วันนี้ (28 มิ.ย.2567) บรรยากาศบนเวทีประชันวิสัยทัศน์ผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐอเมริการอบแรก ระหว่าง "โจ ไบเดน" ว่าที่ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต และ "โดนัลด์ ทรัมป์" ว่าที่ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งจัดขึ้นในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ร้อนระอุตั้งแต่เริ่มต้น หลังจากทั้งคู่ไม่ยอมจับมือกันและทรัมป์ไม่แม้แต่จะมองไปทางไบเดน
คำถามแรกที่ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงคือ ประเด็นด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งทรัมป์และไบเดนต่างกล่าวโทษปัญหาเงินเฟ้อ แต่ประเด็นร้อนหนีไม่พ้นเรื่องผู้อพยพ ซึ่งทรัมป์โจมตีว่า นโยบายผู้อพยพและการเปิดประเทศของไบเดน ทำให้ปัญหาอาชญากรรมในสหรัฐอเมริการุนแรงขึ้น ขณะที่ไบเดน ระบุว่า ทรัมป์ใช้นโยบายที่ทำให้ครอบครัวต้องถูกพรากจากกัน
อ่านข่าว : นัดแรก! ดีเบตประชันวิสัยทัศน์ "ไบเดน-ทรัมป์" คู่ชิงผู้นำสหรัฐฯ
หัวข้อนโยบายต่างประเทศเป็นประเด็นที่ทั่วโลกจับตามอง โดยเฉพาะท่าทีของทรัมป์ต่อสงครามในหลายสมรภูมิ ซึ่งอดีตผู้นำเลี่ยงไม่ตอบคำถามว่า จะสนับสนุนการตั้งรัฐปาเลสไตน์เพื่อยุติสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสหรือไม่ รวมทั้งระบุว่า เงื่อนไขของผู้นำรัสเซียเพื่อยุติสงครามในยูเครนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ หลังจากถูกพิธีกรจี้ถามซ้ำ
โค้งสุดท้ายของศึกประชันวิสัยทัศน์รอบนี้ เป็นประเด็นเรื่องอายุ ซึ่งไม่ว่าใครในสองคนนี้ชนะการเลือกตั้งก็จะกลายเป็นผู้นำที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน โดยไบเดนโจมตีทรัมป์ว่า อายุอ่อนกว่าตนเพียง 3 ปีเท่านั้น แต่ความสามารถน้อยกว่ามาก ขณะที่ทรัมป์ตอบโต้ด้วยการท้าให้ไบเดนทำแบบทดสอบสติปัญญา
นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ร่วมเวทีประชันวิสัยทัศน์กับคู่แข่งที่เป็นอดีตผู้นำประเทศ และถือเป็นครั้งแรกที่ไบเดนกับทรัมป์ได้กลับมาอยู่บนเวทีเดียวกันนับตั้งแต่ศึกประชันวิสัยทัศน์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยศึกประชันวิสัยทัศน์รอบ 2 จะจัดขึ้นในเดือน ก.ย.นี้
อ่านข่าว
"ส.ธนาคารไทย" ยันไม่สนับสนุนจัดซื้ออาวุธกับองค์กรทหารเมียนมา
I'm a Rockstar! ลิซ่าเปิดตัวซิงเกิลล่าสุด 27 นาทีทะลุล้านวิว