แฮชแท็ก#เศรษฐาทวีสิน#ศาลรัฐธรรมนูญ ขึ้นอันดับคำค้นในแอปพลิเคชัน X ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาเพียง 30 นาทีอ่านคำวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่
- "เศรษฐา" ไม่รอด ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินพ้นตำแหน่งนายกฯ
- ฉบับเต็ม! คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ "เศรษฐา" พ้นนายกฯ
เมื่อเวลา 15.25 น.บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยนายเศรษฐา ได้ปรากฎตัวบริเวณตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม
นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
เสียใจเป็นนายกรัฐมนตรีไม่มีจริยธรรม
ต่อมาเวลา 15.53 น.นายเศรษฐา กลับมาอีกครั้ง แต่รอบนี้มีสีหน้าเคร่งเครียด เช็กโทรศัพท์ตลอดเวลา และเปิดใจเป็นครั้งแรกหลังรับทราบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่าคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว ขอบคุณตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ให้โอกาสทุกฝ่ายและหยิบยกมาพูดคุยในวงกว้างและเป็นธรรม
ตลอดเวลาเกือบ 1 ปีได้พยายามทำทุกอย่างให้ถูกต้อง และยึดมั่นในการทำงานที่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ทำตัวเป็นที่ขัดแย้งของทุกคนและเคารพการตัดสินของศาล
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีหน้าที่ในวางแผนระยะยาวและไม่ได้ก้าวล่วงว่าผลจะออกมาอย่างไร และไม่ได้ดูตรงคำว่าตัดสิทธิหรือไม่ติดสิทธิ
แต่เสียใจตรงคำว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีจริยธรรม แต่ยังยืนยันในตัวตนว่าไม่ใช่บุคคลแบบนั้น
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะนี้ไม่ต้องฝากอะไร โดยให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ทำหน้าที่รักษาการก่อน เพราะนายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 และรมว.พาณิชย์ ติดภารกิจที่ประเทศ คาซัคสถาน กำลังเดินทางกลับมา
ผมยังยืนยันว่าไม่ใช่สิ่งที่คาดหวังไว้ และจะไปกล่าวโทษใครว่าวางยาไว้ ไม่อยากกลับไปพูด เป็นสิ่งที่เคยพูดและแถลงไปแล้วและตุลาการศาลก็มีข้อมูลที่ส่งไป น้อมรับคำตัดสิน
อ่านข่าว ฉบับเต็ม! คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ "เศรษฐา" พ้นนายกฯ
บรรยกาศการแถลงข่าวเปิดใจหลังคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญให้พ้นหน้าที่นายกรัฐมนตรี
บรรยกาศการแถลงข่าวเปิดใจหลังคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญให้พ้นหน้าที่นายกรัฐมนตรี
เชื่อแคนนิเดตนายกรัฐมนตรีทุกคนพร้อม
เมื่อถามว่าเข็ดที่เข้ามาเป็นนักการเมืองหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เกี่ยวว่าเข็ดหรือไม่เข็ด เราสามารถทำหน้าที่ช่วยเหลือบ้านเมืองได้ในภารกิจอื่น ส่วนว่าเป็นบทเรียนราคาแพงหรือไม่ ไม่อยากมองในแง่ลบ
ไม่เป็นอย่างที่คาดหวังหรือหวังไว้ แต่ก็น้อมรับตัดสินและเดินไปข้างหน้า ให้สภาฯ เดินหน้าสรรหานายกรัฐมนตรีคนต่อไป
นายเศรษฐา ตอบคำถามว่าผู้รัฐบาลคนต่อไป สามารถเปลี่ยนนโยบาย "เรือธง" ได้ แม้กระทั่งนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แลนด์บริจด์ และซอฟต์พาวเวอร์ได้ แต่เดียวกันยอมรับถึงข้อกังวลของประชาชน หลังลงทะเบียน "ดิจิทัลวอลเล็ต" แต่เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพราะตอนนี้หมดอำนาจไปเมื่อเวลา 15.30 น.
ยืนยันว่าไม่มีนัยใด และนโยบายของรัฐบาล เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีคนใหม่
นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โบกมืออำลาหลังสิ้นสุดหน้าที่
นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โบกมืออำลาหลังสิ้นสุดหน้าที่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ขึ้นอยู่กับรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของแต่ละพรรคการเมือง โดยมีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในแคนดิเดต ก็มีความพร้อม และมีจุดแข็งจุดอ่อนต่างกันไป
ยังเชื่อว่า รายชื่อแคนนิเดตนายกรัฐมนตรีมีความพร้อม และไม่ขอฝากอะไร เพราะพ้นจากจุดนี้ ไม่จำเป็นว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ ต้องทำแบบตัวเอง
ส่วนคำถามที่ที่ก้าวเข้ามาเป็นนักการเมือง ก็ไม่คิดว่าจะครบ 4 ปีหรือไม่ครบ 4 ปียอมรับความผิดหวังมีบ้าง แต่ต้องรองรับความผิดหวังนั้น นอกจากนี้นายเศรษฐา ยังย้ำว่า
มั่นใจว่าเป็นคนมีจริยธรรม ก็เสียใจแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เห็นด้วยน้อมรับคำตัดสินของศาลฯไม่ได้วิ่งเต้นหาใครส่งคำชี้แจงก็ถือว่าจบแล้ว
วินาทีที่อยู่ในสถานะอดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว ฉากสุดท้ายนายเศรษฐา ยกมือไหว้ พร้อมกับโบกมือลา ก่อนขึ้นรถเพื่อออกจากทำเนียบรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
สำหรับผลการตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบ มาตรา 160 (4) และ (5) เหตุเป็นบุคคลที่กระทําการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5)
อ่านข่าว ชมสดศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย "คดีเศรษฐา"
นายสมชาย แสวงการ และตัวแทน 40 สว.
นายสมชาย แสวงการ และตัวแทน 40 สว.
"สมชาย" ยันไร้สองมาตรฐาน
นายสมชาย แสวงการ กล่าวว่า นายเศรษฐา มีพฤติกรรมผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยนำรายชื่อนายพิชิต ขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่ง 40 สว.ได้ทำหน้าที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญครบถ้วน จากนี้การเมืองก็ต้องว่ากันต่อไป ครม.ก็จัดกันใหม่ได้ ส่วนคนที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี คือรายชื่อที่อยู่ในแคนิเดต ส่วนตัวเชื่อว่าไม่มีอะไรน่ากังวล และการเมืองเดินต่อไปได้
เราทำหน้าที่ครบถ้วนแล้ว คดีนี้เป็นบรรทัดฐานถูกต้อง ไม่มีสองมาตรฐาน
ส่วนความเคลื่อนไหวของ พรรคเพื่อไทย Pheu Thai Party โพสต์ข้อความ
ระบุว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่พรรคเพื่อไทยเจออุปสรรค แต่เราจะทำงานต่อ เราจะไม่หยุดทุกครั้งที่ล้ม เราจะล้มไปข้างหน้าและลุกขึ้นใหม่อย่างมั่นคง เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของคนไทย
อ่านข่าว
ตลาดหุ้นไทยดิ่ง 15 จุด หลุด 1,300 หลังศาลฯ ชี้ชะตา "เศรษฐา"
สื่อนอกตีข่าวถอด "เศรษฐา" พ้นนายกฯ หลังดำรงตำแหน่งไม่ถึงปี
ถ่ายทอดสด เลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
