หลายจังหวัดภาคกลางเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา 24 ชั่วโมง

หลายจังหวัดภาคกลางที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเร่งอุดรอยรั่วคันกันน้ำ และ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนน้ำท่วมในจังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเพชรบูรณ์ น้ำท่วมขยายวงกว้างกว่า 10 ชุมชนในเขตเมือง

น้ำท่วมในย่านเศรษฐกิจ เขตเทศบาลเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ยังมีปริมาณสูงขึ้น และ ขยายวงกว้างเพิ่มเป็น 11 ชุมชน บ้าน สถานที่ราชการ วัด และ โรงเรียนหลายแห่งถูกน้ำท่วมสูง ขณะที่เทศบาลเตรียมนำกระสอบทรายหลายหมื่นใบแจกให้กับชาวบ้านนำไปวางป้องกันระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 6 เครื่อง เร่งสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนที่จังหวัดอ่างทองแนวคันกั้นระยะทางหลายกิโลเมตร ตลอดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตเทศบาลเมืองอยู่ในสภาพน้ำใกล้ล้นตลิ่งเพราะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ ไหลเชี่ยว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องก่ออิฐให้สูง พร้อมทั้งนำแท่งซิเมนต์ หรือ แบริเออร์ และ กระสอบทรายตั้งอัดเพิ่ม และจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นศูนย์ราชการที่พนังกั้นน้ำพังและถูกน้ำท่วมเมื่อวานนี้ น้ำยังท่วมสูง แม้เทศบาลสามารถกู้พนังจนน้ำไม่ไหลทะลักแล้ว แต่ปริมาณมากที่ไหลทะลักเมื่อวานนี้ ทำให้การสูบน้ำออกเป็นไปอย่างยากลำบาก เจ้าหน้าที่ คาดว่า อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะสามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ชาวบ้าน และ ทหาร เร่งช่วยกันอุดรอยรั่วคันกันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลซึมใต้พื้นแนวกำแพงคันปูนข้างประตูระบายน้ำปากคลองบ้านใหม่ หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ด้วยวิธีตอกเสาเข็มเพิ่ม เพื่อกั้นด้านหลังแนวคันปูน และนำผ้าใบขึงพาดแนวคันปูน เพื่ออุดรอยซึม ป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าพื้นที่คลองบ้านใหม่

สำหรับประตูระบายน้ำปากคลองบ้านใหม่ เชื่อมต่อจากแม่น้ำเจ้าพระยา ป้องกันน้ำไม่ให้เข้าท่วมบ้านในตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี กว่า 500 หลัง และ ป้องกันน้ำในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งคลองบ้านใหม่เป็นคลองรอยต่อระหว่าง 2 จังหวัดนี้

ส่วนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเจ้าหน้าที่ต้องเสริมพนังกั้นน้ำ บริเวณหน้าวัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานสำคัญซึ่งอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านทิศตะวันตกของเกาะเมือง บริเวณนี้เป็นจุดเปราะบางอีกจุดหนึ่ง เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ แม้ทางกรมศิลปากรสร้างพนังกั้นน้ำถาวรบริเวณตลอดแนวหน้าวัด แต่ปริมาณน้ำสูงขึ้นทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวไม่มั่นใจสถานการณ์

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เป็นประธานในการจัดกิจกรรมเพื่อระดมเงินไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัดทางภาคเหนือและภาคกลาง ภายใต้โครงการทำดีไม่ต้องรอเดี๋ยว โดยจัดแสดงดนตรีจากศิลปินและดาราตลกพร้อมตั้งโต๊ะเชิญชวนประชาชนบริเวณย่านอนุสาวรีย์ชัยสมภูมิร่วมกันบริจาคเงินเพื่อช่วยประชาชนที่กำลังเดือดร้อน โดยมีประชาชนช่วยบริจาคเงินจำนวนมาก กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 - 20 ก.ย.เวลา17.00-19.00 น.ต่อเนื่องกันทุกวัน