จับตา “กองทัพบก” จัดซื้อเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มิลลิเมตร

การเมือง
25 มิ.ย. 67
19:18
4,678
Logo Thai PBS
จับตา “กองทัพบก” จัดซื้อเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มิลลิเมตร
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

เทียบรุ่น GLX160 ของบริษัท Beretta จากประเทศอิตาลี กับ 40 MM GL MK1 บริษัท ST ENGINEERING จากสิงคโปร์

กองทัพบกกำลังมีโครงการจัดหาเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มิลลิเมตร จำนวน 3,015 กระบอก ใช้งบประมาณผูกพัน (งบฯ ปี 2567-2569 / ทบ.1438) วงเงินงบประมาณ 333.761 ล้านบาท (เฉลี่ยกระบอกละ 110,700 บาท)

กองทัพบก ระบุในประกาศ TOR โดยระบุในคุณสมบัติของเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มิลลิเมตร ไว้ถึง 12 ข้อ แต่ประเด็นที่น่าสนใจในวงการหน่วยงานความมั่นคง อยู่ที่ ข้อ 2 และ 3 มีดังนี้

ข้อ 1 ความกว้างปากลำกล้อง ขนาด 40 มิลลิเมตร
ข้อ 2 เครื่องลั่นไก เป็นแบบ Double Action
ข้อ 3 พานท้ายเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มิลลิเมตร กรณีใช้งานเป็นเครื่องยิงลูกระเบิด แบบยิงอิสระสามารถปรับระดับได้ไม่น้อยกว่า 3 ระดับโดยมีช่วงระยะความยาวของการปรับระดับพานท้ายเข้าสุดและออกสุด ไม่น้อยกว่า 11.5 มิลลิเมตร

ข้อสังเกต

1.จากผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธในหน่วยงานความมั่นคงว่า การกำหนดหัวข้อกรณีข้อ 2 เครื่องลั่นไก เป็นแบบ Double Action จะเป็นการกำหนดเพียงแบบเดียวหรือไม่ ทั้ง ๆ ที่เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มิลลิเมตร มีทั้งแบบ Double Action และ Single Action

2.ผู้เชี่ยวชาญในหน่วยงานความมั่นคงยืนยันว่า ในอดีตกว่า 10 ปีก่อน กองทัพบก เคยสำรวจอาวุธประเภทเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มิลลิเมตร ซึ่งได้รับรองไว้ 3 แบบดังนี้
GLX160 ของบริษัท Beretta ประเทศอิตาลี
40 MM GL MK1 บริษัท ST ENGINEERING ประเทศสิงคโปร์
ST2 T-40 G3 ของบริษัท MKE ประเทศตุรกี

แหล่งข้อมูลในหน่วยงานความมั่นคง เปิดเผยว่า ในช่วงแรก GLX160 ของบริษัท Beretta จากอิตาลี ได้รับความสนใจ เนื่องจากกองทัพบกเคยจัดซื้อเครื่องยิงลูกระเบิด 40 มิลลิเมตร ในรุ่นนี้ แต่ปรากฏว่ากลางเดือนที่ผ่านมา

มีข้อทักท้วงจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองทัพ ระบุว่า ยังมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องยิงลูกระเบิด 40 MM. ในรุ่นนี้อีก (GLX160 ของบริษัท Beretta จากประเทศอิตาลี ) หรือไม่

เนื่องจากกองทัพบกเคยมีใช้งงาน และปัจจุบันเครื่องยิงชนิดนี้ พบปัญหาจากการใช้งงาน เช่น หากเสียก็ไม่สามารถซ่อมแซมได้ เนื่องจากผู้ผลิตไม่ได้เปิดสายพานการผลิตแล้ว และไม่มีขายอะไหล่บางชิ้นส่วน โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่มีชื่อว่า “Hammer” (นกปืน) เว้นแต่ต้องสั่งซื้อใหม่ทั้งชุด ทำให้เครื่องยิงที่เสียหาย ถูกทิ้งเอาไว้ใช้งานไม่ได้

เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มิลลิเมตร ในรุ่นถัดมา จึงอาจได้รับเลือกทดแทนที่มีใช้ คือ 40 MM GL MK1 บริษัท ST ENGINEERING จากสิงคโปร์ ซึ่งขั้นตอนการจัดหา จะต้องเสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อทำความคำขออนุมัติการใช้งบประมาณ และคำสั่งซื้อภายในเดือน ก.ย.เนื่องจากหากดำเนินการไม่ทันภายในเดือน ก.ย.นี้ งบประมาณจะถูกส่งคืนไปที่สำนักงานงบประมาณ

อย่างไรก็ตาม เครื่องยิงลูกระเบิดที่อาจอยู่ในแผนการสั่งซื้อ และได้รับอนุมัติแบบ เป็นอาวุธที่เคยมีใช้ในกองทัพบกมากว่า 10 ปี หากเทียบกับอาวุธใหม่ ๆ ที่พัฒนาและมีใช้อยู่ในปัจจุบัน

เป็นที่น่าจับตาว่า กองทัพบกจะเลือกแบบไหน ระหว่าง GLX160 ของบริษัท Beretta จาก อิตาลี ซึ่งเคยจัดซื้อและมีใช้ กับ 40 มิลลิเมตร GL MK1 บริษัท ST ENGINEERING จากสิงคโปร์ ซึ่งยังไม่เคยมีใช้ในกองทัพบก

ข้อมูลเพิ่มเติม : เอกชนที่เป็นคู่สัญญา จัดซื้อเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 MM. และอะไหล่ (GLX160 ของบริษัท Beretta จากประเทศอิตาลี ) คือ บริษัท ไพบูลย์เศรษฐกิจ จำกัด และยังเป็นคู่สัญญาอีกอย่างน้อย 17 สัญญา วงเงิน 103,839,616 บาท (100 ล้านบาท)

อ่านข่าว : เช็กด่วนเลี่ยงเส้นทางรอบอิมแพ็ค-แจ้งวัฒนะ เลือกสว.67

จับ "ผอ." โรงเรียนในหาดใหญ่ ทุจริตอาหารกลางวัน

ครม.ไฟเขียว "โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง" ช่วยชาวนา ไร่ละ 500 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง