วันนี้ (1 ส.ค.2567) เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" วิเคราะห์ภาพรวมเคลื่อนไหวที่ผ่านมา พบว่า ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงเป็นวันที่ 2 จากแรงหนุนการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนก.ค. ของ ADP ต่ำกว่าตลาดคาด รวมถึงประธานเฟดส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ถึงแม้ว่าการประชุมเฟดในครั้งนี้ เฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ระดับ 5.25-5.50% ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 2.88 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1,000 รายสู่ระดับ 236,000 ราย และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.ค.โดย ISM ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ 48.8 จาก 48.5 ในเดือนมิ.ย.
"ฮั่วเซ่งเฮง" วิเคราะห์ราคาทอง เกิดสัญญาณซื้อจาก Modified Stochastic ของราคาทองคำใน Time Frame Day ซึ่งคาดว่าราคาทองคำเปลี่ยนทิศทางไปสู่แนวโน้มขาขึ้น ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นได้ต่อ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นแรงเมื่อคืนนี้ อาจทำให้ราคาทองคำย่อตัวลงมาเล็กน้อย ให้หาจังหวะการเข้าซื้อทองคำ
สำหรับราคาทองตลาดโลก แนวรับ : 2,430 และ 2,420 ดอลลาร์ แนวต้าน : 2,460 และ 2,470 ดอลลาร์หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมา แนะนำเข้าซื้อบริเวณ 2,420-2,430 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,410 ดอลลาร์
ส่วนราคาทองคำแท่ง 96.5%แนวรับ : 40,900 และ 40,800 บาท แนวต้าน : 41,200 และ 41,300 บาท ราคาทองคำแท่งคาดปรับตัวขึ้นเหนือ 41,000 บาท จากราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำแท่งสามารถปรับตัวขึ้นทะลุผ่าน 41,150-41,200 บาทขึ้นไปได้ มีแนวโน้มที่ราคาทองคำแท่งอาจปรับตัวขึ้นต่อ แม้ว่าเงินบาทจะแข็งค่ามากกดดันราคาทองคำแท่ง เป้าทำกำไร 41,700 บาท และตัดขาดทุน 41,120 บาท
สำหรับราคาทองวันนี้ บวก 250 บาท ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 41,100 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 41,000 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 41,600 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 40,264.9 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,450 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 35.49บาทต่อดอลลาร์
โดยราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 500 บาท มีราคาดังนี้ ทองครึ่งสลึง ราคาขาย 5,638 บาท ทอง 1 สลึง ราคาขาย 10,775 บาท ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคาขาย 21,050 บาท และทอง 1 บาท ราคาขาย 41,600 บาท ภาพรวมเดือนส.ค. ราคาทอง บวก 250บาท
อ่านข่าว:
กรุงศรี ชี้ IMF ระบุ GDP โลกปีนี้โต 3.2%