10 เหตุการณ์น่าประทับใจใน "โอลิมปิก"
- เดอาร์ตู ตูลู คว้าชัยชนะ (1992) : นักวิ่งหญิงจากเอธิโอเปีย สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้หญิงผิวดำคนแรกจากทวีปแอฟริกาที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกในประเภทวิ่ง 10,000 เมตร ชัยชนะครั้งนี้ทำลายกำแพงสีผิว สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไป
- วิลมา รูดอล์ฟ ผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา (1960) : เขาป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่เด็ก แพทย์เคยบอกว่าเขาอาจจะไม่มีวันเดินได้อีก แต่ด้วยความมานะ ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา รูดอล์ฟฝึกฝนอย่างหนัก จนคว้า 3 เหรียญทองกรีฑาหญิงในโอลิมปิก 1960 ที่กรุงโรม กลายเป็นตำนานนักกีฬาผู้เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น
- แครี่ สตราก ใจเด็ด-ล้มแล้วลุกต่อ (1996) : ในการแข่งขันประเภทยิมนาสติก แครี่ สตราก สมาชิกทีมยิมนาสติกสหรัฐอเมริกา กระโดดครั้งสุดท้าย ข้อเท้าพลิกอย่างรุนแรง แต่เธออดทน กัดฟัน ลงพื้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ คว้าเหรียญทองให้ทีม กลายเป็นตำนานนักกีฬาผู้กล้าหาญ
- เจสซี โอเวนส์ ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติด้วยผลงาน (1936) : ในการแข่งขันโอลิมปิก 1936 เจสซี โอเวนส์ นักกีฬาผิวดำจากสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางกระแสการเหยียดเชื้อชาติจากนาซี เขาตอบโต้ด้วยผลงาน คว้า 4 เหรียญทองกรีฑา พิสูจน์ให้โลกเห็นถึงความสามารถของนักกีฬาผิวดำ
- เอคาเทรินา ซาโบ วิ่งเพื่อลูกชาย (2000): นักวิ่งหญิงจากโรมาเนีย สูญเสียลูกชายแรกเกิดเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนโอลิมปิก เธอเปลี่ยนความเศร้าโศกเป็นพลัง คว้าเหรียญทองวิ่งข้ามรั้ว 100 เมตรหญิง เป็นการอุทิศให้กับลูกชายของเธอ
- อาเบเบะ บิคิลา วิ่งมาราธอนเท้าเปล่า (1960): นักวิ่งจากเอธิโอเปียคนนี้ รู้สึกไม่สบายใจกับรองเท้าที่ได้รับ เขาตัดสินใจวิ่งมาราธอนเท้าเปล่า และสามารถคว้าเหรียญทองมาได้ ทำให้กลายเป็นนักกีฬาผิวดำคนแรกที่คว้าแชมป์มาราธอนโอลิมปิก
- เนลลี คิม เลือกเสรีภาพ (1980): เนลลี คิม นักยิมนาสติกจากสหภาพโซเวียต หลังคว้า 2 เหรียญทอง เธอตัดสินใจอันน่าตกตะลึง แปรพักตร์ไปยังสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมือง กลายเป็นเรื่องราวการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ
- ลุซ - ลอง น้ำใจนักกีฬา (1936): นักกีฬาเยอรมันผู้แข่งขันกระโดดไกลกับ คาร์ล ลิวอิส คู่แข่งชาวอเมริกัน เขาแอบให้คำแนะนำแก่ลิวอิส ช่วยให้ลิวอิสกระโดดได้ไกลขึ้น คว้าชัยชนะ เหนือกว่าลอง กลายเป็นตัวอย่างของน้ำใจนักกีฬาที่แท้จริง
- ปาฏิหาริย์บนลานน้ำแข็ง (1980): โอลิมปิกฤดูหนาว 1980 ทีมฮ็อกกี้น้ำแข็งสหรัฐอเมริกา สร้างความยินดีให้กับโลก เอาชนะทีมสหภาพโซเวียต ที่เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นหนึ่งในชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กีฬา
- ทีมฮ็อกกี้น้ำแข็งหญิงเกาหลีเหนือและใต้ เล่นด้วยกันเป็นหนึ่ง (2018): โอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ทีมฮ็อกกี้น้ำแข็งหญิงจากเกาหลีเหนือและใต้ เล่นร่วมกันเป็นทีมเดียว กลายเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ความสามัคคี และความหวัง แสดงให้โลกเห็นถึงพลังของกีฬาที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน
อ่านข่าวเพิ่ม :
เรื่องน่ารู้ "ปารีสเกมส์ 2024" ฝรั่งเศสเจ้าภาพโอลิมปิก ครั้งที่ 3 ในรอบ 100 ปี
Paris 2024 ศตวรรษแห่งการเฉลิมฉลอง "โอลิมปิก" ครั้งที่ 33
10 นักกีฬา "ที่สุด" ในโอลิมปิก
- ไมเคิล เฟลป์ส (Michael Phelps) นักว่ายน้ำชาวอเมริกัน เป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์โอลิมปิก โดยคว้าเหรียญรางวัลรวม 28 เหรียญ (23 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง) จากกีฬาว่ายน้ำ และยังครองแชมป์นักกีฬาที่ได้เหรียญทองมากที่สุดในการแข่งขันโอลิมปิกด้วย ฉายาของ ไมเคิล เฟลป์ส คือ "ฉลาม Baltimore" (Baltimore Bullet) มาจากบ้านเกิดของเขาที่ Baltimore และสไตล์การว่ายน้ำที่รวดเร็วทรงพลัง
- ยูเซน โบลต์ (Usain Bolt) นักวิ่งชาวจาเมกาที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น นักวิ่งระยะสั้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล มีผลงานเด่นดังมากมาย เช่น เจ้าของสถิติโลก ในการวิ่ง 100 เมตร (9.58 วินาที) 200 เมตร (19.19 วินาที) และวิ่งผลัด 4 x 100 เมตร (36.84 วินาที), 8 เหรียญทองโอลิมปิก โบลต์เป็นที่รู้จักในฉายา "สายฟ้า" (Lightning Bolt)
-
ลาริสา ลาตินิน่า (Larisa Latynina) นักยิมนาสติกสากลชาวสหภาพโซเวียต ได้รับการยกย่องว่าเป็น หนึ่งในนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์โอลิมปิก โดยเฉพาะในประเภทหญิง เคยเป็นเจ้าของสถิติโลก จำนวนเหรียญรางวัลโอลิมปิกมากที่สุด โดยคว้าไปทั้งหมด 18 เหรียญ (ทอง 9 เงิน 5 ทองแดง 4) แต่สถิตินี้ถูกทำลายโดย ไมเคิล เฟ็ลปส์ (Michael Phelps) นักว่ายน้ำชาวอเมริกัน ในปี 2012 แต่เธอก็ยังครองสถิติ จำนวนเหรียญรางวัลโอลิมปิกมากที่สุดในประเภทหญิง
-
ปาโว นูร์มิ (Paavo Nurmi) นักกีฬาโอลิมปิกชาวฟินแลนด์ เจ้าของฉายา "มนุษย์เหล็กแห่งฟินแลนด์" (Flying Finn) มาจากความเร็ว ความทนทาน และความมุ่งมั่น เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น หนึ่งในนักวิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โคโรมิคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิก รวม 9 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน จากกีฬาวิ่งระยะทางไกล ใน 3 กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน (1920, 1924, 1928) ถือเป็นนักกีฬาหญิงที่ครอบครองเหรียญทองมากที่สุด ปาโว นูร์มิ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2516 ที่อายุ 76 ปี แต่ผลงาน ความมุ่งมั่น และแรงบันดาลใจของเขายังคงอยู่ เขาเป็นตำนานนักกีฬาโอลิมปิก
- บยอร์น ดาห์ลี (Bjørn Dæhlie) ถูกยกย่องให้เป็นนักกีฬาที่ได้รับเหรียญทองมากที่สุดในโอลิมปิกฤดูหนาว จากการแข่งสกีข้ามประเทศ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น หนึ่งในนักสกีข้ามประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกมากถึง 12 เหรียญ (ทอง 8 เงิน 4) และ แชมป์โลก 9 สมัย บยอร์น ดาห์ลี เกิดมาในครอบครัวเกษตรกร เขาเริ่มเล่นสกีตั้งแต่เด็ก บนเนินเขาใกล้บ้าน ในช่วงแรก ๆ เขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว เพราะกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บ แต่ด้วยความมุ่งมั่น เขาฝึกซ้อมอย่างหนัก จนประสบความสำเร็จในที่สุด
- นาเดีย โกมาเนช (Nadia Comăneci) หรือ ราชินีแห่งยิมนาสติก อดีตนักยิมนาสติกหญิงชาวโรมาเนีย โด่งดังไปทั่วโลก เธอนักยิมนาสติกคนแรกที่ได้รับคะแนนเต็ม 10.0 ในโอลิมปิกถึง 6 ครั้ง ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1976 ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักยิมนาสติกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เธอคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกรวม 5 เหรียญ เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กผู้หญิงและนักกีฬาทั่วโลก
- แฟนนี บลังเกิร์ส-โคน (Fanny Blankers-Koen) อดีตนักกรีฑาชาวดัตช์ โด่งดังจากการคว้า 4 เหรียญทอง ในโอลิมปิกฤดูร้อน 1948 ที่กรุงลอนดอน เธอได้รับฉายาว่า "แม่บ้านบินได้" (The Flying Housewife) เพราะลงแข่งขันในวัย 30 ปี ขณะที่มีลูก 2 คน และกลายเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโอลิมปิกครั้งนั้น โดยทำลายสถิติโลกในการวิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร, กระโดดข้ามรั้ว 80 เมตร และ วิ่งผลัด 4x100 เมตร
- ดิมิทรี ทรูลัส (Dimitrios Loundras) นักกีฬายิมนาสติกชาวกรีกวัย 10 ปี เป็นนักกีฬาโอลิมปิกที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ เขาเข้าร่วมแข่งขันในโอลิมปิกที่เอเธนส์ ปี 1896 จากนั้นมา ก็มีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับนักกีฬาตั้งแต่นั้นมา ในยุคปัจจุบัน ฮันนา ซาซา (Hend Zaza) นักกีฬาปิงปองชาวซีเรีย วัย 12 ปี ถือเป็นนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุด โดยเธอเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020
-
ออสการ์ สวาห์น (Oscar Swahn) นักยิงเป้าชาวสวีเดน ถือเป็นนักกีฬาที่ "คาดว่า" มีอายุมากที่สุดในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โดยเขาเข้าร่วมแข่งขันยิงเป้า ในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1920 ที่เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ขณะอายุ 72 ปี และยังสามารถคว้าเหรียญรางวัลประเภททีมได้อีกด้วย ในอีกมุมหนึ่ง การแข่งขันโอลิมปิกยังเคยมีการบรรจุการแข่งขันประเภทศิลปะ (จิตรกรรม ประติมากรรม และการแกะสลัก) เข้าเป็นกีฬาแข่งขันด้วย และนักกีฬาในการแข่งขันประเภทนี้ส่วนใหญ่มีอายุมากกว่านักกีฬาประเภทกีฬาอื่น ๆ แต่ปัจจุบัน กีฬาประเภทศิลปะไม่ได้ถูกบรรจุในโอลิมปิกแล้ว
- นักกีฬาทีมชาติสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการแข่งขันโอลิมปิก นักกีฬาคว้าเหรียญโอลิมปิกได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ รวมทั้งโอลิมปิกฤดูร้อนและฤดูหนาว
อ่านข่าวเพิ่ม :