แพ้ในหลายพื้นที่ ตั้งแต่จ.ราชบุรี อุดรธานี ในการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น นายก อบจ. และการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.พิษณุโลก หลังจาก “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ทั้งที่ไม่ใช่คนหน้าใหม่ของพรรค แต่เดินทางมาจากพรรคอนาคตใหม่ มาสู่ยุค “ก้าวไกล”และ “ประชาชน”ในปัจจุบัน
ยิ่งไปกว่านั้น ผลการสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพล ครั้งล่าสุด คะแนนความนิยมของ “เท้ง” ณัฐพงษ์ ยังพ่ายให้กับ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ซึ่งเคยตกเป็นรองมาตลอด กลับตอกย้ำทำให้เห็นว่า คะแนนนิยมส่วนตัวของ “เท้ง” ณัฐพงษ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ สวนทางกับคะแนนนิยมพรรคประชาชนที่ยังมาเป็นอันดับที่ 1 ในขณะนี้
ที่มา: NIDA
“เท้ง” ณัฐพงษ์ บอกว่า ผลโพลดังกล่าวไม่ได้ทำให้มีความกังวล ช่วงเริ่มต้นของพรรคการเมืองมักมีความยากลำบากด้านการสร้างคะแนนนิยม แต่พรรคประชาชนมีต้นทุนมาจากพรรคอนาคตใหม่และก้าวไกล จึงไม่ได้นับหนึ่ง แต่ก็พร้อมรับและนำไปปรับปรุงตนเองให้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่หวาดวิตกต่อคะแนนนิยมส่วนตัว แต่หัวหน้าพรรคประชาชน ยอมรับว่า ในพรรคฯ ได้มีการพูดคุยภายใน เรื่องการทำงานของฝ่ายค้านเชิงรุกว่า ทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าใจว่าพรรคฯ มีการทำงานในรูปแบบที่จับต้องได้ และเป็นรูปธรรม เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลถึงคะแนนนิยมในอนาคต
แคมเปญ “เท้ง ทั่ว ไทย” คือส่วนหนึ่งของการทำงานในฐานะหัวหน้าพรรคฯ ที่จะสร้างความรับรู้และดึงคะแนนนิยมที่มีอยู่ให้ขยายเพิ่มขึ้น โดยจะลงพื้นที่ทั่วประเทศไทย ให้ครบ 77 จังหวัดภายใน 1 ปี โดยจะเข้าไปสอบถามสารทุกข์สุกดิบ และเห็นถึงปัญหาในพื้นที่อย่างแท้จริง
ถือเป็นการเตรียมความพร้อม หากได้รับเลือกเข้ามาในการเป็นรัฐบาลในสมัยหน้า และแสดงให้เห็นว่ามีความเหมาะสมในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และเลือก จ. ภูเก็ต เป็นแห่งแรกในการลงพื้นที่ วันที่ 20 ต.ค.นี้
“เท้ง” ณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงวิธีการคัดกรองสมาชิกพรรคฯ เพื่อปัองกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ทั้งเรื่องจริยธรรม การข้ามขั้วเป็น “สส. งูเห่า” รวมทั้ง “เรื่องเสียหาย” ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกพรรคหรือ สส. ในอดีตที่ส่งผลกระทบต่อพรรค ว่า พรรคฯ มีระบบฐานข้อมูลภายในเก็บประวัติการทำกิจกรรมกับพรรค ฐานข้อมูลนี้ช่วยคัดกรองบุคลากรที่มาเข้าร่วมงานกับพรรคได้ดียิ่งขึ้น
ที่มา: Facebook พรรคประชาชน
มั่นใจว่า 2 ปีกว่า ๆ นับจากนี้ แคนดิเดตของพรรคในอนาคต จะมีหลักการ มีความเชื่อ สอดคล้องกับพรรค ทำงานกับพรรคมาอย่างยาวนาน มีแต้มต่อ ได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการสรรหาฯ เป็นกระบวนการคัดผู้สมัครได้อย่างดียิ่งขึ้น
ส่วนกรณี 44 สส. ที่ ป.ป.ช. กำลังชี้มูลความผิดจริยธรรมฐานร่วมลงชื่อแก้ไข ม.112 “เท้ง” ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทางพรรคฯพยายามให้ สส. แต่ละคนทำสำนวนด้วยตนเอง ต่อสู้แยกเป็นกรณีไป เพื่อระยะเวลาในการไต่สวนจะได้นานขึ้น และลดความเสี่ยงที่ ป.ป.ช. จะชี้มูลความผิดแบบเหมาเข่ง
ทั้งนี้ บทบาทในฐานะผู้นำฝ่ายค้านและการทำงานร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ในส่วนของฝ่ายค้านนั้น “เท้ง” ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา พร้อมทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ให้คุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชน ให้สมกับที่ประชาชนเลือกมา แม้ว่าจะต้องทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านก็ตาม
การสนอกฎหมายใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และพรรคฯ พร้อมสนับสนุนกฎหมาย ที่ผ่านมาก็มีหลายฉบับที่ร่วมกันทำ เช่น พ.ร.บ.คู่สมรส กฎหมายสุรา กฎหมายที่เสนอเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายไหนก็ตาม ถ้าเป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ พรรคประชาชน และพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือกันภายในวิปฯ ฝ่ายค้านเพื่อสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว ไม่ใช่ค้านไปทุกเรื่อง
ส่วนมาตรการทำงานเชิงรุก ในส่วนการเพิ่มสมาชิกของพรรคประชาชน ส่วนใหญ่จะเน้นที่ ”สมาชิกสัมพันธ์” โดยมีการปรับลดค่าสมาชิกพรรคลง จากเดิม 2,000 บาท เหลือ 500 บาท ทำให้สัดส่วนผู้สมัครเป็นสมาชิกแบบตลอดชีพเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.34 และยอดสมาชิกพรรคประชาชนกว่าร้อยละ 50 ไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลมาก่อน หมายความว่า ประชาชนต้องการเข้าร่วมกับจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคมากขึ้น
ปีนี้เราเงินบริจาคเข้าพรรคฯ จำนวน 28 ล้านบาท ถือว่า มากพอสมควร สัดส่วนที่สร้างรายได้มากที่สุดคือผู้บริจาคจำนวนเงิน 1,000-5,000 บาท จำนวน 7,307 ครั้ง คิดเป็นเงิน 12.6 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผู้คนฐานะปานกลางและวัยทำงาน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ เพื่อให้คณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคประชาชนมีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น และทั้งหมดเป็นการทำงานเชิงรุกเพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งปี 2570
อ่านข่าว:
โปรดเกล้าฯ "ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ" เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาฯ