เราเป็นผู้ใหญ่ เราต้องสร้างโลกที่ปลอดภัยให้เด็กเราจะไม่เอาเด็กมาขังกรง
การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นนอกห้องเรียนเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา เพราะโรงเรียนไม่สามารถจำลองทุกอย่างในห้องเรียนได้หมดจึงจำเป็นต้องมีการจัดกิจกรรมนอกห้องเรียน แต่จำเป็นจะต้องจัดให้เหมาะสมกับช่วงวัยของอายุ
คือ สิ่งที่ ผศ.อรรถพล อนันตวรสกุล คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังตอกย้ำกับสังคมว่า “ทัศนศึกษาไม่ควรยกเลิก” แต่ต้องจัดการให้ปลอดภัย หลังจากมีกรณีสังคมบางส่วนเรียกร้องให้ยกเลิกการทัศนศึกษา เป็นเพียงปลายเหตุ เพราะการทัศนศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน หรือเป็นกิจกรรมเสริมกิจกรรมพิเศษ
แต่ในการทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ยังไม่ได้มีข้อมูลชัดเจนว่า ทำไมต้องให้เด็กอนุบาลและมัธยมมาทัศนศึกษาร่วมกัน
อ่านข่าว : สพฐ.ตร.ยันพบเสียชีวิตในรถบัสไฟไหม้ 23 คน ระบุเพศไม่ได้ 5 คน
ภาพ : ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ครุฯ จุฬาฯ
ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมให้เด็กอนุบาลเดินทางมาทัศนศึกษาข้ามจังหวัดระยะทางไกลมากขนาดนี้ เนื่องจากตามหลักความเป็นจริง เด็กเล็กไม่ควรที่จะเดินทางไกลมาก เพราะอาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้า และความปลอดภัย ถ้าเป็นเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษา เดินทางข้ามจังหวัดระยะทาง 200 กิโลเมตรอาจจะพอเป็นไปได้
เหตุการณ์ในครั้งนี้อยากให้สังคมมองเรื่องนี้เป็นสองเรื่อง คือเรื่องของรถทัศนศึกษาที่ไม่ปลอดภัย และการออกแบบทัศนศึกษาที่อาจจะไม่เหมาะกับช่วงวัยของเด็ก รวมถึงการเตรียมความพร้อมของโรงเรียนในการดูแลความปลอดภัยระหว่างทัศนศึกษาของเด็กนักเรียน
นับว่าเป็นจุดบกพร่องที่สังคมต้องร่วมกันถกเถียงและหาคำตอบ เพราะการยกเลิกการติดตามจะยกเลิกทัศนศึกษาไปเลยเป็นเรื่องผิดประเด็น การเรียนรู้นอกห้องเรียนยังสำคัญและจำเป็นอยู่ หากบอกว่าต้องยกเลิกกิจกรรมนอกห้องเรียนเด็ก จะต้องไม่ไปเข้าค่าย
“เด็กต่างจังหวัดการที่จะได้ออกไปนอกห้องเรียนมันเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะว่าไม่ใช่ทุกบ้านที่พร้อมจะพาลูกไปเรียนรู้นอกห้องเรียนด้วยตัวเอง อย่างเด็กบางคนจะเดินทางข้ามจังหวัดอาจจะได้แค่ปีละหนึ่งครั้งที่โรงเรียนพาไป”
อ่านข่าว : ไทม์ไลน์ รถบัสทัศนศึกษาเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้
ดังนั้นสิ่งที่ภาครัฐควรจะทำคือจัดการให้ถูกประเด็น คือ การเลือกใช้บริการรถจ้างสาธารณะซึ่งบริษัทรถทัวร์เหล่านี้ อาจเอารถดัดแปลงมาใช้ไม่ได้เหมาะสม และไม่ได้มีความปลอดภัยที่ดีพอเป็นเรื่องใหญ่ เพราะว่าโรงเรียนไม่สามารถที่จะประสานบริษัทรถทัวร์ที่ได้มาตรฐานได้ เพราะว่าเป็นโรงเรียนขนาดเล็กงบประมาณจำกัด
ปัญหานี้ต้องอาศัยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้งประถมและมัธยม ทำหน้าที่ในการช่วยประสานงานได้อย่างดี ถ้าสามารถคัดกรองบริษัทรถทัวร์ที่ได้มาตรฐาน มีรายชื่อให้กับโรงเรียนที่สามารถทำตามมาตรฐานความปลอดภัยของโรงเรียนได้มีการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนการเดินทางรวมทั้งคนขับรถ
อย่างน้อยต้องมีประมาณ 3-4 บริษัทและให้โรงเรียนใช้เฉพาะบริษัทที่มีการคัดกรองไว้จะเป็นเรื่องที่สามารถป้องกันได้ ดังนั้นโรงเรียนและหน่วยงานต้นสังกัด ต้องออกแบบวิธีการเพื่อให้เด็กออกจากนอกโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย
“เราเป็นผู้ใหญ่เราต้องสร้างโลกที่ปลอดภัยให้เด็กเราจะไม่เอาเด็กมาขังกรงไว้ไม่พาไปไหนเลยอันนี้เป็นโจทย์ที่ต้องทบทวน”
การที่สังคมบอกว่าทัศนศึกษานอกห้องเรียนผิดแล้วต้องยกเลิกถ้าทำแบบนี้เด็กจะต้องถูกขังไว้ในโรงเรียนอย่างเดียวและจำไม่ได้เรียนรู้การฝึกทักษะการเข้าสังคมและประสบการณ์ในการใช้ชีวิต เพราะดูยีราฟทางทีวีและของจริงไม่เหมือนกัน
ส่วนในต่างประเทศพาเด็กทัศนศึกษานอกห้องเรียน หลายประเทศขนส่งสาธารณะดี ก็ไม่เกิดปัญหานี้เกิดขึ้น บางประเทศใช้รถไฟด้วยซ้ำ แต่ของประเทศไทย ระบบการขนส่งที่มีคุณภาพยังน้อยมาก ไม่ใช่เฉพาะเด็กแต่ผู้ใหญ่ ก็ยังเผชิญกับปัญหาความไม่ปลอดภัยเพราะฉะนั้นต้องแก้ที่ต้นเหตุต้องสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนนกับการเข้มงวดยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะ
อ่านข่าว : ส่งผู้เสียชีวิตเหตุไฟไหม้รถบัสพิสูจน์อัตลักษณ์ รพ.ตำรวจ 7 วันรู้ผล
ประเด็นเหล่านี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่าลดทอนคุณค่า ของกิจกรรมนอกห้องเรียน โดยเฉพาะครูและนักการศึกษาที่กำลังอยู่ในภาวะความโกรธหรือความเศร้าสูญเสียจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้
ดังนั้นการใช้กลไกในเชิงพื้นที่ สพป. และ สพม.ระดับจังหวัด สามารถทำได้คือการร่วมกันและประสานไปยังบริษัทรับจ้างรถสาธารณะมีเท่าไหร่ และบริษัทไหนสามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐานความปลอดภัย ทำเป็นเงื่อนไขสัญญาและเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม จะสามารถทำให้โรงเรียนสามารถต่อรองได้เพราะมีหลายโรงเรียนที่ต้องมาใช้บริการ
อ่านข่าว :
ศธ.สั่ง "งดทัศนศึกษา" ทันที เว้นจำเป็นให้จัดในพื้นที่จังหวัด
"รร.วัดเขาพระยาฯ" เตรียมรับ 23 ร่างกลับสู่อ้อมกอดครอบครัว
ตรวจ DNA ผู้ปกครองพิสูจน์อัตลักษณ์ ผู้เสียชีวิตเหตุรถบัสไฟไหม้