วันนี้ (18 ต.ค.2567) คดีผู้บริหารบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ฉ้อโกงประชาชนกำลังถูกขยายผล หลังจากนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง สั่งให้ กรมสรรพากร ตรวจสอบการเสียภาษีบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป 18 คน โดยพบว่าผู้ต้องหาบางส่วนยื่นเสียภาษีไม่ครบถ้วน ซึ่งอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ รวมทั้งออกหมายเรียกสถาบันการเงินเข้าให้ข้อมูล เพื่อสนับสนุนการดำเนินคดีอย่างเต็มที่
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ยอมรับว่า พระราชกำหนดกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นกฎหมายกำหนดเงื่อนไขความผิดลักษณะแชร์ลูกโซ่ ของกระทรวงการคลัง ออกมาตั้งแต่ปี 2527 อาจล้าหลัง ไม่ทันกับสถานการณ์แล้ว สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สศค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงตั้งทีมงานเฉพาะกิจ เพื่อเร่งหารือกับ กฤษฎีกา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ สัปดาห์หน้า เพื่อทบทวนแก้ไขกฎหมายดังกล่าว
ส่วนกรณี สคบ. ทำหนังสือถึง สศค. กรณีปฏิเสธการรับรอง บริษัท ดิไอคอน เป็นธุรกิจขายตรง รายงานจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า สศค. ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่พิจารณาแผนธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจที่จะมาขอจดทะเบียนขายตรง หรือการตลาดแบบตรง แต่ทำหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้เสียหายจากธุรกิจการเงินนอกระบบ
รวมทั้งร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ศึกษา วิเคราะห์การดำเนินงานของผู้ประกอบธุรกิจการเงินนอกระบบ เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดเบื้องต้น และเห็นว่า ควรแก้ไขกฎหมายเพื่อกำหนดอำนาจการสืบสวนที่ชัดเจน โดยจะเสนอกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม แทน สศค. ซึ่งไม่มีความเชี่ยวชาญด้านงานสืบสวนสอบสวน
อ่านข่าว : "โธมัส ทูเคิล" กุนซือต่างชาติกับ "ความหวังใหม่" ของอังกฤษ ?
ปฏิทินวันหยุดพฤศจิกายน 2567 ไร้วันหยุด แต่เรายังสุขในวันลอยกระทง