วันนี้ (24 ก.ย.2567) นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามมาตรการพักชำระหนี้ฯ ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 รวมถึงการพัฒนาศักยภาพเพื่อฟื้นฟูลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ผู้ที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ดังกล่าวภายใต้หลักการ ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้
โดยมาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการต่อเนื่องจากมาตรการพักชำระหนี้ฯ ระยะที่ 1 ภายใต้มาตรการพักชำระหนี้เกษตรกรระยะเวลา 3 ปี และเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินนโยบายตามคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2567 ที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ
โดยเกษตรกรลูกหนี้ ธ.ก.ส. ที่แสดงความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ฯ ระยะที่ 1 จำนวน 1,855,433 ราย ต้นเงินคงเป็นหนี้รวม จำนวน 240,836 ล้านบาท ได้รับสิทธิ์ในการพักชำระหนี้ฯ ระยะที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2568 และระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2568 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2569 โดย ธ.ก.ส. จะประเมินศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้ (Loan Review : LR) ของลูกหนี้เพื่อเข้าสู่มาตรการพักชำระหนี้ฯ
ทั้งนี้กระทรวงการคลัง คาดว่า มาตรการพักชำระหนี้ฯ ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนด้านภาระหนี้สินให้แก่เกษตรกรได้อย่างต่อเนื่อง มีส่วนช่วยในการเพิ่มสภาพคล่องให้เกษตรกรรายย่อยให้สามารถมีรายได้เหลือเพียงพอต่อรายจ่ายที่จำเป็นในครัวเรือน เพิ่มโอกาสให้เกษตรกรนำเงินไปลงทุนปรับเปลี่ยนหรือขยายการประกอบอาชีพ เพื่อเป็นการสร้างรายได้ในภาคการเกษตร ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อันจะนำไปสู่การเพิ่มกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจฐานราก เพื่อสร้างความมั่นคงของเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก
อ่านข่าว:
เงิน 10,000 บาททยอยโอนเที่ยงคืน 25 ก.ย."จุลพันธ์" มั่นใจราบรื่น
คลัง เตรียมจ่ายซ้ำอีก 3 ครั้ง กลุ่มเปราะบาง พลาดเงิน 10,000 บาท