แม้ จ.เชียงใหม่ ยังคงเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และ ต่างชาติ แต่ภาคธุรกิจตั้งข้อสังเกตว่า นักท่องเที่ยวมักใช้เวลาท่องเที่ยวเพียงระยะสั้นๆ จึงมีเสียงสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ กาสิโนถูกกฎหมาย
โดยหวังให้ จ.เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการลงทุนสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้เกิดการจ้างงาน และ สร้างรายได้การท่องเที่ยวให้มากขึ้น
ปรกฤษฏิ์ สายหัสดี กรรมการเลขาธิการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่
ปรกฤษฏิ์ สายหัสดี กรรมการเลขาธิการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ในเรื่องกาสิโนถูกกฎหมาย ทางคณะกรรมการหอการค้าได้พูดคุยกันหลายครั้ง โดยในภาพรวมทางหอการค้าฯ เห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ เพราะอย่างน้อยจะเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นแน่นอน และสร้างรายได้เข้ามาในจังหวัดมากขึ้น
แต่ข้อควรระวัง คือต้องมีมาตรการรองรับที่ชัดเจน ซึ่งจะทำให้ผลกระทบน้อยลง โดยเฉพาะเรื่องการจำกัดอายุผู้เข้าใช้บริการ ต้องไม่ต่ำกว่า 20 ปี และ มีความชัดเจน ไม่ได้เอื้อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
หลักๆ ก็คือเรื่องของตัวบทกฎหมายที่จะมาควบคุมให้กาสิโนเกิดขึ้นได้โดยไม่มีการผูกขาด และไม่มีช่องว่างทางกฎหมายใดๆ โดยสิ่งที่สังคมกังวลที่สุด คือ เรื่องการป้องกันเยาวชนไม่ให้ได้รับผลกระทบ ต้องชัดเจนและเข้มแข็ง
สุรีรัตน์ ตรีมรรคา ประธานอนุกรรมการด้านบริการสุขภาพ สภาผู้บริโภค
สุรีรัตน์ ตรีมรรคา ประธานอนุกรรมการด้านบริการสุขภาพ สภาผู้บริโภค มองว่ากาสิโนถูกกฎหมายมีทั้งข้อดี และ ข้อเสีย ข้อดีที่สำคัญคือการสร้างกฎเกณฑ์การควบคุมทั้งตัวธุรกิจ และ คนที่เข้าไปทำงานเป็นพนักงานจะได้รับการดูแล ต่างจากธุรกิจใต้ดินผิดกฎหมาย
แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะใช้พื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งกาสิโน เพราะเชียงใหม่มีการท่องเที่ยวที่เป็นจุดขายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องเอากาสิโนมาเป็นตัวดึงดูด และโดยหลักทั่วไปกาสิโนควรจะไปไปจัดตั้งในพื้นที่ ที่มีความเฉพาะเจาะจง อาจจะไปอยู่บนเกาะ หรือ อยู่ตามแนวชายแดน ที่สำคัญ ต้องมีการควบคุมดูแลที่ดี
บริการกาสิโน คนที่จะเข้าไปต้องลงทะเบียน หรือ ต้องมีค่าสมาชิกที่เหมาะสม มีการกำหนดอายุ ไม่ใช่ว่าใครๆก็เข้าไปได้ การที่รัฐเข้าไปตรวจสอบเป็นประจำจะทำให้ไม่เกิดการคอร์รัปชั่น การเรียกรับเงินก็จะต้องเกิดน้อยลง
ผศ.ณัฐกร วิทิตานนท์ อาจารย์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ณัฐกร วิทิตานนท์ อาจารย์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หนึ่งในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ให้ความเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งผ่านการรับรองจากรัฐสภา และเตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็น
ยังมีรายละเอียดที่ไม่ชัดเจนอีกหลายๆ ประเด็น เช่น จำนวนสถานบันเทิงที่จะได้รับการจัดตั้ง หรือ กรอบรายละเอียดสถานที่ตั้ง ไม่ได้ระบุไว้ และ คณะกรรมการส่วนใหญ่ก็จะเป็นฝ่ายการเมือง
ขณะที่ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ เข้าไปเป็นเพียงองค์ประกอบเล็กๆ ไม่ได้มีบทบาทที่จะไปถ่วงดุลได้ และที่สำคัญคือ ไม่ได้ให้ความสำคัญการเยียวยาผลกระทบ จึงตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลควรทำสอบถามความเห็นของประชาชนก่อนหรือไม่
ในต่างประเทศ กาสิโนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะอ่อนไหว หลายประเทศการตัดสินใจจะทำ หรือไม่ทำกาสิโน บางครั้งรัฐบาลไม่อยากแบกความเสี่ยง จึงเลือกใช้วิธีการลงประชามติ เพื่อกลับไปถามความเห็นของประชาชนก่อน และนโยบายของพรรคเพื่อไทยเอง ก็ไม่ได้ระบุในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จึงอาจจะพูดไม่ได้เต็มปากว่า ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะนโยบายนี้
สำหรับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ฉบับใหม่ กำหนดให้ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร
โดยการพิจารณาออกใบอนุญาต จะมีอายุ 30 ปี แต่ต้องมีการประเมิน ทุก 5 ปี สามารถต่ออายุได้ครั้งละ 10 ปี มีค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ครั้งแรก 5,000 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมรายปีอีก 1,000 ล้าน และ ห้ามประชาชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ โดยคนไทยเข้าใช้บริการได้ แต่ต้องลงทะเบียน และ เสียค่าธรรมเนียมเข้า 5,000 บาท
รายงาน : พยุงศักดิ์ ศรีวิชัย ผู้สื่อข่าวอาวุโสไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ