 Must Do in Thailand

55 จังหวัดเมืองรองน่าท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค แนวคิดเดียวกัน 5 Must Do in Thailand

สำหรับภาคเหนือ พบว่า ประเทศที่เดินทางท่องเที่ยวภาคเหนือ ปี 2564 สูงสุด 5 ลำดับแรก สหรัฐฯ 7,214 คน/ครั้ง รองลงมาเป็นสหราชอาณาจักร (UK) 5,877 คน/ครั้ง ฝรั่งเศส 4,985 คน/ครั้ง จีน 4,975 คน/ครั้ง และเยอรมัน 4,171 คน/ครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-เม.ย.) มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 9.6 ล้านคน/ครั้ง หรือเพิ่มขึ้นเทียบกับช่วงเดียวกับปีที่แล้ว ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยว 9.02 ล้านคน/ครั้ง หรืออัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 6 % จากปี 2566

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท.

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท.

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท.

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการฯ ด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า การเปิด 55 จังหวัดเมืองรองน่าท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาคจะใช้ นโยบายและแนวคิดเดียวกัน 5 Must Do in Thailand คือ “ต้องชิม” Must Eat: อิ่มอร่อย พร้อมการสาธิตอาหารประจำถิ่น

“ต้องเห็น” Must See ศิลปวัฒนธรรมละลานตา, “ต้องสอดส่อง Must Seek: แสวงหา unseen ถิ่นน่าเที่ยว , “ต้องซื้อ” Must Buy: หัตถกรรมล้ำค่าน่าซื้อฝาก และ “ต้องพิชิต” Must Beat: สุดยอดกีฬาท้าทายกายใจ เช่น มวย วิ่ง จักรยาน แข่งเรือ หรือการท่องเที่ยวเชิงกีฬาท้าทายในพื้นที่เมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ททท.ยังได้สนับสนุนกิจกรรมเดือนแห่งความภูมิใจของกลุ่มหลากหลายทางเพศ หรือ “Pride Month” ตลอดเดือน มิ.ย. เนื่องจากกลุ่ม LGBTQ+ เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง เดินทางบ่อยเฉลี่ยปีละ 3-4 ครั้ง และมีระยะเวลาพำนักยาวกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป ถือเป็นกลุ่ม Niche ที่ทรงพลัง และกำลังได้รับความสนใจจากกระแสสังคมและกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงเทรนด์การท่องเที่ยวในระดับโลก

เดือนแห่งความภูมิใจของกลุ่มหลากหลายทางเพศ หรือ “Pride Month”

เดือนแห่งความภูมิใจของกลุ่มหลากหลายทางเพศ หรือ “Pride Month”

เดือนแห่งความภูมิใจของกลุ่มหลากหลายทางเพศ หรือ “Pride Month”

รองผู้ว่าการฯ ด้านสื่อสารการตลาด ชี้ว่า หากส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยให้เป็น Pride Friendly Destination และ Tourism Hub จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มจากทั่วโลก อย่างเท่าเทียมก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้มีเม็ดเงินไหลเวียนเข้าประเทศได้อีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก LGBT Capital พบว่า ในปี 2022 มีชาว LGBTQ+ ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีทั่วโลก จำนวน 388 ล้านคน และกลุ่มนี้มีกำลังการใช้จ่ายมูลค่าประมาณ 4.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ซึ่งก่อให้เกิดเม็ดเงินไหลเวียนทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

โดยททท.จะผลักดันให้ไทยเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 เพื่อเสริมสร้างความเสมอภาค ภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืนในระดับโลก

เมืองหลักร้องขอเพิ่มจัด SLOT การบินเข้าประเทศ

การท่องเที่ยวไทยไม่ได้มีดีแค่กรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต หรือพัทยา เมืองหลัก แต่การที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 10,000,000 คน เป็นสิ่งดีที่มีการใช้จ่ายต่อหัวกับระยะเวลาที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายอยู่ภายในประเทศ รัฐบาลจึงต้องพยายามผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระจายรายได้ ไปสู่ภูมิภาค หรือจังหวัดเมืองรองมากขึ้น

ตลาดนัดขายของในจ.เชียงใหม่

ตลาดนัดขายของในจ.เชียงใหม่

ตลาดนัดขายของในจ.เชียงใหม่

หากกระนั้น นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจ.เชียงใหม่ มองว่า การเดินทางของนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักไปยังเมืองรอง ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น จึงอยากให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ AOT Airline ต่างๆ เพื่อเพิ่มตารางบินจากต่างประเทศ เข้าประเทศให้ได้มากยิ่งขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อนักท่องเที่ยวเขาเข้ามาแล้ว จะต้องได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยด้วย จึงขอให้ฝ่ายความมั่นคงเข้ามาช่วยดูแลในส่วนนี้

แม่ค้ารายหนึ่งที่ตลาดจริงใจมาร์เก็ต จ.เชียงใหม่ บอกกับ “ไทยพีบีเอส ออนไลน์” ว่า ภาพรวมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวถือว่าคึกคักมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ เดินทางเข้ามาเที่ยวในเชียงใหม่จำนวนมาก และมีการตั้งกล้องไลฟ์สดขายสินค้า ทำให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นดีขึ้นมาก และเห็นด้วยหากรัฐช่วยผลักดันให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในเที่ยวในจังหวัดที่เป็นเมืองรอง เพราะจะได้ช่วยกระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้จะมีประเด็นที่หลายฝ่ายกังวล คือ รัฐบาลมีแนวทางที่จะการเก็บภาษีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 300 บาท หรือ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” แต่ก็เสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะภาคเอกชน เนื่องจากวิตกว่า อาจไปสร้างผลักภาระให้นักท่องเที่ยว จึงขอให้รัฐบาลทบทวนในประเด็นดังกล่าว แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ

อ่านข่าว: 18 มิ.ย.จับตา 4 คดีร้อน "การเมืองไทย" ทักษิณ รอด ไม่รอด?

เคาะแล้ว ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซื้อ "สมาร์ทโฟน" ได้

ประเดิมเทปแรก "คุยกับเศรษฐา" 22 มิ.ย.นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง