วันนี้ (8 ก.ค.2567) ตัวแทนผู้เสียหาย นำภาพและข้อมูลการลงทุนออมทองคำ มาร้องเรียนผ่านกองบังคับการปราบปราม หลังร่วมลงทุนบ้านออมทองณัชปภา กับนางสาวกระแต (ผู้ถูกกล่าวหา) แต่ไม่ได้รับผลตอบแทน
น.ส.เอ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้จักกับผู้ถูกกล่าวหาผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยมีโปรไฟล์น่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจออมทองคำไป 5 บาท เป็นจำนวนเงินสด 150,000 บาท รอระยะเวลา 15 วันได้ผลตอบแทน 170,000 บาท หรือได้กำไร 20,000 บาท ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาจ่ายเงินตรงเวลา จึงตัดสินใจลงทุนเพิ่มอีกหลายครั้ง
กระทั่งเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ถูกกล่าวหาแจ้งว่าจะปิดปรับปรุงข้อมูลหลังบ้าน และจะกลับมาจ่ายเงินให้ผู้เสียหายในวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายวันที่ 26 มิ.ย. ผู้ถูกกล่าวหาปิดเฟซบุ๊ก ไม่สามารถติดต่อได้ โดยรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 330,000 บาท
สำหรับพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหา เปิดลงทุนทองคำชื่อ "บ้านออมทองณัชปภา" สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการจดทะเบียนบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ส่วนวิธีการลงทุนร่วมออมทองคำจะได้กำไรต่อน้ำหนักทอง บาทละ 4,000 บาท ภายในระยะเวลา 14-16 วัน ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเลือกรับผลตอบแทนเป็นเงิน หรือทองคำแท่งแต่ช่วงหลังมีการขยายเวลารับ 18 วัน แต่เจ้าตัวไม่ได้แจ้งเปิดรับเก็งกำไรทองคำแท่งปกติ หลังจากนั้นปิดเฟซบุ๊กหนีในวันที่ 26 มิ.ย.2567 ก็ไม่สามารถติดต่อได้
เบื้องต้นมีผู้เสียหายที่เคยเป็นอดีตเพื่อนร่วมงาน และผู้ที่สนใจร่วมลงทุนในพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ชัยนาท อ่างทอง รวมกลุ่มผ่านแอปพลิเคชันไลน์ 180 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 300,000,000 บาท
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบแล้วอาจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ทำงานกันเป็นทีมมีทั้งแม่ข่าย-ลูกข่าย ก่อนจะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป
