วันนี้ (23 ก.ย.2567) นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 32.93 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ "แข็งค่า" ในรอบ 1 ปี 6 เดือน โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ก.ย.) เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น จนทะลุโซนแนวรับ 33.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ที่ยังคงร้อนแรงอยู่
แน่นอนว่าเมื่อค่าเงินบาทแข็ง ค่าเงินจะกระทบต่อภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว โดยภาคการส่งออกนั้น นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าจะกระทบต่อการส่งออก 2 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มที่ส่งออกสินค้าไปแล้วอยู่ในขั้นตอนการเรียกชำระค่าสินค้าเมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทแล้ว ผู้ส่งออกจะได้รับเงินลดลงเพราะค่าเงินแข็งค่าเงินบาทขึ้นแทนที่จะมีกำไรก็อาจน้อยลงหรือไม่ได้กำไรในการค้าขาย
2. กลุ่มที่อยู่ระหว่างการเจรจาขายสินค้าต้องปรับราคาขายใหม่ เมื่อมีการปรับราคาขึ้นลูกค้ามักจะไม่ยอมทำให้การส่งออกสินค้าไทย มีความยากลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะขีดความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศที่ลดลงเนื่องจากสินค้าไทยมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้น สามารถซื้อจากที่อื่นทดแทนได้
ส่วนภาคการท่องเที่ยวนั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติแลกเงินได้น้อยกว่าเดิม ทำให้ต้องจ่ายสูงขึ้นเพื่อมาเที่ยวไทย อาจเปลี่ยนใจไปเที่ยวที่ประเทศอื่นแทนได้
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์อาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคตหอการค้าไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าในฐานะกลุ่มอาหารแปรรูปต้องใช้วัตถุดิบในประเทศผลิตเพื่อส่งออก ซึ่งค่าเงินบาทที่มีการเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงผันผวนเร็วในขณะนี้กำลังก่อปัญหาต่อการเจรจาขายสินค้าเพื่อส่งออกในล็อตใหม่ ๆ ที่กำลังมีคำสั่งซื้อก่อนเข้าเทศกาลปีใหม่ เพื่อส่งมอบปลายปีและต้นปีถัดไป
ซึ่งค่าบาทผันผวนและแข็งค่าเร็วจะทำให้เกิด 2 เหตุการณ์ขึ้นกับผู้ประกอบการระหว่างชะลอการขาย เพราะแบกรับภาวะเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาทผันผวนเร็วไม่ไหว หรือต้องขายแม้เสี่ยงขาดทุนเพราะต้องระบายสต๊อกและให้มีเงินหมุนเวียนในการทำธุรกิจ
ขณะที่นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้จะแถลงความคิดเห็นของหอการค้าฯ กับ นโยบายของกระทรวงพาณิชย์ และ การดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่ภาคธุรกิจไทยแข่งขันได้โดยมีตัวแทนจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะภาคการเกษตรและการค้าส่งออก
นอกจากนี้จะทำข้อเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสมุดปกขาวของ กกร. ยื่นต่อนายกรัฐมนตรีอย่างทั้งเรื่องช่วยเหลือ SMEs การแก้หนี้ แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ค่าเงินบาท มาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ และเสนอรัฐบาลนำระบบดิจิทัลมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
อ่านข่าว :