เงินจ๊าดอ่อนค่า เหตุวิกฤตสงคราม (1)

ภูมิภาค
3 ส.ค. 67
17:14
356
Logo Thai PBS
เงินจ๊าดอ่อนค่า เหตุวิกฤตสงคราม (1)
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ประเทศเมียนมา มีสกุลเงินเป็นของตนเอง ที่เรียกว่าเงินจ๊าด เป็นเงินใช้จ่ายภายในประเทศเมียนมาเป็นหลัก รองลงมาคือเงินดอลล่าร์ และเงินบาทไทย มักพบบริเวณตามแนวชายแดนที่มีการค้าขายกัน

ข้อมูลจาก Observer Research Foundation และ Radio Free Asia ระบุว่า เงินจ๊าดในขณะนี้อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และได้รับผลกระทบอย่างหนัก ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด 19 และการทำรัฐประหาร ของ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หลาย ตั้งแต่ปี 2021

ทำให้การเมืองและเศรษฐกิจในประเทศไร้เสถียรภาพ นักลงทุนต่างชาติไม่สามารถลงทุนในพื้นที่ได้จากภาวะสงครามเงินลงทุนจากต่างชาติจึงต้องชะงักไปโดยปริยาย และถอนตัวออกจากประเทศเมียนมาอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจ

นอกจากนั้นบริษัทเอกชนจำนวนมากต่างพากันถอนเงินที่ฝากไว้กับธนาคารในเมียนมา เพื่อเดินทางออกนอกประเทศ ธนาคารหลายแห่งต้องจำกัดการถอนเงินเพื่อป้องกันไม่ให้ระบบธนาคารล่มสลาย จากกรณีดังกล่าวจึงเป็นบทที่นำมาสู่การทำให้ประชาชนในประเทศเมียนมา ตกงานเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่า ประเทศเมียนมาเหลือเงินทุนสำรองระหว่างประเทศประมาณ 240,000 ล้านบาท แต่กลับมีหนี้ต่างประเทศสูงถึง 400,000 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันเงินทุนสำรองของประเทศเมียนมาหดหายไปอย่างต่อเนื่องเพราะต้องนำมาจ่ายหนี้กู้ยืมในแต่ละปี โดยปัจจุบัน (01/08/2567) เงินจำนวน 100 บาท เท่ากับ 5,912 จ๊าด และยังคงมีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง

วิกฤตเงินจ๊าดอ่อนค่ากระทบไทยอย่างไร

ในช่วงที่ผ่านมา เงินจ๊าดของประเทศเมียนมาได้อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ปัญหาการเมืองภายในประเทศ การคว่ำบาตรจากต่างประเทศ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในหลายด้าน เนื่องจากความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศที่มีความใกล้ชิดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการค้าชายแดน การลงทุน และแรงงานข้ามชาติ

อัตราแลกเปลี่ยนและเงินเฟ้อ

การเปลี่ยนแปลงค่าเงินจ๊าดมีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศและอาจก่อให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในหลายด้าน:

• ค่าเงินบาท : ค่าเงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินจ๊าด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออกของไทยในตลาดโลก เนื่องจากราคาสินค้าไทยจะสูงขึ้นเมื่อแปลงเป็นสกุลเงินอื่น ๆ อาจทำให้ยอดขายลดลงและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาว

• แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ : หากราคาสินค้าจำเป็นที่นำเข้าจากเมียนมามีการปรับตัวสูงขึ้น ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นในไทย รัฐบาลไทยอาจต้องมีการวางแผนและดำเนินมาตรการเพื่อควบคุมราคาสินค้าและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เช่น การใช้มาตรการทางการเงินและการคลังเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ การส่งเสริมการผลิตภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาสินค้านำเข้า

• การบริหารความเสี่ยงทางการเงิน : ธุรกิจที่มีการค้าขายกับเมียนมาหรือพึ่งพาสินค้านำเข้าอาจต้องมีการบริหารความเสี่ยงทางการเงินอย่างรัดกุม โดยอาจใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อรับมือกับความผันผวนของค่าเงิน

การค้าชายแดน

การค้าชายแดนระหว่างไทยและเมียนมาเป็นหนึ่งในเสาหลักของเศรษฐกิจภูมิภาค โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดน เช่น ตาก เชียงราย และแม่ฮ่องสอน การอ่อนค่าของเงินจ๊าดส่งผลต่อการค้าชายแดนในหลายประการ

• สินค้านำเข้าจากเมียนมา : สินค้าจากเมียนมา เช่น ผลิตภัณฑ์การเกษตร สินค้าหัตถกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค จะมีราคาถูกลงเมื่อเทียบกับเงินบาท ทำให้มีการนำเข้าสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลดีต่อผู้บริโภคไทยที่สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่ต่ำลง แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้ผลิตท้องถิ่นไทยอาจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากสินค้าต่างประเทศที่ถูกกว่า

• สินค้าส่งออกไปยังเมียนมา : สินค้าจากไทย เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ก่อสร้าง และสินค้าบริโภค มีราคาสูงขึ้นในสายตาของผู้บริโภคเมียนมา เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินจ๊าด ความต้องการสินค้าจากไทยอาจลดลง ส่งผลให้ผู้ส่งออกไทยได้รับผลกระทบในแง่ของยอดขายและรายได้ บางบริษัทอาจต้องปรับลดราคาเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งอาจทำให้กำไรลดลง

• ความร่วมมือทางการค้า : ความผันผวนของค่าเงินอาจทำให้เกิดการทบทวนและปรับเปลี่ยนข้อตกลงทางการค้าระหว่างสองประเทศ ทั้งในแง่ของการกำหนดราคาและเงื่อนไขการชำระเงิน อาจมีการหันมาใช้สกุลเงินอื่นในการค้าขาย เช่น ดอลลาร์สหรัฐ หรือบาทไทย เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินจ๊าด

การท่องเที่ยว

เมียนมาเป็นแหล่งที่มาของนักท่องเที่ยวที่สำคัญสำหรับไทย การอ่อนค่าของเงินจ๊าดส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในหลายด้าน

• จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง : การอ่อนค่าของเงินจ๊าดทำให้ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไทยสูงขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยวเมียนมา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวอาจลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับกลางถึงล่างที่มีข้อจำกัดทางการเงิน ส่งผลกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดนและเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเมียนมา เช่น เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และตามจังหวัดชายแดน

• การใช้จ่ายต่อหัวลดลง : สำหรับนักท่องเที่ยวเมียนมาที่เดินทางมายังไทย พวกเขาอาจลดการใช้จ่ายลงเพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณที่จำกัด เนื่องจากค่าเงินที่อ่อนค่าลง อาจเห็นได้จากการเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูกลง การเข้าพักโรงแรมระดับต่ำกว่า หรือการลดระยะเวลาในการท่องเที่ยว ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในท้องถิ่น เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว

• การส่งเสริมการท่องเที่ยว : หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจต้องมีการพัฒนาแผนการตลาดและโปรโมชั่นใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเมียนมา เช่น การจัดแพ็คเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษ หรือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากตลาดอื่น ๆ มาชดเชย

การลงทุน

การอ่อนค่าของเงินจ๊าดมีผลกระทบอย่างมากต่อนักลงทุนไทยที่มีการลงทุนในเมียนมา

• รายได้จากการลงทุน : การอ่อนค่าของเงินจ๊าดทำให้รายได้จากการลงทุนในเมียนมาเมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินบาทมีมูลค่าลดลง นักลงทุนไทยที่มีธุรกิจหรือโครงการลงทุนในเมียนมา เช่น ในภาคพลังงาน สาธารณูปโภค และการเกษตร อาจต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนเพื่อรองรับความเสี่ยง เช่น การปรับเปลี่ยนโครงสร้างต้นทุน การเจรจาต่อรองราคาวัตถุดิบ หรือการหันไปลงทุนในประเทศอื่น ๆ ที่มีเสถียรภาพทางการเงินมากกว่า

การตัดสินใจลงทุน : นักลงทุนอาจลังเลที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเติมในเมียนมา เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ อาจทำให้เกิดการชะลอตัวในการลงทุนใหม่ ๆ ที่มีแผนจะดำเนินการในเมียนมา

นักลงทุนอาจต้องพิจารณาความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมในการตัดสินใจลงทุน และอาจต้องหาทางป้องกันความเสี่ยงทางการเงินด้วยการใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

• ความร่วมมือกับธุรกิจท้องถิ่น : นักลงทุนอาจพิจารณาหาพันธมิตรทางธุรกิจในท้องถิ่นเพื่อกระจายความเสี่ยง และใช้ประโยชน์จากความรู้ในท้องถิ่นในการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ในเมียนมา ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดที่มีความซับซ้อน

ดังนั้นการอ่อนค่าของเงินจ๊าดส่งผลกระทบที่หลากหลายต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีการพึ่งพาการค้าชายแดนกับเมียนมา การปรับตัวและการตอบสนองอย่างรวดเร็ว จากทั้งภาครัฐและเอกชนจะเป็นกุญแจสำคัญในการบรรเทาผลกระทบและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว การพิจารณาความร่วมมือระหว่างประเทศและการวางแผนเชิงกลยุทธ์ในการจัดการกับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจจะมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพและการเติบโตของเศรษฐกิจไทย

และจะต้องมาจับตาดูว่า ทางรัฐบาลเมียนมาจะเคลื่อนไหว หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ที่จะไม่ให้ตนเองได้รับผลกระทบ เหมือนค่าเงินกีบ ที่กำลังได้รับผลกระทบในขณะนี้

รายงาน : ศูนย์ข่าวภาคเหนือ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง