"วันศารทวิษุวัต" เวลากลางวันยาวนานเท่ากับกลางคืน 22 ก.ย.นี้

Logo Thai PBS
"วันศารทวิษุวัต" เวลากลางวันยาวนานเท่ากับกลางคืน 22 ก.ย.นี้
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
22 ก.ย.2567 "วันศารทวิษุวัต" เวลากลางวันยาวนานเท่ากับกลางคืน 12 ชั่วโมงเท่ากัน ซึ่งเกิดขึ้นเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น นับเป็นวันเริ่มต้นสู่ฤดูใบไม้ร่วงของประเทศทางซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นสู่ฤดูใบไม้ผลิของประเทศในซีกโลกใต้

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) หรือ NARIT เปิดเผยว่า วันที่ 22 ก.ย.2567 เป็นวัน "วันศารทวิษุวัต" (อ่านว่า สา-ระ-ทะ-วิ-สุ-วัด) (Autumnal Equinox) ซึ่งดวงอาทิตย์จะเคลื่อนมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลก ทำให้ดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออก และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกพอดี

ส่งผลให้มีช่วงเวลากลางวันและกลางคืนยาวนานเท่ากัน สำหรับประเทศไทย วันดังกล่าวดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าเวลาประมาณ 06.07 น. และจะตกลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 18.14 น. (เวลา ณ กรุงเทพมหานคร) นับเป็นวันเริ่มต้นสู่ฤดูใบไม้ร่วงของประเทศทางซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นสู่ฤดูใบไม้ผลิของประเทศทางซีกโลกใต้

แม้เวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกในวันดังกล่าวจะดูเหมือนไม่เท่ากัน แต่ไม่ได้หมายความว่าวันดังกล่าวมีช่วงเวลากลางวันและกลางคืนยาวนานไม่เท่ากัน เนื่องจากการนิยามดวงอาทิตย์ขึ้นและตกนั้นจะนับเมื่อเราเห็น “ขอบบน” ของดวงอาทิตย์สัมผัสกับเส้นขอบฟ้า กล่าวคือ เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น จะนับเวลาเมื่อขอบบนของดวงอาทิตย์สัมผัสกับขอบฟ้าทางทิศตะวันออก และเมื่อดวงอาทิตย์ตก จะนับเวลาเมื่อขอบบนของดวงอาทิตย์สัมผัสกับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก (หรือเมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าหมดทั้งดวงนั่นเอง) ซึ่งหากนับจากช่วงเวลาที่จุดกึ่งกลางดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านขอบฟ้า วันดังกล่าวนับว่าเป็นวันที่มีกลางวันและกลางคืนยาวนาน 12 ชั่วโมงเท่ากัน

สำหรับคำว่า Equinox มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน 2 คำ คือ aequus แปลว่า เท่ากัน และ nox แปลว่า กลางคืน ดังนั้นจึงแปลรวมกันว่า “กลางวันยาวนานเท่ากับกลางคืน” ซึ่งตรงกับคำว่า วิษุวัต (विषुवत्) ในภาษาสันสฤต ที่แปลว่า จุดราตรีเสมอภาค เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ ในช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ เรียกว่า Vernal Equinox (วสันตวิษุวัต) และในช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง เรียกว่า Autumnal Equinox (ศารทวิษุวัต)

สำหรับปรากฏการณ์ต่อไปที่เกี่ยวข้องกับการขึ้น-ตก ของดวงอาทิตย์ในปีนี้ คือ “วันเหมายัน” (Winter Solstice) ซึ่งจะตรงกับวันที่ 21 ธ.ค.2567 เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันสั้นที่สุด และกลางคืนยาวที่สุดในรอบปี หรือที่คนไทยเรียกว่า “ตะวันอ้อมข้าว” สำหรับประเทศทางซีกโลกเหนือ นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนประเทศทางซีกโลกใต้จะมีช่วงกลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน

อ่านข่าว :

ดูได้ด้วยตาเปล่า! NARIT เผยภาพ "ดาวเสาร์" ใกล้โลกสุดในรอบปี

ปรากฏการณ์ท้องฟ้า เดือนกันยายน 2567 น่าติดตามและห้ามพลาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง