วันนี้ (23 มิ.ย.2567) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา โพสต์ภาพและข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก NuNa Silpa-archa แจ้งข่าวการตายของพังสร้อยทอง หรือพังแก้มป่อง ช้างป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ว่า "สู่สุคตินะแม่สร้อยแก้มป่อง ไม่ต้องห่วงลูกนะ เชื่อว่าลูกของแม่โตพอที่จะหากินเองได้แล้วด้วยสัญชาตญาณลูกช้างป่าผู้เข้มแข็ง…แม่ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยมจนวาระสุดท้าย"
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่พบลูกช้างออกมาเดินหากินตัวเดียว โดยไม่เห็นแม่ช้าง แต่เป็นช่วงค่ำจึงยังไม่ได้เข้าตรวจสอบ อีกทั้งเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ยังพบว่าแม่ช้างกินกล้วยและขนุนได้ดี กระทั่งวันนี้ (23 มิ.ย.) เข้าตรวจสอบพบว่า ช้างช้างตายแล้ว ซึ่งทีมสัตวแพทย์จะเข้าตรวจสอบต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบลูกช้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านจะช่วยกันติดตามต่อไป
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือน พ.ค.2567 ทีมสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เข้ารักษาช้างป่าตัวดังกล่าว ด้วยการใช้ลูกดอกฉีดยาระยะไกล เป็นยาปฏิชีวนะควบคุมการติดเชื้อและอดการอับเสบ หลังได้รับแจ้งจากหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ วัดเวฬุวัน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2567 ว่า พบช้างป่าแก้มบวมด้านซ้าย ยืนซึม น้ำลายไหล กินอาหารไม่ได้ ต่อมาพบว่า ช้างป่าอาการดีขึ้น แก้มที่บวมลดลงเล็กน้อย ร่าเริง สดใส กินอาหารได้มาก
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สบอ.3 (บ้านโป่ง), เจ้าหน้าที่กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทองผาภูมิ ร่วมกันติดตามอาการหลังการวางยาซึมรักษาพังแก้มป่อง พบว่า ช้างป่าฟื้นตัวจากการวางยาดี โบกหูและสะบัดหางเคลื่อนไหวได้ตามปกติ เดินกินหญ้าบริเวณข้างลำห้วย และพบร่องรอยการเดินขึ้นเขากินหัวมันและล้มต้นมะเดื่อ
อ่านข่าว
เอาใจช่วย "พังแก้มป่อง" กินอาหารได้แล้ว-ลูกช้างคลอเคลียไม่ห่าง