วันนี้ (13 ส.ค.2567) เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" วิเคราะห์ภาพรวมเคลื่อนไหวที่ผ่านมา พบว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักๆมาจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งรวมถึงความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่กำลังขยายวงกว้างขึ้น และกองกำลังยูเครนได้ฝ่าแนวชายแดนของรัสเซียและรุกคืบเข้าไปในพื้นที่บางส่วนของภูมิภาคเคิร์สก์ทางตะวันตกของรัสเซีย
โดยสถานการณ์ดังกล่าวยังได้ส่งผลกระทบต่อราคาเชื้อเพลิงให้ปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนการผลิตทองคำ จึงเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันราคาทองในช่วงที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม สหรัฐจะมีการประกาศดัชนีราคาผู้ผลิต (Core PPI & PPI) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลงจากครั้งก่อนเล็กน้อย
“ฮั่วเซ่งเฮง” วิเคราะห์ ราคาทองหลังราคาทองตอบรับปัจจัยเชิงบวก แนวโน้มกลับมาอยู่ในขาขึ้นอีกครั้ง แม้ระยะสั้นจะยังติดแนวต้านที่ 2,475 $ ประเมินว่ามีโอกาสสูงที่ราคาอาจมีการปรับฐานก่อนจะสามารถขึ้นต่อได้ โดยหากราคามีการปรับตัวลงจริงประเมินว่าแนวรับที่ 2,450-2,455 เป็นระดับที่ราคาอาจมีการฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง
สำหรับราคาทองตลาดโลกแนวรับ : 2,450 และ 2,440 ดอลลาร์ แนวต้าน : 2,475 และ 2,500 ดอลลาร์ แรงซื้อยังคงแข็งแกร่ง แต่หลังทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 2,475 $ ราคากลับต้องเผชิญกับแรงขายอีกครั้งมีโอกาสที่ราคาอาจปรับตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ 2,450-2,455 $ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญก่อนจะสามารถฟื้นตัวกลับได้ แนะนำรอเปิดสถานะ Long จากบริเวณแนวรับดังกล่าว
ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% แนวรับ : 40,800 และ 40,600 บาท แนวต้าน : 41,400 และ 41,650 บาทราคาทองคำแท่งกลับมาอยู่ในขาขึ้นอีกครั้ง จากปัจจัยที่ได้กล่าวมาก่อนหน้า แต่ประเมินว่าทองแท่งมีโอกาสปรับตัวลงสั้นๆเนื่องจากราคาทองโลกกำลังทดสอบแนวต้าน แนะนำรอเข้าสะสมที่บริเวณแนวรับที่ 40,800 บาท โดยแนะนำถือ Let profit run
สำหรับราคาทองวันนี้ บวก 250 (ปรับลง 50บาท ครั้งที่ 2) ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 40,950 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 40,850 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 41,450บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 40,113.36 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,462.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 35.16 บาทต่อดอลลาร์
โดยราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 500 บาท มีราคาดังนี้ ทองครึ่งสลึง ราคาขาย 5,619 บาท ทอง 1 สลึง ราคาขาย 10,738 บาท ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคาขาย 20,975 บาท และทอง 1 บาท ราคาขาย 41,450บาท ภาพรวมเดือนส.ค. ราคาทอง บวก 100 บาท
ด้าน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ประเมินเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.80-35.50 บาท/ดอลลาร์ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 35.26 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 35.06-35.72 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 6 เดือน เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่
โดยอัตราแลกเปลี่ยนแกว่งตัวผันผวนสูง ขณะที่ตลาดหุ้นโลกเผชิญภาวะปั่นป่วนและนักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงช่วงต้นสัปดาห์ ส่งผลให้เงินเยนแตะระดับสูงสุดรอบ 7 เดือน ท่ามกลางการระบายสถานะ Carry Trade และการกลับเข้าซื้อเงินเยนและเงินฟรังก์สวิสในฐานะแหล่งพักเงินที่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม เงินเยนพลิกอ่อนค่า หลังรองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)ระบุว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่ตลาดไร้เสถียรภาพ อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯพุ่งขึ้นขณะที่ราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวหลังข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯต่ำกว่าคาดซึ่งทำให้นักลงทุนคลายกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 423 ล้านบาท และ 34,445 ล้านบาท ตามลำดับ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ตลาดในสัปดาห์นี้ว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขอัตราเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ของสหรัฐฯซึ่งจะส่งผลต่อการคาดการณ์ทิศทางนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ต่อไป
แม้ว่าเฟดได้ส่งสัญญาณแล้วว่ากำลังจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.แต่ปฏิกิริยาของตลาดต่อข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.สะท้อนว่านักลงทุนบางรายมองว่าเฟดพลาดโอกาสในการลดดอกเบี้ยเมื่อสิ้นเดือนก.ค. ขณะที่เราคาดว่าข้อมูลสัปดาห์นี้จะชี้ชัดมากขึ้นว่าเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ยังคงผ่อนคลายลง
อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนยังถูกขับเคลื่อนโดย Risk Sentiment อีกทางหนึ่ง ความเชื่อมั่นสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนทั่วโลกฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากท้ายสัปดาห์ก่อน มองว่าตลาดอาจลดทอนความคาดหวังเกี่ยวกับขนาดการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดลงบางส่วน ทั้งนี้ สัญญาตลาดล่วงหน้าบ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้เท่าๆกันที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% ในการประชุมรอบถัดไป
สำหรับสถานการณ์ตลาดในประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI)เดือนก.ค.ของไทยเพิ่มขึ้น 0.83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้นเป็นเดือนที่ 4 แต่ยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่ 1-3% ขณะที่ Core CPI เพิ่มขึ้น 0.52% ทางด้านก.พาณิชย์คาดว่า CPI ไตรมาสสุดท้ายของปีจะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนผลของต้นทุนพลังงานเป็นสำคัญ
อ่านข่าว:
“ราคาทอง”ครึ่งเช้า บวก 50 บาท “ทองรูปพรรณ” ขายออก 39,764 บาท
แนวโน้ม “ราคาทอง” พักฐานระยะสั้น ก่อนปรับขึ้นต่อ
"ราคาทอง" ลง 150 บาท "รูปพรรณ" ขายออก 39,476 บาท
