วันนี้ (11 ต.ค.2567) เจ้าหน้าที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าตรวจสอบ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ตั้งอยู่ย่านรามอินทรา
เพื่อรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ในการประกอบกิจการ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สินค้าที่จำหน่าย ไปตรวจสอบคุณภาพมาตรฐาน เพื่อประกอบการพิจารณาคดี
ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนขาย ระดับซูเปอร์ไวเซอร์ เดินทางเข้ามาที่บริษัท เพื่อนำสินค้าไปจำหน่าย หลังจากมีผู้สั่งซื้อทางออนไลน์ เปิดเผยว่า ได้เข้าสมัครเป็นสมาชิก เสียค่าสมัคร 25,000 บาท และนำสินค้าไปจำหน่ายกว่า 1 ปี ทำกำไรจากผลิตภัณฑ์กาแฟ และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม จนสร้างรายได้เพิ่มอีกหนึ่งช่องทาง
เหตุผลที่เข้ามาเป็นสมัครสมาชิก เป็นเพราะวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่ดี สินค้ามีคุณภาพ และมีการวางระบบภายในดี เคยได้รับรางวัลจากหน่วยงานรัฐ ประกอบกับได้รับคำปรึกษาที่ดีจากแม่ทีม ให้ความรู้เกี่ยวกับการขายของออนไลน์ จึงเกิดความเชื่อมั่นต่อบริษัท
และยังยอมรับว่า ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมอบรมกับทางบริษัท พบบุคคลที่มีชื่อเสียง ที่ปรากฏเป็นข่าวมาแสดงวิสัยทัศน์ และแนะนำผลิตภัณฑ์ ส่วนกระแสที่มีผู้มาร้องเรียน และนำหลักฐานเข้าแจ้งความผู้บริหารบริษัท ไม่ขอออกความเห็น เพราะแต่ละคน มีความสามารถในการขายที่แตกต่างกัน
"พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ" จ่อหมายเรียกผู้บริหาร-ดาราสอบ
ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบปากคำกลุ่มผู้ร่วมทำธุรกิจกับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด พบว่าขณะที่มีผู้เดินทางเข้ามาให้การกับตำรวจและแสดงตัวเป็นผู้เสียหายแล้วกว่า 120 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาทแล้ว
พนักงานสอบสวนพยายามรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ตั้งแต่การรับสมัคร การเข้าเรียนคอร์สออนไลน์, การชักชวนไปร่วมลงทุนธุรกิจ และตัวอย่างสินค้าของบริษัท เพื่อนำมาพิจารณาว่าเข้าข่ายกระทำความผิดในข้อหาใดบ้าง
โดยต้องพิจารณาอย่างละเอียดและรอบคอบ โดยมี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะกรรมการควบคุมสำนวนในคดีนี้ โดยจะเร่งสอบปากคำผู้เสียหาย และนำไปพิจารณาข้อหาที่อาจจะเข้าข่ายการกระทำความผิดเบื้องต้นก่อนในวันนี้
สำหรับผู้บริหารของบริษัท และดารานักแสดงที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการชักชวนประชาชนเข้าร่วมลงทุน หรือเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัท พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า อาจจะต้องออกหมายเรียก มาให้การเพิ่มเติมกับตำรวจทั้งหมด โดนมุ่งไปที่ระดับผู้บริหารบริษัทก่อน
จากนั้นจึงเป็นการพิจารณาเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะระบุได้ว่าบริษัทดังกล่าวมีความผิดก็หาได้บ้าง อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานและพิจารณา กระบวนการของตำรวจหลังจากนี้คือการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าพบว่ากระทำความผิดก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา
โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีหนังสือถึง เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งจะมีการหารือในเย็นวันนี้เกี่ยวกับการตรวจสอบทรัพย์สินและอายัดบัญชีของผู้บริหารบริษัทเอาไว้ตรวจสอบ โดยใช้อำนาจ ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ป้องกันผู้ถูกกล่าวหาโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สิน
อ่านข่าว : "มิน พีชญา" ตั้งโต๊ะแถลงโยงบอสธุรกิจชื่อดัง
บ.ขายอาหารเสริม ชี้แจง 5 ดารา ไม่ใช่ผู้ถือหุ้น
"ทนายษิทรา" หอบหลักฐานแจ้งเอาผิด 6 ผู้บริหารบริษัทดัง