วันนี้ (11 ส.ค.2567) เพื่อนและครอบครัวผู้เสียหายขอความช่วยเหลือกับเพจ "สายไหมต้องรอด" พร้อมนำคลิปวิดีโอขณะคนขับรถแท็กซี่ใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายผู้โดยสารคนหญิงหนึ่ง หลังไม่พอใจผู้โดยสารอาเจียนใส่ถุงบนรถแท็กซี่ เนื่องจากมึนเมาสุราและไม่สามารถตกลงเรื่องค่าเสียหายกันได้ โดยเหตุเกิดในช่วงกลางคืนวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา
น.ส.อิสราภรณ์ เพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุได้ไปสังสรรค์กับเพื่อนชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากสิงคโปร์ ย่านถนนประดิษฐ์มนูญธรรม ก่อนจะเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อให้มารับกลับที่พักย่านลาดพร้าว
แต่เมื่อรถแท็กซี่มารับ คนขับแสดความไม่พอใจที่กลุ่มของตนมีอาการมึนเมา โดยได้พูดต่อว่าตลอดทาง แต่ขณะนั่งรถเพื่อนมีอาการอยากจะอาเจียน คนขับจอดรถข้างทางและเปิดประตูเพื่อให้อาเจียนลงพื้นถนน 1 ครั้งและได้อาเจียนใส่ถุงบนรถแท็กซี่อีก 1 ครั้ง ซึ่งคนขับยื่นถุงพลาสติกให้โดยให้เหตุผลว่าเสียเวลาในการจอดรถและพยายามเรียกเอาเงิน 500 บาท แต่ผู้เสียหายต่อรองเหลือ 200 บาท ก่อนมอบเงินให้และปิดประตูรถเสียงดัง จึงยิ่งทำให้คนขับรถแท็กซี่ไม่พอใจและใช้อาวุธมีดลงมาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ
สำหรับผู้บาดเจ็บ ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลและยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีอาการเลือดคั่งในสมอง กะโหลกศีรษะร้าว โดยต้องเย็บกว่า 20 เข็ม รวมถึงนิ้วมือทั้ง 2 ข้างหัก
ครอบครัวได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.โชคชัย เบื้องต้นตำรวจแจ้งกับครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บว่าติดต่อผู้ก่อเหตุได้แล้วและอยู่ระหว่างเรียกตัวมาสอบปากคำ ส่วนบริษัทที่กลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บเรียกผ่านแอปพลิเคชัน ได้แจ้งกับผู้เสียหายว่าได้ระงับบัญชีคนขับแท็กซี่ดังกล่าวแล้วและพยายามติดต่อให้เข้ามาชี้แจง แต่คนขับแท็กซี่ที่ก่อเหตุไม่ให้ความร่วมมือ
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า พฤติกรรมของคนขับแท็กซี่ดังกล่าวถือเป็นอันตรายต่อสังคม จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิกถอนใบอนุญาตการขับขี่รถสาธารณะและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ขณะที่เพจสายไหมต้องรอด พร้อมด้วยตำรวจนครบาลสุทธิสาร ครอบครัวและเพื่อนผู้ได้รับบาดเจ็บ ลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณซอย 42/2 ถนนลาดพร้าว เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เพื่อดูเรื่องพยานหลักฐานและพฤติกรรมการก่อเหตุ เนื่องจากก่อนหน้านี้ครอบครัวผู้บาดเจ็บเข้าแจ้งความที่ สน.โชคชัย ซึ่งอยู่นอกเขตรับผิดชอบ ก่อนจะเดินทางไปพบพนักงานสอบ สน.สุทธิสาร ให้ปากคำใหม่อีกครั้งเพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ได้ประสานกับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อนำหลักฐานการแจ้งความและพยานหลักฐานต่าง ๆ มาประกอบในสำนวนคดี พร้อมเรื่องติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุและทะเบียนรถที่ใช้ก่อเหตุแล้ว ตำรวจอยู่ระหว่างติดต่อเพื่อเชิญมาสอบปากคำ หากไม่มาพบ ตำรวจจะออกหมายเรียกและออกมาจับตามกฎหมาย
สำหรับผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นเข้าข่ายกระทำความผิดฐานพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนความผิดฐานพยายามฆ่าอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงใบรับรองแพทย์ เพื่อนำมาพิจารณาอีกครั้งว่าพฤติกรรมเข้าข่ายหรือไม่
อ่านข่าว
จับผู้ต้องหา ตระเวนก่อเหตุทั่วกรุง โจรกรรมรถจักรยานยนต์