วันนี้ (18 ก.ค.2567) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระหว่าง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM)
คาดว่าจะเปิดบริการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มในส่วนตะวันออกในต้นปี 2571 และเปิดให้บริการตลอดทั้งเส้นทางทั้งส่วนตะวันออกและตะวันตกในเดือน พ.ย.2573
นายสุริยะ กล่าวว่า การลงนามสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นโครงการที่ทีความสำคัญต่อการเดินทางของประชาชนคาดว่า ในปีแรกของการเปิดให้บริการฝั่งตะวันออกในปี 2571 จะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 150,000 คนต่อเที่ยวต่อวัน และจะมีผู้โดยสารเมื่อเปิดให้บริการตลอดเส้นทาง ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกประมาณ 400,000 คนต่อเที่ยวต่อวัน
คาดว่าจะเปิดบริการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มในส่วนตะวันออกในต้นปี 2571 และเปิดให้บริการตลอดทั้งเส้นทางทั้งส่วนตะวันออกและตะวันตกในเดือน พ.ย.2573
ส่วนเรื่องนโยบายค่าโดยสาร 20 บ.ตลอดสายที่เป็นเป้าหมายรัฐบาล นายสุริยะ กล่าวว่า กระทรวงฯ ตั้งเป้าว่า รถไฟฟ้าทุกสายและไม่ว่ากี่ต่อต้องการเก็บค่าโดยสารไม่เกิน 20 บ. แต่จะทำได้ถ้ามี พ.ร.บ.ตั๋วร่วม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เป็นประธานพิธีลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระหว่าง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM)
คาดว่า ไม่เกินเดือน ก.ค.นี้จะส่งให้สภาพิจารณาว่า จะใช้เงินกองทุนจากงบประมาณ และเหมือนสายสีน้ำเงินที่ใช้ส่วนแบ่งจาก รฟม. และกองทุนอนุรักษ์พลังงาน โดยได้หารือกับกฤษฎีกาแล้วว่า สามารถนำเงินส่วนนี้มาใช้ได้ พร้อมระบุว่า จะไม่รบกวนเอกชนแต่จะใช้เงินจาก พ.ร.บ.ตั๋วร่วมมาใช้อุดหนุน
ในระยะแรก 10 ปี รัฐบาลจะไม่รบกวนเอกชน ให้เก็บค่าโดยสารเท่าไหร่เท่านั้น ส่วนที่เหลือจะใช้เงินจาก พ.ร.บ.ตั๋วร่วม
นอกจากนี้ ยังสั่งการ ให้ รฟม. และ BEM ผู้รับสัมปทาน เร่งรัดการดำเนินงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้าในส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าในส่วนตะวันออกได้ก่อนภายในต้นปี 2571 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน และจะเร่งเปิดให้บริการตลอดทั้งเส้นทางทั้งส่วนตะวันออกและตะวันตกให้แล้วเสร็จก่อนกำหนดการในเดือน พ.ย.2573
คาดว่าจะเปิดบริการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มในส่วนตะวันออกในต้นปี 2571 และเปิดให้บริการตลอดทั้งเส้นทางทั้งส่วนตะวันออกและตะวันตกในเดือน พ.ย.2573
นายสุริยะ ยืนยันว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะทำให้เกิดการจ้างคนงานไม่ต่ำกว่า 30,000 คน และมีการลงทุนซื้อวัสดุในการก่อสร้าง เป็นเงินมากกว่า 80,000 ล้านบาท ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการลงทุนในประเทศส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และคาดว่าการลงทุนกว่าแสนล้านจะช่วย GDP ร้อยละ 0.1
คาดว่าจะเปิดบริการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มในส่วนตะวันออกในต้นปี 2571 และเปิดให้บริการตลอดทั้งเส้นทางทั้งส่วนตะวันออกและตะวันตกในเดือน พ.ย.2573
ด้านนายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM กล่าวว่า ราคาของรถไฟฟ้าสายสีส้มเริ่มต้นอยู่ที่ 17 บ.สูงสุด 42 บ.ในช่วง 10 ปีแรก จากเดิมราคาอยู่ที่ 20 บ.สูงสุด 65 บ.ซึ่งเป็นราคาที่ต้องมีการปรับขึ้นตามดัชนีผู้บริโภค
นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM
ส่วนการก่อสร้าง ยืนยันว่า มีความพร้อมในการก่อสร้างและสามารถเข้าพื้นที่ได้ทันทีภายใน 1-2 เดือนนี้ ส่วนการจัดหาขบวนรถคาดว่า ภายในปีนี้สั่งซื้อรถไฟฟ้าได้ เริ่มต้น 30 ขบวนทั้งขบวน มาเดินรถฝั่งตะวันออกก่อน
โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กม.
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กม. แบ่งเป็น ส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 22.5 กม. จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ระยะทาง 13.4 กม.จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)
อ่านข่าว : ครม.เดินหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้ม ลงนามสัญญาวันที่ 18 ก.ค.นี้
"สุริยะ" ชงรถไฟฟ้าสีส้มเข้า ครม.คาดเปิดบริการปี 2571
ศาลปกครองสูงสุดตัดสิน "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" รฟม.เดินหน้าต่อ