หลัง ปราโบโว ซูเบียนโต ชนะการเลือกตั้งมานาน 8 เดือน ล่าสุด เช้าวานนี้ ปราโบโว ซูเบียนโต เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ ในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย
อ่านข่าว : "ปราโบโว" ประกาศชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย
ภายในงานมีผู้นำและตัวแทนจากชาติต่าง ๆ รวมถึงชาติสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมในพิธีด้วย รวมประมาณ 20 คน ได้แก่รองประธานาธิบดีจีน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และนายกรัฐมนตรีติมอร์-เลสเต
พิธีครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ปราโบโวชนะการเลือกตั้งเมื่อกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 59 หรือมากกว่า 96 ล้านคะแนนเสียง โดยมีกีบราน ราคาบูมิง ราคา ลูกชายของโจโค วีโดโด อดีตประธานาธิบดีนั่งตำแหน่งรองประธานาธิบดี ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของปราโบโวในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากที่เคยลงสมัครมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ปราโบโวและโจโควีเคยเป็นคู่แข่งทางการเมืองกันมาก่อน โดยเคยลงชิงตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อปี 2014 และ 2019 แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ได้หันมาจับมือกัน โดยวีโดโดได้แต่งตั้งปราโบโวเป็นรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลสมัยที่ 2 ของตน และประกาศสนับสนุนปราโบโวในการเลือกตั้งเมื่อต้นปีนี้ ก่อนที่ปราโบโวจะได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย
ขณะที่ระหว่างการหาเสียงปราโบโวรับปากว่าจะสานต่อนโยบายหลายอย่างของวีโดโด รวมทั้งการเดินหน้าก่อสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ และตั้งเป้าที่จะกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศให้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 8 จากปัจจุบันที่ร้อยละ 5 รวมทั้งจัดให้มีโครงการมื้ออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการฟรีสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ 83 ล้านคนเพื่อแก้ปัญหาการเจริญเติบโตของเด็ก โดยมีมูลค่า 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า 920,000 ล้านบาท
อีกหนึ่งคำมั่นสัญญาในระหว่างหาเสียงของปราโบโวนั่นคือการทำให้อินโดนีเซียสามารถพึ่งพาตนเองในการผลิตสินค้าหลักและลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงของประเทศ
ขณะที่เรื่องนโยบายต่างประเทศ ปราโบโวให้คำมั่นว่าจะสานต่อนโยบายต่างประเทศที่ยึดถือมานานของประเทศในการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และรักษาความสัมพันธ์อันดีกับมหาอำนาจโลกโดยไม่เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งหลังจากชนะการเลือกตั้งปราโบโวได้เดินทางพบปะผู้นำหลายประเทศ ทั้งออสเตรเลีย จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น รัสเซีย และประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ปราโบโว ซึ่งปัจจุบันอายุ 73 ปี เกิดเมื่อปี 1951 ในตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดตระกูลหนึ่งของอินโดนีเซีย เป็นบุตรคนที่ 3 จากทั้งหมด 4 คน โดยพ่อของปราโบโวเป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลและเป็นรัฐมนตรีในสมัยประธานาธิบดีซูการ์โนและซูฮาร์โต
พ่อของปราโบโวเคยทำงานให้กับซูการ์โน แต่ต่อมาได้หันหลังให้กับซูการ์โนและถูกบังคับให้ลี้ภัย ก่อนที่ครอบครัวของเขาจะกลับมายังอินโดนีเซียหลังจากที่นายพลซูฮาร์โตขึ้นสู่อำนาจในปี 1967 ซึ่งหลังจากนั้นอินโดนีเซียได้ตกอยู่ภายใต้ยุคเผด็จการซูฮาร์โต
ก่อนจะถูกโค่นลงด้วยพลังของขบวนการนักศึกษาในปี 1998 หลังจากนักศึกษาที่ประท้วงขับไล่ซูฮาร์โตถูกทหารยิงเสียชีวิต 4 คนภายในมหาวิทยาลัยในกรุงจาการ์ตา ซึ่งเหตุการณ์นี้จุดชนวนให้เกิดการจลาจลทั่วเมืองหลวง และมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน
ในยุคนั้น ปราโบโว ซึ่งเป็นลูกเขยของซูฮาร์โตรับตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษของกองทัพ โดยเขาถูกกล่าวหาว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวนักเคลื่อนไหวสนับสนุนประชาธิปไตย และบังคับบุคคลให้สูญหาย หรืออุ้มหายอย่างน้อย 22 คน ซึ่งข้อกล่าวหาดังกล่าวทำให้เขาถูกปลดจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษของกองทัพ
ขณะที่ในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้งปราโบโวพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ลบล้างเรื่องราวในอดีต โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ และเน้นการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการหาเสียงเลือกตั้ง
อ่านข่าว : เปิดโผผู้ท้าชิงตำแหน่ง "ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย" ในศึกเลือกตั้ง 14 ก.พ.นี้
"ชวากลาง" สนามเลือกตั้งสำคัญของอินโดนีเซีย
"ปราโบโว" ประกาศชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย