เงินบาทอ่อน อานิสงส์ส่งออกข้าวไทย พณ.ปรับเป้าใหม่ 8.2 ล้านตัน

เศรษฐกิจ
30 ก.ค. 67
16:16
308
Logo Thai PBS
เงินบาทอ่อน อานิสงส์ส่งออกข้าวไทย พณ.ปรับเป้าใหม่ 8.2 ล้านตัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พาณิชย์ อานิสงส์บาทอ่อน ครึ่งปีแรกไทยส่งออก 5.08 ล้านตันเพิ่มขึ้น 25% ปรับเป้าใหม่ จาก 7.5 เป็น 8.2 ล้านตัน เร่งจัดกิจกรรมผลักดันการส่งออกข้าวไทยครึ่งปีหลังต่อเนื่อง

วันนี้ (30ก.ค.2567) นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์การส่งออกข้าวครึ่งปีแรกว่า ความต้องการนำเข้าข้าวเพื่อใช้บริโภคและเก็บเป็นสต็อกเพื่อความมั่นคงทางอาหารของผู้นำเข้ามีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับอินเดียยังคงใช้มาตรการควบคุมการส่งออกข้าว และค่าเงินบาทอ่อนค่าอยู่ที่ประมาณ 36 – 37 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

โดยการส่งออกข้าวไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) มีปริมาณ 5.08 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 25.12 และมีมูลค่า 117,836 ล้านบาท (ประมาณ 3,304 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 55.50

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวอีกว่า ปัจจัยบวกที่ทำให้การส่งออกข้าวไทยครึ่งปีแรกเติบโตเนื่องจากประเทศผู้นำเข้าสำคัญ อย่าง ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียยังคงมีความต้องการนำเข้าข้าวจากเอกชนผู้ส่งออกข้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อและภัยแล้ง

โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้มีคำสั่งปรับลดอัตราภาษีนำเข้าข้าวจากเดิมร้อยละ 35 เหลือร้อยละ 15 จนถึงปี 2571 เพื่อควบคุมแรงกดดันเงินเฟ้อของสินค้าข้าวภายในประเทศ และคาดว่า ในปีนี้ฟิลิปปินส์มีแนวโน้มนำเข้าข้าวสูงถึง 4.70 ล้านตัน

ขณะที่อินโดนีเซียมีแนวโน้มนำเข้าข้าวประมาณ 3.60 – 4.30 ล้านตัน ขึ้นอยู่กับปริมาณผลผลิต จึงเป็นโอกาสในการส่งออกข้าวของประเทศผู้ส่งออก

นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากปริมาณผลผลิตข้าวนาปีของไทยที่จะออกสู่ตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งคาดว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนและปริมาณน้ำสำหรับเพาะปลูกเพิ่มขึ้นจากภาวะเอลนีโญคลี่คลายลง ส่งผลให้ราคาข้าวไทยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงและแข่งขันได้มากขึ้น

กรมฯ และสมาคมฯ ปรับคาดการณ์การส่งออกข้าวไทยปี 2567 เพิ่มขึ้นจากเดิมในช่วงต้นปีที่คาดการณ์ไว้ที่ปริมาณ 7.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเป็น 8.2 ล้านตัน

อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามมาตรการการส่งออกข้าวของอินเดีย ซึ่งรัฐบาลอินเดียอาจผ่อนคลายมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวก่อนผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตหลักจะออกสู่ตลาดในต.ค. 2567

อีกทั้ง ยังมีการคาดการณ์ว่า ปริมาณผลผลิตข้าวของประเทศผู้ส่งออกข้าว ได้แก่ เวียดนาม ปากี สถาน เมียนมา และกัมพูชา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผลผลิตข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้นและมีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง

นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงจากความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้ากลุ่มพลังงาน และสถานการณ์ความผันผวนของค่าระวางเรือที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยท้าทายที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2567

นายรณรงค์ กล่าวว่า การส่งออกข้าวไทยในปีนี้อยู่ในทิศทางที่ดี ซึ่งกรมฯ จะเดินหน้าส่งเสริมตลาดเพื่อกระตุ้นให้ข้าวไทยอยู่ในกระแสและเป็นที่จดจำเพื่อให้ผู้นำเข้านึกถึงการนำเข้าข้าวจากไทย

โดยในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปีนี้ มีแผนจัดกิจกรรมผลักดันการส่งออกข้าวไทย เช่น งาน Thai Rice Networking Forum 2024 ,งาน Thailand Rice Convention (TRC) สัญจร พร้อมทั้ง การพบหารือกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าข้าวสำคัญ และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

อ่านข่าว:

"คลัง"ชี้เศรษฐกิจฟื้น ปรับ GDP ปี 67 จาก 2.4% ขยับเป็น 2.7%

“ราคาทอง” ร่วง 100 บาท ตลาดจับตาประชุมธนาคารกลางทั่วโลก

"นอมินี" รุกกวาดเศรษฐกิจไทย เอเลียนสปีชีส์ ยึดพื้นที่ท่องเที่ยว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง