น้ำลด! เข้าสำรวจบ้านหลังโดนน้ำยมซัด ซ่อมพนังแตกห่วงฝน

วันนี้ (30 ก.ย.2567) สถานการณ์น้ำท่วมบ้านท่าเกษม หมู่ 6 ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย หลังน้ำยมทะลักท่วม จนพนังกั้นน้ำแตก พัดบ้านประชาชนเสียหายไป 2 หลัง น้ำท่วมสูงกว่า 6 วัน 

ภาพมุมสูงเปรียบเทียบสถานการณ์น้ำท่วม บ้านท่าเกษม หมู่ 6 หลังน้ำยมทะลักท่วมจนพนังกั้นน้ำแตกพัดบ้านประชาชน เสียหายไป 2 หลัง น้ำท่วมสูงกว่า 6 วัน ล่าสุดเมื่อคืนนี้ระดับน้ำได้ลดลงอย่างรวดเร็ว จนชาวบ้านสามารถเข้าไปสำรวจความเสียหายภายในบ้านได้

ภาพมุมสูงเปรียบเทียบสถานการณ์น้ำท่วม บ้านท่าเกษม หมู่ 6 หลังน้ำยมทะลักท่วมจนพนังกั้นน้ำแตกพัดบ้านประชาชน เสียหายไป 2 หลัง

หนึ่งในจุดที่วิกฤตก่อนหน้าของ จ.สุโขทัย คือ ต.ท่าทอง เนื่องจากมีพนังกั้นน้ำแตกใกล้กัน 3 จุด ชาวบ้านบางส่วนติดเกาะ เพราะถนนถูกตัดขาด แม้วันนี้ระดับน้ำหลายพื้นที่จะลดลงแล้ว

แต่ชาวบ้านยังมีความกังวล เนื่องจากมีการแจ้งเตือนว่า น้ำเหนือจะเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง ในวันที่ 4-5 ต.ค.นี้ น้ำอาจจะทะลักเข้าท่วมเป็นรอบที่ 3

อ่านข่าว ครม.พิจารณากรอบเงินพิเศษเยียวยาน้ำท่วม พรุ่งนี้

ชาวบ้านท่าเกษม อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เข้าสำรวจบ้านหลังโดนน้ำยมซัดพังเสียหาย

ขนดิน 200 เที่ยวซ่อมพนังแตก

นายวิทยา ผิวพรรณ เลขานายก อบต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย กล่าวว่า เบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน อบต.ท่าทอง ได้เตรียมรถ 6 ล้อ บรรทุกดิน 200 เที่ยว เร่งดำเนินการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่แตกทั้ง 3 จุด เพื่อให้ชาวบ้านมีเส้นทาง เข้าออก และเพื่อป้องกันหากน้ำเข้ามาท่วมในพื้นที่เป็นรอบที่ 3

ตอนนี้สูบน้ำออกให้แห้งก่อนและเอาดินลงในจุดนี้และให้ชาวบ้านสัญจรไปมาได้ และจากนั้นจะทำคันเท่ากับพนังกั้นน้ำเดิมเพราะห่วงน้ำก้อนใหม่จะมาช่วงปลายสัปดาห์นี้ 

นายวิทยา ผิวพรรณ เลขานายก อบต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เร่งนำดินมาถมเพื่อให้ประชาชนสัญจรได้และแก้ไขพนังกั้นน้ำแตก

อีกปัญหาที่ชาวบ้านสะท้อน คือการเยียวยา ตามมาตรการของรัฐกำหนดเป็นการช่วยเหลือเป็นวัน 30 วัน 60 วัน ไม่ได้กำหนดเป็น แต่ชาวบ้านมองว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น ควรกำหนดเป็นครั้งด้วย เนื่องจากพอน้ำแห้ง ได้ซื้อข้าวของจำเป็นมาใหม่แล้ว แต่กลับถูกน้ำท่วมซ้ำอีก

อ่านข่าว เช็ก 9 เส้นทางน้ำท่วมเหนือ-อีสาน สัญจรผ่านไม่ได้

นางพิมประไพ ปันเงิน เกษตรกรสวนใบตอง ระบุว่า สวนกล้วยเสียหาย 30 ไร่ขาดรายได้เดือนละ 20,000 บาท

กล้วยตานียืนต้นตายสูญรายได้ 8 หมื่น

ไทยพีบีเอส สำรวจความเสียหายของต้นกล้วยตานีที่ล้มตาย ใบตองเริ่มเหลือง และภายในสวนยังมีน้ำท่วมขัง บริเวณคลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ระดับน้ำจะลดลงไปมากแล้ว แต่เมื่อน้ำยิ่งเห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น

นางพิมประไพ ปันเงิน เกษตรกรสวนใบตอง ระบุว่า สวนกล้วยตานีของตัวเองได้รับความเสียหายกว่า 30 ไร่ จะต้องขาดรายได้ไปอีก 4 เดือน เดือนละ 20,000 บาท กว่าจะเก็บใบตองครั้งใหม่ได้ ต้นเดือนก.พ. เพราะสวนกล้วยถูกน้ำท่วมเป็นรอบที่ 2 แล้ว รอบแรกน้ำยังไม่ทันแห้ง กลับมาถูกท่วมซ้ำอีก และกังวลว่าอาจจะมีครั้งที่ 3

กว่าจะเก็บเกี่ยวรอบใหม่อีก 3-4 เดือนเพราะกว่าจะโต ซึ่งตอนนี้เข้าไปเก็บเกี่ยวใบตองได้แต่ต้องลุยโคลนเข้าไปและใบตองก็จะเลอะเทอะไม่สวย 

อ่านข่าว ไม่เหลืออะไร "ยาย 78 ปี" กินข้าวไม่ลงบ้านหลังที่ 2 น้ำยมซัดหาย

สวนกล้วยตานี ของอ.สวรรคโลกเสียหายจากน้ำท่วม

ปัญหาที่เกษตรกรปลูกกล้วยตานี พบ คือ มาตรการการเยียวยาช่วยเหลือของรัฐ หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้การช่วยเหลือ ด้านเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน ได้นับรวมการปลูกกล้วยไปอยู่กับผลไม้ไม้ยืนต้น จะได้รับการชดเชยต่อเมื่อยืนต้นตายไร่ละ 4,048 บาท แต่เกษตรกรปลูกกล้วยตานีเก็บใบตองขาย มีการเก็บผลผลิตทุกวัน ไม่ใช่ฤดูออกผล จึงมองว่าการเยียวยาอาจไม่ตอบโจทย์กับความเสียหายที่เกิดขึ้น

สำหรับพื้นที่ตำบลคลองกระจก มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนปลูกกล้วยไว้ 3,100 ไร่ ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย 2 ครั้ง อาชีพเก็บใบตองขาย ปกติใน 1 เดือน จะสามารถเก็บใบตองได้ 3 ครั้ง  พื้นที่ปลูก 1 ไร่ จะได้ใบตองประมาณ 500-600 ใบ  ราคาขายจะอยู่ 80-90 บาท ต่อ 100 ใบ หากขายเป็นกิโลกรัม ราคาหน้าสวนจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาท

อ่านข่าวอื่นๆ 

"บิ๊กดุง" สวมกอด "บิ๊กแมว" รับไม้ต่อตำแหน่งกองทัพเรือ

6 วันท่วมเชียงใหม่ "น้ำเน่า" สั่งสูบออก ห่วงฝนระลอกใหม่

"ไบโอไทย" พร้อมต่อสู้คดี กรณี CPF ฟ้องปม "ปลาหมอคางดำ"

ศรีสำโรงอ่วม! คันกั้นน้ำยมแตก ต.ทับผึ้ง ทะลักท่วมหลายหมู่บ้าน