วันนี้ ( 12 ส.ค.2567) นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยว่า จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนการเลือกตั้งในหลายประเทศ ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน ส่งผลให้การบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยชะลอตัว
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT
โดย การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ เดือน มิ.ย.2567 มีมูลค่า 704.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 4.51% กลับมาชะลอตัวเป็นเดือนแรก หลังฟื้นตัวต่อเนื่อง 9 เดือนก่อนหน้านี้ หากรวมทองคำ มีมูลค่า 1,248.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 34.42%
ส่วนยอดรวม 6 เดือน ปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) การส่งออกไม่รวมทองคำ มีมูลค่า 4,555.97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.48% หากรวมทองคำ มูลค่า 7,573.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.86%
สำหรับการส่งออกทองคำเดือน มิ.ย.2567 มีมูลค่า 544.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 184.12% เนื่องจากราคาทองคำเริ่มนิ่งและผันผวนลดลง ทำให้มีการส่งออกไปเก็งกำไร จากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนยอดรวม 6 เดือน ส่งออกทองคำมีมูลค่า 3,017.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลด 4.61%
และหากแยกการส่งออกทองคำเป็นรายเดือน ม.ค. มูลค่า 469.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 194.17% ก.พ. มูลค่า 740.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 309.51% มี.ค. มูลค่า 391.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลด 75.02% เม.ย. มูลค่า 288.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลด 64.57% พ.ค. มูลค่า 582.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 135.39%
ผอ.GIT กล่าวอีกว่า ตลาดส่งออกสำคัญ ส่วนใหญ่ยังคงเพิ่มขึ้น ฮ่องกง +17.52% สหรัฐฯ + 8.63% อินเดีย + 64.96% เยอรมนี + 9.08% สวิตเซอร์แลนด์ +9.04% เบลเยียม + 51.61% ญี่ปุ่น + 3.28% ส่วนสหราชอาณาจักร -1.11% อิตาลี - 2.30% และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ -14.22%
ทางด้านการส่งออกสินค้า ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น โดยเครื่องประดับทอง + 8.81% เครื่องประดับเงิน + 19.56% พลอยก้อน +89.77% พลอยเนื้อแข็งเจียระไน +7.46% พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน + 5.81%
โดยในกลุ่มพลอย เป็นสินค้าที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง เพราะมีการซื้อไปลงทุน เพชรก้อน +6.89% เพชรเจียระไน + 5.04% เครื่องประดับเทียม +10.19% ของทำด้วยไข่มุกและรัตนชาติ +35.06% ส่วนเครื่องประดับแพลทินัม -36.25%
นายสุเมธ กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออก คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นได้ต่อเนื่อง หลังมีการประเมินเศรษฐกิจโลกขยายตัว 2.6% และการบริโภคในหลายประเทศเริ่มฟื้นตัว จากการที่เงินเฟ้อในประเทศเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งสหรัฐฯ และยูโรโซน ปรับลดลง การเดินทางท่องเที่ยว ยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย แต่ก็ต้องระวังความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ขยายวงไปหลายที่ ความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น และอาจกระทบต่อการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับได้
แนวทางในการปรับตัวทำธุรกิจ จะต้องใช้ช่องทางออนไลน์เข้ามาช่วย โดยการสร้างประสบการณ์ที่ดีผ่านสื่อดิจิทัลในปัจจุบันนี้ เป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกธุรกิจไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันมีการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรเน้นสร้างความมีคุณค่าของสินค้าควบคู่กับความคุ้มค่า ด้วยการนำเสนอเครื่องประดับที่มีคุณภาพดีในราคาที่สมเหตุสมผล นำเสนอการสวมใส่เครื่องประดับที่สวมใส่ได้หลายโอกาส โดยคงความมีสไตล์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวไว้ และทำตลาดร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ที่มีภาพลักษณ์ประหยัดและฉลาดเลือกจะทำให้มีโอกาสขายสินค้าได้เพิ่มขึ้น
อ่านข่าว:
“ราคาทอง”ครึ่งเช้า บวก 50 บาท “ทองรูปพรรณ” ขายออก 39,764 บาท