"บิ๊กต่อ" โบกมือลา ผบ.ตร. รอเคาะ "พิทักษ์ 1"คนใหม่ หลัง 5 ต.ค.

อาชญากรรม
25 ก.ย. 67
14:35
684
Logo Thai PBS
"บิ๊กต่อ" โบกมือลา ผบ.ตร. รอเคาะ "พิทักษ์ 1"คนใหม่ หลัง 5 ต.ค.

30 ก.ย.นี้ เป็นช่วงวาระเกษียณราชการของทุกเหล่าทัพ "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.คนที่ 14 โบกมืออำลาตำแหน่งเจ้ากรมปทุมวัน ท่ามกลางพิธีสวนสนามกองเกียรติยศจากเหล่านักเรียนนายร้อยตำรวจ เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2567

"หน้าที่ที่สำคัญที่สุด คือ การปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอให้ตำรวจทุกนายได้ภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ ตามรอยพระยุคลบาทในฐานะข้าของแผ่นดิน โดยมีเจตนาอันแน่วแน่ ในอันที่จะมุ่งหมายประพฤติปฏิบัติตนเป็นตำรวจที่ดีของประชาชน ให้สมกับคำว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์"

เป็นถ้อยคำอําลาชีวิตราชการ จาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.คนที่ 14 ซึ่งกล่าวขึ้นในงานพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ และ สวนสนาม เป็นเกียรติแก่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2567 ณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยจัดขึ้นในวันที่ 24 ก.ย. 2567

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวถึงข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการ ด้วยว่า "การที่ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ในราชการ จนวันเกษียณอายุราชการอย่างราบรื่น ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าปลาบปลื้มยินดีอย่างยิ่ง ขอให้ท่านใช้ชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีคุณภาพ มีศักดิ์ศรี และมีความสุขต่อไป"

อีกทั้งขอให้ข้าราชการตำรวจทุกนายพึงระลึกเสมอว่า "การที่เราได้อาสามาเป็นตำรวจนั้น หน้าที่หลักคือการดูแลทุกข์สุขของประชาชน เสียสละอุทิศกายและใจให้กับการทำงาน เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข สร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้กับประชาชน"

จากนั้นเป็นประธานพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 และรับการเคารพจากกองเกียรติยศ ตรวจพลสวนสนาม มีพิธีมอบแหวนอัศวิน ก่อนที่จะมีขบวนสวนสนาม และพิธีเชิญธงพิทักษ์สันติราษฎร์ลงจากยอดเสา ณ ลานฝึกศรียานนท์

พล.ต.อ.สราวุธ ประธานฯ สอบวินัย "บิ๊กโจ๊ก" เกษียณ ด้วย

ในปี 2567 นี้ มีข้าราชการตำรวจเกษียณอายุราชการทั้งสิ้น 4,353 นาย ในระดับนายพลที่คุ้นตา มี พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. และยังเป็นประธานกรรมการสอบสวนวินัย “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมพวกตำรวจรวม 5 นาย อันถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีต้องหาคดีอาญาในความผิดสมคบกันฟอกเงินฯ

พล.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. , พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันติวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนประณีต ผบช.ตชด.,
พล.ต.ท.ฐากูร นัทธีศรี ผบช.ภ.3, พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภาค 1

"บิ๊กต่าย" ร่วมพิธีมอบประกาศเกียรติคุณผู้เกษียณฯ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พร้อม พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ร่วมพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้เกษียณอายุราชการ, พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์, พิธีวางพานพุ่มฯ, พิธีสวนสนาม และพิธีเชิญธงพิทักษ์สันติราษฎร์ลงจากยอดเสา

โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เป็นประธาน ในพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และถวายราชสักการะพระบรมรูป รัชกาลที่ 9 และพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2567 แก่ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการ ระดับ พ.ต.อ.ขึ้นไป ณ ห้องประชุมเตมียาเวส

พิธีสุดท้าย จบลงในเวลา 22.00 น. ข้าราชการตํารวจในสังกัด โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และนักเรียนนายร้อยตำรวจ ตั้งแถวซุ้มกระบี่หน้าประตูทางออกหอประชุมชุณหะวัณ และยืนแถวรายทางจากหน้าหอประชุม ถึงลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นเกียรติแก่คณะผู้เกษียณอายุราชการ ผบ.ตร. และนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ

งานอำลาตำแหน่งผ่านไปแล้ว แต่การแต่งตั้งผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนในตำแหน่งที่ว่างลง ยังเริ่มไม่ได้ ตาม กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ปี 2567 ระบุ ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ ก.ตร. พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 31 ก.ค. จากนั้นก็จะเป็นการพิจารณาแต่งตั้งในตำแหน่งรองลงไปตามลำดับ ซึ่งปีนี้ถือว่า ล่าช้ากว่าปกติ

เนื่องจาก กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ปี 2567 จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งประกาศเมื่อ 5 เม.ย. 2567 จึงจะมีผลบังคับใช้หลัง 5 ต.ค.2567 นั่นเอง

"แพทองธาร "นายกฯ เคาะ ผบ.ตร.คนที่ 15 เสนอ ก.ตร.

พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 มาตรา 77 การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งให้แต่งตั้งตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้ (1) ตำแหน่ง “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศ “พลตำรวจเอก” ซึ่งดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ หรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

มาตรา 78 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77(1)(2)(3)(4)(5)(6) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(1) การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77 (1) ให้นายกรัฐมนตรีคัดเลือกรายชื่อพนักงานตำรวจผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 77(1) โดยคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกันโดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวนหรืองานป้องกันปราบปราม เสนอ ก.ตร.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนแล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลพระกรุณา เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้ง

จนถึงเวลานี้ นายกฯ แพทองธาร ยังไม่มีกำหนดการ นัดประชุม ก.ตร. แต่อย่างใด แม้จะยังไม่มีกำหนดการ แต่ก็พอจะคาดการณ์ได้ว่า จะเกิดขึ้นในเดือน ต.ค.นี้ เพราะจำเป็นจะต้องพิจารณาเสนอชื่อ ผบ.ตร.คนที่ 15 โดยเร็ว

"แคนดิเดต" ผบ.ตร.คนที่ 15 คาด "บิ๊กต่าย"เต็งหนึ่ง

คุณสมบัติพื้นฐานของผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือก แต่งตั้งขึ้นเป็น ผบ.ตร .คือข้าราชการตำรวจยศ พลตำรวจเอก ซึ่งดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ หรือ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ปัจจุบัน มี 3 นายพล เรียงตามลำดับอาวุโส คือ

อาวุโสลำดับที่ 1 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.(นรต.41)
ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา มีบทบาทโดดเด่นในงานป้องกันและปราบปราม โดยเฉพาะเรื่อง การปราบปรามยาเสพติด อีกทั้งได้รับมอบหมายในปฏิบัติภารกิจสำคัญ จาก ผบ.ตร.ต่อศักดิ์ อยู่บ่อยครั้ง อาทิ การร่วมประชุม ผบ.เหล่าทัพ และมีกำหนดเกษียณอายุราชการในปี 2569

อาวุโสลำดับที่ 2 พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ(นรต.39)
ปัจจุบันดูแลรับผิดชอบด้านงานบริหาร แต่ก็พ่วง ตำแหน่ง ผอ.ปราบปรามการ
กระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ การค้าน้ำมันเถื่อน มีกำหนดเกษียณอายุราชการในปี 2568

อาวุโสลำดับที่ 3 พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. (นรต.42)
รับผิดชอบงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ และ ได้รับผิดชอบคดีสำคัญเรื่อยมา ตั้งแต่ ยุค ผบ.ตร.คนก่อน นั่นก็คือ คดีเว็บพนันออนไลน์ ที่มีตำรวจหลายนายตกเป็นผู้ต้องหา รวมถึง “บิ๊กโจ๊ก” ซึ่ง พล.ต.อ.ธนา มีกำหนดเกษียณอายุราชการในปี 2569

ท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนกำลังพล โดยเฉพาะพนักงานสอบสวน การปฏิรูปตำรวจ ที่ยังทำได้ไม่เต็ม เต็มหน่วย การกู้คืนศรัทธาจากประชาชนก็เป็นเรื่องที่ท้าทาย มากไปกว่านั้น คือ การเรียกความศรัทธาจากผู้ใต้บังคับบัญชากว่า 200,000 นาย นี่คือ ภารกิจที่รอ ผบ.ตร. คนต่อไป มาสานและสร้างต่อให้สำเร็จ

รายงานโดย : กิตติพร บุญอุ้ม ผู้สื่อข่าวอาชญากรรม ไทยพีบีเอส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง