เกิดเหตุชายสะกดรอยตามเจ้าของห้องพักในคอนโดมิเนียม ก่อนจะแอบเอากุญแจ และคีย์การ์ด ที่เจ้าของห้องซ่อนไว้ในตู้จดหมาย แอบเข้าไปในห้องถึง 8 ครั้ง
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.เวลา 11.33 น.ที่ผ่านมา พบว่า ชายคนหนึ่งสวมเสื้อแขนยาว ที่เดินเข้ามาด้วยท่าทางปกติ และตรงไปยังตู้จดหมาย หลังจากนั้น ใช้มือล้วงเข้าไปหยิบคีการ์ด และกุญแจออกมา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปด้านใน หลังจากนั้นชายคนเดิม เดินลงมาในเวลา 11.36 น.และนำคีย์การ์ด พร้อมกุญแจ กลับมาคืนไว้ในจุดเดิม ก่อนจะเดินออกไป
วันต่อมา ชายคนนี้ยังทำพฤติกรรมเหมือนเดิม โดยก่อเหตุในเวลา 20.42 น. โดยผ่านไปประมาณ 4 นาที ได้เดินกลับลงมา พร้อมกับนำคีย์การ์ด และกุญแจ ไปใส่คืนไว้ที่เดิม
จากการตรวจสอบประวัติคดีย้อนหลัง พบว่า นายมนัสวิน มีประวัติ ก่อคดีอาญามาแล้ว 3 คดี ในช่วงปี 66-67
จากการตรวจสอบประวัติคดีย้อนหลัง พบว่า นายมนัสวิน มีประวัติ ก่อคดีอาญามาแล้ว 3 คดี ในช่วงปี 66-67
ต่อมาเจ้าของห้องพัก ซึ่งเป็นตำรวจ ระดับสารวัตร เริ่มรู้ตัว หลังสังเกตได้ว่า ข้าวของในห้องถูกเคลื่อนย้ายแต่ไม่พบทรัพย์สินมีค่าสูญหาย จึงตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการปองร้ายหรือไม่ จึงได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบ ชายคนดังกล่าวแอบเข้ามาในห้องพัก รวมทั้งหมด 8 ครั้ง
ครั้งแรก คือ วันที่ 17 มิ.ย. และเว้นวันที่ 18 มิ.ย. และหลังจากนั้นมาติดต่อกันจนถึงวันที่ 24 มิ.ย.26 มิ.ย.และ 27 มิ.ย. และยังพบเบาะแสว่า มีการสะกดรอยตำรวจเจ้าของห้องมาก่อนหน้านั้นอย่างน้อย 10 วัน
จนนำไปสู่การติดตามจับตัว ผู้ต้องหา คือนายมนัสวิน หรือ "เจมส์-บางบอน " ที่ริมป่าข้างคลอง รอยต่อระหว่างจังหวัดฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ
การสอบสวน ผู้ต้องหา ยอมรับว่า สะกดรอยตามเจ้าของห้อง จนรู้พฤติกรรม การเข้า-ออกห้องพัก การไปทำงาน การซ่อนคีย์การ์ดสำรอง ในตู้จดหมาย
จากการตรวจสอบประวัติคดีย้อนหลัง พบว่า นายมนัสวิน มีประวัติ ก่อคดีอาญามาแล้ว 3 คดี ในช่วงปี 66-67
จากการตรวจสอบประวัติคดีย้อนหลัง พบว่า นายมนัสวิน มีประวัติ ก่อคดีอาญามาแล้ว 3 คดี ในช่วงปี 66-67
พร้อมอ้างว่า เป็นเพราะตนเองตกงานทางบ้านภรรยาไม่ยอมรับ จึงต้องเร่รอนไปอยู่ตามที่ต่าง ๆ การเข้าไปในห้องผู้เสียหาย แค่เข้าไปนอนพัก ไม่ได้เข้าไปสอดแนม หรือปองร้าย แต่ที่น่าสังเกต คือ ขัดกับข้อมูลเวลา จากกล้องวงจรปิด ที่พบว่า บางวัน ใช้เวลาเข้าไปแค่ 3-4 นาที เท่านั้น
กรณีนี้ "นักอาชญาวิทยา" มองว่า ผู้ก่อเหตุมีวิธีคิดไม่ปกติ ซึ่งอาจเป็นการซ่อนจุดประสงค์ที่แท้จริงหรือไม่
จากการตรวจสอบประวัติคดีย้อนหลัง พบว่า นายมนัสวิน มีประวัติ ก่อคดีอาญามาแล้ว 3 คดี คือ เดือน ส.ค.2562 ถูกจับข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ในพื้นที่ สน.หลักสอง ต่อมา ธ.ค.2566 ก่อเหตุลักทรัพย์ ขโมยซองผ้าป่า ในพื้นที่ สน. ท่าข้าม เดือน พ.ค.2567 ก่อเหตุลักทรัพย์ ขโมยนาฬิกาในห้างสรรพสินค้า พื้นที่ สน.ภาษีเจริญ
จากการตรวจสอบประวัติคดีย้อนหลัง พบว่า นายมนัสวิน มีประวัติ ก่อคดีอาญามาแล้ว 3 คดี ในช่วงปี 66-67
จากการตรวจสอบประวัติคดีย้อนหลัง พบว่า นายมนัสวิน มีประวัติ ก่อคดีอาญามาแล้ว 3 คดี ในช่วงปี 66-67
ล่าสุดกรณีที่เกิดขึ้นเป็นคดีที่ 4 ที่แม้จะไม่มีทรัพย์สินมีค่าสูญหาย แต่ก็ถูกดำเนินคดี ในข้อหา "ลักทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนในเคหะสถาน และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ"
อ่านข่าว : ชายซิ่งเก๋งแซงไม่พ้น ชนรวด 5 คันย่านสุขุมวิท เจ็บสาหัส 1 คน
เครื่องบินเล็กตก จ.สมุทรสาคร นักบินเสียชีวิต 1 คน
ไฟไหม้สายไฟฟ้าและสายสื่อสารหน้าตลาด อ.ต.ก.