วันนี้ (21 ต.ค.2567) นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมว.สาธารณสุข เปิดตัวกิจกรรม "Brush & Bright รอยยิ้ม สดใส คนไทยฟันดีทั่วทั้งแผ่นดิน" สร้างกระแสให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยเห็นความสําคัญของการดูแลสุขภาพช่องปาก หลายหน่วยงานแสดงเจตจํานงค์ขับเคลื่อนกิจกรรมนี้ตามบทบาทภารกิจของหน่วยงานตนเอง
ข้อมูลการสํารวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 9 พ.ศ.2566 ของประเทศไทย พบว่า คนไทย ในกลุ่มผู้สูงอายุ (60-74 ปี) มีฟันผุ และยังไม่ได้รับการรักษามากที่สุดถึงร้อยละ 60 รองลงมา คือ วัยทํางาน (35-44 ปี) ร้อยละ 52.9 และในเด็กอายุ 12 ปี ร้อยละ 49.7 และพบความชุกของโรคปริทันต์อักเสบในวัยทํางาน (35-44 ปี) มากที่สุด ร้อยละ 32.6 และผู้สูงอายุ (60-74 ปี) ร้อยละ 31.1
ทั้งนี้ การป้องกันโรคในช่องปากที่ดีที่สุด คือ Brush & Bright
Brush หมายถึง การแปรงฟันคุณภาพ ด้วยสูตร 2-2-2 ได้แก่ การแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน แปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาที และไม่รับประทานอาหารหลังการแปรงฟันนาน 2 ชั่วโมง เพื่อให้ ช่องปากสะอาดนานที่สุด
Bright หมายถึง การตรวจสุขภาพช่องปากโดยทันตบุคลากรปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ทราบ สภาวะช่องปากตนเอง หากเกิดปัญหาในช่องปากจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ควรขัดทําความสะอาดฟัน หรือขูดหินปูนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อกําจัดคราบหินปูนที่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อจุลินทรีย์บริเวณขอบเหงือก ดูแลสุขภาพช่องปากตนเองอย่างสม่ำเสมอตามคําแนะนํา ทําให้มีสุขภาพช่องปากที่ดี ซึ่งส่งผลต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
ในปี 2567 กรมอนามัยได้รับมอบหมายจาก สธ. จัดการรณรงค์ทางทันตสาธารณสุขภายใต้ชื่อโครงการ "คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า" เพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี "พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย" เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ
ใช้ "บัตรทอง" ทำฟันฟรี
สปสช. ร่วมสืบสานปณิธานดูแลสุขภาพช่องปากให้กับประชาชนไทยภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท โดยจัดสิทธิประโยชน์บริการที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพช่องปาก ดังนี้
- บริการทันตกรรมสร้างเสริมป้องกัน เพื่อคนไทยทุกสิทธิการรักษา เริ่มจากบริการตรวจสุขภาพช่องปาก ขัด และทำความสะอาดฟัน (ทุกกลุ่มวัย) และบริการตามดุลพินิจของทันตแพทย์ผู้ให้บริการ นอกจากนี้ยังมีบริการสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปที่มีความเสี่ยง คือบริการคัดกรองรอยโรคเสี่ยงมะเร็งและมะเร็งช่องปากโดยการตัดเนื้อเยื่อบริเวณรอยโรค (Biopsy) และตรวจทางพยาธิวิทยา
- บริการทันตกรรมรักษา สำหรับประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท ได้แก่ บริการถอนฟัน, อุดฟัน อุดคอฟัน, ขูดหินปูน, รักษาโพรงประสาทฟันน้ำนม (รากฟันน้ำนม), ใส่เพดานเทียมในเด็กปากแหว่งเพดานโหว่, ผ่าฟันคุด (ตามข้อบ่งชี้ของทันตแพทย์), รักษาโรคปริทันต์อักเสบ, รักษารากฟันแท้ และการรักษาอื่น ๆ ทางทันตกรรมที่จำเป็นต่อผู้ป่วย
-
บริการทันตกรรมฟื้นฟู ได้แก่ ฟันปลอมฐานพลาสติก (ฟันเทียม) ทั้งแบบซี่ถอดได้และแบบทั้งปากถอดได้ ใส่รากฟันเทียมทุกกลุ่มอายุที่มีปัญหาการใส่ฟันเทียมทั้งปากแล้วฟันเทียมหลวมไม่แน่น ไม่กระชับหรือไม่สามารถใส่ฟันเทียมได้ที่ทันตแพทย์วินิจฉัยแล้วว่า จำเป็นต้องได้รับการใส่รากฟันเทียม และจัดฟันในผู้มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่หรือปากแหว่ง หรือเพดานโหว่ ตามดุลยพินิจของทันตแพทย์
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า นอกจากนี้ประชาชนยังสามารถเข้ารับบริการที่ "คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น" ภายใต้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เพียงสังเกตสติกเกอร์ตราสัญลักษณ์ 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งจะได้รับบริการ 5 รายการ ที่คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่นปีละ 3 ครั้ง ได้แก่ บริการขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน เคลือบหลุมร่องฟัน และเคลือบฟลูออไรด์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเมื่อครบ 3 ครั้งแล้ว หากยังจำเป็นต้องรักษาต่อก็สามารถใช้สิทธิได้ที่หน่วยบริการประจำตามสิทธิได้
ทั้งนี้สามารถดูรายชื่อคลินิกทันตกรรมที่เข้าร่วมได้ที่ https://www.nhso.go.th/page/dental-clinic หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- สายด่วน สปสช. 1330
- ช่องทางออนไลน์
•ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
•Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
อ่านข่าวอื่น :
ฝุ่นมาแล้ว! ระลอกแรกกทม.-ปริมณฑลรับมือ 24-27 ต.ค.
คนใกล้ชิด "บอสพอล" ให้ปากคำ-ผู้เสียหายดิไอคอน พุ่ง 5.7 พันคน