"ไทยพีบีเอส" รายงานผลปฏิบัติการประจำปี 2566 ต่อวุฒิสภา

สังคม
17 ก.ย. 67
16:38
122
Logo Thai PBS
"ไทยพีบีเอส" รายงานผลปฏิบัติการประจำปี 2566 ต่อวุฒิสภา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ผู้บริหาร ส.ส.ท. รายงานผลปฏิบัติการปี 2566 ต่อวุฒิสภา "รศ.เจิมศักดิ์" แจงไทยพีบีเอสต้องปรับตัวเพื่อประโยชน์ สาธารณะ "รศ.วิลาสินี" ให้คำมั่นการรับข่าวสารของประชาชนปราศจากผลประโยชน์แอบแฝงการเมือง พร้อมส่งมอบคุณค่าต่อสาธารณะ

วันนี้ (17 ก.ย.2567) การประชุมวุฒิสภา ที่มี นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธาน วุฒิสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระพิจารณารายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2566 ขององค์กรกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ส.ส.ท. นำโดย รศ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ประธาน กนย. รวมถึง รศ.วิลาสินี พิพิธกุล ผอ.ส.ส.ท. กล่าวรายงานผลปฏิบัติการสาระสำคัญ กล่าวถึงจุดยืน จะไม่ปล่อยให้กลไกตลาดมาปิดกั้นเนื้อหาที่ถูกนำเสนอน้อย

เช่นเนื้อหาด้านการศึกษา การคุ้มครองผู้ บริโภค วัฒนธรรมพื้นถิ่น กลุ่มคนเปราะบาง และเพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนว่าจะได้รับข่าวสารที่ปราศจากผลประโยชน์แอบแฝงทางการเมือง ข่าวเจาะลึกและการตรวจสอบแผนประชาชน โดยไม่เกรงกลัวว่าจะต้องถูกแทรกแซงโฆษณา ซึ่งผลงานของไทยพีเอสปรากฏเด่นชัดตลอดปีที่ผ่านมา

โดยมี 5 ประเด็นสำคัญในการส่งมอบคุณค่าต่อสาธารณะ 1.ข่าวสารที่ประชาชนไว้วางใจและพึ่งพิงได้ 2. การสืบสานถักทอหยั่งรากทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย 3. การให้สารประโยชน์และความบันเทิงที่คุ้มค่า 4. การส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นโรงเรียนของสังคม และ 5. การส่งเสริมประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วม

ไทยพีบีเอส รายงานผลปฏิบัติการประจำปี 2566 ต่อวุฒิสภา

"ไทยพีบีเอส" รายงานผลปฏิบัติการประจำปี 2566 ต่อวุฒิสภา

"ไทยพีบีเอส" รายงานผลปฏิบัติการประจำปี 2566 ต่อวุฒิสภา

ส่วนการบริหารจัดการงบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าภายใต้ระบบนิเวศสื่อใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อหาและบริการสามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างถูกที่ถูกเวลาและถูกใจประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ดำเนินตามแผนเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และเว็บไซต์ของไทยบีเอสเป็นอันดับต้น ๆ ของเว็บข่าวเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และยืนยันว่าจะไม่ทิ้งผู้ชมที่ดูผ่านระบบเทคโนโลยีเดิม ทางทีวี หรือบริการเสริมให้กับผู้ที่มองไม่เห็นหรือไม่ได้ยิน

การบริหารงบประมาณ 2566 ใช้การผลิตเนื้อหาผลิตขับเคลื่อนวาระทางสังคมและการมีส่วนร่วมพัฒนานักสืบสารสาธารณะร้อยละ 52.25 ขณะที่ร้อยละ 23.16 เป็นงบเกี่ยวกับเทคโนโลยีเทคโนโลยีการผลิตส่งสัญญาณออกอากาศและการบริหารงาน ซึ่งลดลงตามลำดับ

รศ.วิลาสินี พิพิธกุล ผอ.ส.ส.ท.

รศ.วิลาสินี พิพิธกุล ผอ.ส.ส.ท.

รศ.วิลาสินี พิพิธกุล ผอ.ส.ส.ท.

นอกจากนี้ยังอ้างอิงการประเมินและการยอมรับจากประชาชนโดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) อยู่ในระดับที่ดี สำหรับความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ มีเนื้อหาที่ดีมากเกี่ยวกับการสะท้อนการเคารพความหลากหลาย และการเป็นพื้นที่กลางแห่งการเรียนรู้และหาทางออกถูกประเมินว่าเป็นเนื้อหาที่ดีมากเช่นกัน นอกจากนี้ผลประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ITA ปี 2566 อยู่ในระดับดีหรือร้อยละ 95.81

“การจะบอกว่าคุ้มค่าหรือไม่นอกจากดูจากสิ่งที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังดูได้จากบทบาทของการเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ระบบนิเวศสื่อของไทยมีคุณภาพมากขึ้น ปี 2566 สนับสนุนผู้ผลิตอิสระ 62 ราย ผู้ผลิตสื่อภาคพลเมือง 67 ราย นักสื่อสารภาคพลเมือง 7,400ราย และเครือข่ายสื่อสาธารณะท้องถิ่น 12 แห่งทั่วประเทศและมหาวิทยาลัยอีก5แห่งเพื่อจับมือกันเพื่อพัฒนาคุณภาพของระบบนิเวศสื่อสาธารณะท้องถิ่น” รศ.วิลาสินีกล่าว

ผอ.ส.ส.ท. รายงานช่วงท้ายว่า ในสถานการณ์ที่ประชาชนต้องการสื่อที่เชื่อถือ กล้าหาญไม่มีอคติและสนองต่อเนื้อหาที่ตลาดไม่ทำไทยพีพีเอสจะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มกำลังภายใต้การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีเพื่อให้ไทยพีพีเอสมีคุณค่าต่อสาธารณะและร่วมสร้างสังคมที่มีคุณภาพคุณธรรมยิ่งขึ้น

ส่วนสมาชิกวุฒิสภาได้อภิปราย อย่างกว้างขวาง เช่น นาวาตรีพุฒิพงษ์ พงศ์สุวรรณ อภิปรายชื่นชมไทยพีเอสทำหน้าที่มาอย่างดีมาโดยตลอด ได้ติดตามซีรี่ส์บางเรื่องน่าดูเช่น บุษบาลุยไฟ พร้อมเสนอแนะให้ทำการประชาสัมพันธ์ อย่างเช่นละครอาชญาโกง ทำคลิปเผยแพร่ช่องทางต่าง ๆ ให้ประชาชนเข้าถึง ส่วนรายการข่าวแนะควรทำหน้าที่ให้เป็นกลางที่สุด และแนะนำให้อดทนต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ และทิ้งท้ายสนับสนุนการดำเนินการของไทยพีบีเอส

นาวาตรีพุฒิพงษ์ พงศ์สุวรรณ

นาวาตรีพุฒิพงษ์ พงศ์สุวรรณ

นาวาตรีพุฒิพงษ์ พงศ์สุวรรณ

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี สมาชิกวุฒิสภาอภิปราย กล่าวถึงการได้รับคุณูปการจากไทยพีบีเอสที่สนับสนุน ช่วยงานประชาสัมพันธ์ให้กับหน่วยงานราชการ ซึ่งไทยพีพีเอสเป็นทางออกที่สำคัญ เมื่อประสบปัญหาหลายอย่างของประชาชน มีการจัดรายการสถานีประชาชนให้คนที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยในวงเสวนา ถือว่าทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าชมเชย และกล่าวขอบคุณที่ได้จัดรายการให้กำลังใจสมัยตอนที่ติดโควิดและพักรักษาในโรงพยาบาลศิริราช ส่วนการนำเสนอข่าวดำเนินการได้อย่างน่าชมเชย ทั้งนี้ขอติว่ารายการสำหรับเยาวชนวัยรุ่นมีน้อยเกินไป เสนอให้เติมเต็มในส่วนนี้ และทิ้งท้ายบทกลอนว่า

“แหงนดูฟ้าหม่นมัวอยู่ทั่วฟ้า บางเวลาเม็ดฝนร่วงหล่นฝอย คนพึมพำร้องขอนั่งรอคอยฝนหยุดหน่อย หยุดพร่ำขอทำพิน”

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี

นายชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภากลุ่มสื่อสารมวลชนมวล อภิปรายตั้งคำถามว่าไทยพีเอสใช้งบเกินตัวหรือไม่ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา แต่ละปีขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท และมีการรับปากคณะกรรมการนโยบายว่าจะเข้าสู่งบสมดุล แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถที่จะทำได้ และขอคำชี้แจงเกี่ยวกับสัดส่วนของข่าวที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นลำดับที่สอง

และมีการสังเกตว่ามีการลงทุนผลิตละครนับ 1,000 ล้านบาท แต่เป็นละครเกรดซี และการสำรวจเรตติ้งที่แตกต่างจากที่อื่น และสอบถามงบประมาณในส่วนของบุคลากร และถามถึงข้อครหา เช่น ทีวีที่เต็มไปด้วยความร้าวลึก และเรื่องลึกลับ เป็นแดนลี้ลับ ลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน เป็นเมืองลับแล เป็นเมืองแห่งการเล่นพรรคเล่นพวก ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาอาจจะร้ายแรงซึ่งเป็นโอกาสในการตอบข้อซักถาม

นายชิบ จิตนิยม

นายชิบ จิตนิยม

นายชิบ จิตนิยม

นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา อภิปราย ชื่นชมการนำเสนอข่าวปลาหมอคางดำ ไม่ได้เกรงกลัวต่อทุนใหญ่ และตั้งคำถาม บทบาทนักข่าวพลเมือง สภาผู้ชมผู้ฟัง สวัสดิการของคนงานข่าวและพนักงาน การถอดบทสัมภาษณ์รัฐมนตรีไต้หวัน กระทบต่อเสรีภาพหรือไม่ สอบถามถึงกรณีนักการเมืองใช้ความรุนแรงกับสื่อมวลชนไทยพีบีเอส

นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย

นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย

นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย

นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภาอภิปราย ชื่นชมการทำงานให้ความเคารพต่อสิทธิมนุษยชน ส่วนการทำหน้าที่ของนักข่าวพลเมืองยังเป็นคนหน้าเดิมกลุ่มเดิมในขณะที่คนในพื้นที่ยังสามารถพัฒนาเข้ามาทำหน้าที่ได้ควรเปิดโอกาสให้คนหน้าใหม่เข้ามา โดยมองว่าการทำหน้าที่ยังขาดความกล้า ตรวจสอบเรื่องของการทำหน้าที่ของรัฐในมุมละเมิดสิทธิมนุษยชน

นางอังคณา นีละไพจิตร

นางอังคณา นีละไพจิตร

นางอังคณา นีละไพจิตร

นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สมาชิกวุฒิสภาอภิปรายสอบถาม ถึงรายงานเกี่ยวกับข้อร้องเรียน ผ่านสภาผู้ชมและสภาผู้ฟังแยกย่อยตามภูมิภาค ซึ่งกำหนดไว้ในกฎหมายในการจัดตั้งองค์กร ซึ่งยังไม่ปรากฏในรายงานครั้งนี้ รวมถึงการรายงานใช้งบประมาณกับเป้าหมายที่วางไว้ ยังไม่เห็นการรายงานงบประมาณและแผนดำเนินการในปีถัดไป

นายขวัญชัย แสนหิรัณย์ สมาชิกวุฒิสภาอภิปราย ให้ข้อสังเกตได้รับทราบพลังงานการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่มีความตั้งใจ และหยิบเรื่องประเด็นปลาหมอคางดำ ชี้เห็นถึงการทำหน้าที่ติดตาม ความเป็นกลางในการนำเสนอข่าว ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ประชาชนได้รับได้รับผลประโยชน์ในการรับข้อมูลข่าวสาร โดยให้ข้อเสนอแนะการเผยแพร่ข้อมูลในช่องที่เข้าถึงได้ง่าย และแยกช่องย่อยให้เด็กเข้าถึงข้อมูล

นายขวัญชัย แสนหิรัณย์

นายขวัญชัย แสนหิรัณย์

นายขวัญชัย แสนหิรัณย์

น.ส.อัจฉรพรรณ หอมรส สมาชิกวุฒิสภา อภิปราย ถึงการปรับโครงสร้างสภาผู้ชมซึ่งอาจทำให้เครือข่ายที่มีอยู่ถูกลดบทบาทความสำคัญ ทำให้กลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดทิศทางด้อยลง ส่วนนายสุทนต์ กล้าการขาย สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายเสนอแนะเรื่องเพิ่มเติมสร้างสังคมสุจริต ในการต่อต้านคอรัปชัน และบทบาทในการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ และการรณรงค์ลดขยะ

น.ส.อัจฉรพรรณ หอมรส

น.ส.อัจฉรพรรณ หอมรส

น.ส.อัจฉรพรรณ หอมรส

โดยผู้บริหารของ ส.ส.ท. ตอบข้อซักถาม รศ.วิลาสินี กล่าวขอบคุณสมาชิกวุฒิสภา 9 คน ให้คำแนะนำให้ข้อเสนอแนะและติติง พร้อมกับชี้แจงกันทำสตรีมมิ่ง โดยมี วิภา(Vipa) เป็นเทคโนโลยีที่ได้ดำเนินการอยู่ ซึ่งมีสมาชิก 170,000 คน ส่วนกลุ่มเป้าหมายทีวีคือผู้ชมอายุ 45 ปีขึ้นไป และหลังจากที่มีการทำข่าวเชิงลึกก็ทำให้มีฐานผู้ชมอายุ 23 ปี เข้ามาเพิ่มเติม พร้อมชี้แจงสัดส่วนการนำเสนอข่าวอยู่ที่ร้อยละ 51 และมีการนำเรื่องจริงมาผลิตเป็นสารคดีเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่การสนับสนุนนักข่าวพลเมืองยังคงมีพื้นที่ออกทางทีวี 4 รายการ เช่น รายการฟังเสียง ประเทศไทยทุกวันเสาร์ เวลา 17.00 น. หรือรายการอนาคตประเทศไทย ที่นำเนื้อหาจากนักข่าวพลเมืองในพื้นที่มานำเสนอ รวมถึงในรายการพิเศษที่มีบทบาทนักข่าวพลเมืองเข้ามาร่วมด้วย อีกทั้งยังมีแอปพลิเคชันซีไซต์ที่เข้ามามีบทบาท

ส่วนสภาผู้ชมผู้ฟัง ชี้แจงว่าการทำงานกับสภาผู้ชมรุ่นที่ 7 ตอนนี้ยังเน้นจัดรับฟังทางออนไลน์ตามภูมิภาค 10 ภูมิภาคย่อย โดยต้องการเสียงสะท้อนกลับมา รวดเร็ว ในช่วงปลายปีจะจัดเวทีแบบพบหน้ากับสมาชิกสภาผู้ชมกับเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนประเด็นความเห็นและข้อเสนอเชิงนโยบายที่มีต่อองค์กรยืนยันบทบาทของสภาผู้ชมไม่ได้หายไป

ประเด็นเรื่องงบประมาณชี้แจงว่างบผลิตผลิตละครปี 2566 ไม่ใช่หลัก 1,000 ล้านบาท ทั้งหมด 133 ล้านบาท แต่เป็นละครที่ตั้งใจให้เป็นละครแห่งปีซึ่งต้องการลงทุน และในขณะนี้ไม่มีสต๊อกละครเก็บไว้ หรือค้างสต๊อก โดยผู้ผลิตละครหน้าใหม่ก็มีเพิ่มขึ้นตลอด มีการเปิดโครงการให้ผู้ผลิตหน้าใหม่และกลุ่มคนใหม่คัดเข้ามาร่วมงาน ไม่ได้ผูกขาดผู้ผลิตกลุ่มเดิม

ไทยพีบีเอส รายงานผลปฏิบัติการประจำปี 2566 ต่อวุฒิสภา

"ไทยพีบีเอส" รายงานผลปฏิบัติการประจำปี 2566 ต่อวุฒิสภา

"ไทยพีบีเอส" รายงานผลปฏิบัติการประจำปี 2566 ต่อวุฒิสภา

ชี้แจงเพิ่มเติมประเด็นการคุกคามนักข่าวยืนยันว่าเรื่องนี้กรรมการนโยบายกรรมการบริหารและเพื่อนร่วมงานให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่การตัดสินใจดำเนินการมี 1 ทาง คือให้ความสำคัญกับผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นสำคัญ ที่ต้องการการให้พ้นสภาพทางจิตใจจึงดูแลเยียวยาผู้สื่อข่าวอย่างดีที่สุดหาก ต้องการฟ้องก็พร้อมช่วยเหลือ แต่ผู้สื่อข่าวต้องการกลับไปสู่อาชีพปกติโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันก็มีมาตรการคุ้มครองดูแลนักข่าวคนอื่นที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย และจะไม่ยอมให้เกิดการคุกคามในวิชาชีพจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้

รศ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

รศ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

รศ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

ทั้งนี้ รศ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ประธาน กนย. ส.ส.ท. ลุกขึ้นชี้แจงประเด็นคำถามของสมาชิกวุฒิสภาเกี่ยวกับ การให้พนักงาน และสภาสภาผู้ชม มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย ยืนยันว่าตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่ได้ให้หลายส่วนร่วมกันกำหนดนโยบายร่วมกัน หลังจากที่รับฟังผ่านรูปแบบต่าง ๆ ออกมาเป็นนโยบาย 14 ข้อ

และยืนยันว่าการดำเนินการของสภาผู้ชมยังคงเป็นไปตามพระราชบัญญัติขององค์กรทุกประการ พร้อมชี้แจงการสำรวจเรตติ้งที่แตกต่างจากสื่อพานิชย์อื่นที่ใช้เอซีเนลสัน ซึ่งวิธีสำรวจผ่านปัจจัยด้านโฆษณา แตกต่างการดำเนินการของไทยพีพีเอส และในทางสถิติของวิธีเอซีเนลสัน มองว่าไม่สามารถวัดอะไรได้ ขณะเดียวกันต้องมีค่าใช้จ่ายปีละ 3 ล้านบาท แต่เป้าหมายของไทยพีเอสคือต้องการประเมินเพื่อปรับปรุงคุณภาพจึงหาวิธีประเมินแบบอื่นที่สอดคล้องกัน

รศ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ประธาน กนย. ส.ส.ท.

รศ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ประธาน กนย. ส.ส.ท.

รศ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ประธาน กนย. ส.ส.ท.

พร้อมกล่าวถึงกรณีการคุกคามนักข่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ไทยพีบีเอสจะทำได้เองโดยลำพัง แต่เป็นเรื่องหลักการที่สื่อในประเทศไทยควรร่วมกันหาทางป้องกัน ซึ่งดีใจที่สมาชิกวุฒิสภาให้ความสำคัญในเรื่องนี้ มองว่าจะต้องช่วยกันทุกฝ่ายในการปกป้องคนทำข่าวภายใต้สิทธิเสรีภาพ “มันเป็นเรื่องไม่ใช่เฉพาะของไทยพีเอสแต่ทุกท่านจะต้องช่วยกันปกป้องตรงนี้”

ระบุว่าไทยบีพีเอสเกิดเพราะต้องการปลอดจากอำนาจของทุน และปลอดออกจากอำนาจของรัฐบาล หรือเป็นสื่อสาธารณะแห่งเดียวในประเทศประเทศไทย ที่รัฐไม่สามารถสั่งการได้ และปราศจากการแทรกแซงของเอกชน โดยการดำเนินการมาจากเงินบำรุงจากภาษีเหล้าบุหรี่ 1.5% และยังคงทำหน้าที่รักษาหลักการขององค์กรได้ดีพอสมควรนับแต่ มีบทบาทเข้ามา 16 ปี เมื่อเทียบกับสื่อสาธารณะของ BBC ใช้งบปีละกว่า 200,000 ล้านบาทต่อปี แต่ไทยพีเอส 2,000 ล้านบาท NHK ใช้เงิน 165,000 ล้านบาทต่อปี หากเทียบกันแล้วถือว่าไทยพีบีเอสทำได้ดีทั้งที่อายุอายุน้อยกว่าและงบประมาณใช้ไม่มาก

“สื่อสาธารณะก็ต้องพยามปรับตัวตามที่ท่านทั้งหลายได้เสนอแนะให้คำแนะนำและต้องเดินต่อไปเพื่อประโยชน์ของสาธารณะอย่างแท้จริง” รศ.เจิมศักดิ์กล่าว

อ่านข่าว : "บิ๊กป้อม" ส่งทนายยื่นฟ้องแพ่ง 50 ล้านสื่อดังปมคลิปเสียงหลุด

เปิดยุทธภพ 3 กลุ่มนักร้องการเมือง อาวุธสังหาร รัฐบาลแพทองธาร

25-30 ก.ย.นี้ โอนเงิน 1 หมื่นบาท กลุ่มเปราะบาง-คนพิการ 14.5 ล้านคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง