วันนี้ (27 ก.ย.2567) นายสุภกิจ เจริญกุล ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นไมโครเอสเอ็มอี (MSME)กว่า 90% ของอุตสาหกรรมในประเทศไทย และมีเอสเอ็มอีที่ส่งออก 11%
นายสุภกิจ เจริญกุล ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD
นายสุภกิจ เจริญกุล ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD
ดังนั้นเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้สามารถส่งออกไปตลาดโลกได้และแข่งได้ได้ สถาบันฯเล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลาง เล็ก และย่อม (MSME) ให้แข่งขันและรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ได้จัดตั้ง ศูนย์ประชาคมข่าวกรองทางการค้า หรือ Trade Intelligence Center -TIC เพื่อคาดการณ์ วิเคราะห์ และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับ MSME ของไทย
ทั้งนี้สถาบันได้มุ่งไปที่ 3 อุตสาหกรรมดาวรุ่งในอนาคตของไทย คือ“อาหาร พลังงาน เทคโนโลยี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารที่มีโอกาสเกิดการเปลี่ยนแปลงในระยะ 10-20 ปีข้างหน้าเป็นอย่างมาก ขณะที่ภาคเกษตร ซึ่งเป็นต้นน้ำ มีแนวโน้มผลผลิตลดลง เพราะประชากรไทยเข้าสู่ภาคการเกษตรลดลง จากอัตราการเกิดต่ำ
สิ่งที่จะข้อเสนอถึงภาครัฐ คือจะต้องวางแผนว่าจะทำอย่างไรที่จะให้มีผลผลิตป้อนอุตสาหกรรม เพราะปัจจุบันมีโอกาสมากทั้งอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารเฉพาะกลุ่ม อาหารที่มีนวัตกรรม ซึ่งต้องส่งเสริมให้ MSME เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อผลิตสินค้าป้อนความต้องการของตลาดที่มีมากขึ้น
ผอ.สถาบันITD กล่าวอีกว่า สำหรับ 3 อุตสาหกรรมนำร่อง จะมี MSME เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ซึ่งสถาบันฯได้ร่วมกับเครือข่ายทางวิชาการ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งไทยและต่างประเทศในการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกและการตลาด เช่น ข้อมูลการตลาด ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค และมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (NTMs) เพื่อใช้ในการคาดการณ์และวิเคราะห์มาตรการด้านการค้าและการลงทุนในอนาคต โดยจัดทำเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ที่จะเป็นข้อแนะนำให้กับ MSME นำไปใช้ในการปรับตัวและหาโอกาสทางการค้า การลงทุนต่อไป
ด้าน นายวิมล ปั้นคง รองผู้อำนวยการ (วิชาการ) ITD กล่าวว่า อุตสาหกรรมพลังงาน เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ โดยเฉพาะการมุ่งพลังงานสีเขียว ซึ่งนโยบายภาครัฐจะต้องให้การสนับสนุนการสร้างพลังงานสีเขียว ไม่ใช่พลังงานจากฟอสซิลแบบเดิม โดยต้องเพิ่มพลังงานทางเลือกทั้งจากแดด ลม ชีวภาพ และต้องเปิดโอกาสให้ MSME มีส่วนร่วมในการผลิตพลังงานสีเขียว และต้องสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าและบริการในทุกภาคส่วน หันมาใช้พลังงานสีเขียว
ขณะนี้ทั่วโลกให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับสีเขียว หากผลิตสินค้าและบริการตอบโจทย์โลกได้ ก็จะเพิ่มโอกาสทางการค้า และการลงทุนต่าง ๆ ในอนาคต ซึ่งMSME จะต้องรู้ทันและปรับตัวใช้
ขณะที่การใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับทุกอุตสาหกรรม ภาครัฐจะต้องสนับสนุน MSME ให้เข้าถึงเทคโนโลยี ด้วยการสนับสนุนแหล่งเงินทุน เพื่อช่วยยกระดับการผลิต การทำการค้า เพิ่มโอกาสในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และต้องสนับสนุนการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม สถาบันฯจะนำผลการศึกษาและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายทั้งหมดนี้ เสนอให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และภาคเอกชน เช่น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สมาคมธนาคารไทย และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะที่ นายพันธ์รบ ราชพงศา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาขีดความสามารถทางการค้าและการพัฒนา ITD กล่าวว่า ปี 2568 สถาบันจะเพิ่มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เข้ามาอีก 1 อุตสาหกรรม เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกัน แต่จะขยายผลการศึกษาไปยังอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ดูตั้งแต่ไทย ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้
โดยจะศึกษาว่าการดำเนินการของจีนในอุตสาหกรรมเหล่านี้ มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมของไทยอย่างไร และจะปรับตัวอย่างไร หรือจะใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างไร เพื่อสร้างโอกาสให้กับ MSME ของไทย และปี 2569 จะขยายผลเป็นอาเซียน 10 ประเทศ จะดูว่าจะร่วมมือกันอย่างไร สร้างความเข้มแข็งร่วมกัน
อ่านข่าว:
"ทองคำ" ของถูกไม่มีอยู่จริง ไม่ดรามา ตั้งสติ "คิด" ก่อนควักจ่าย