ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

น่ากังวล "พลายขุนเดช" ขาหน้าซ้ายผิดรูป-กระดูกหลังคด-คุมไม่ได้

สิ่งแวดล้อม
29 ต.ค. 67
11:12
3,556
Logo Thai PBS
น่ากังวล "พลายขุนเดช" ขาหน้าซ้ายผิดรูป-กระดูกหลังคด-คุมไม่ได้
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมอุทยาน สั่งย้าย "พลายขุนเดช" ออกจาก ENP เชียงใหม่ สัตวแพทย์ตรวจพบ 10 ปีแผลติดบ่วงแร้วยังวิกฤต อาการผิดปกติ ขาหน้าซ้ายผิดรูป-กระดูกสันหลังเป็นรูปตัว S เร่งย้ายไปรักษาที่สถาบันคชบาล พบควบคุมยาก

ความคืบหน้ากรณีการย้ายพลายขุนเดช จากปางช้าง Elephant Nature Parkมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ของนางแสงเดือน ชัยเลิศ เพื่อมาอยู่ในสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) 

วันนี้ (28 ต.ค.2567) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้อนุมัติให้ย้ายพลายขุนเดช ไปรักษาที่สถาบันคชบาลแห่งชาติแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (28 ต.ค.) ทีมสัตวแพทย์ ได้เข้าตรวจสุขภาพก่อนวางแผนขนย้ายโดยเร็ว เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ภายใต้มาตรฐานการดูแลช้างที่กำหนดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปี เฝ้าระวังโรค และบันทึกข้อมูลการรักษาอย่างเป็นระบบ

อ่านข่าว ดรามาย้ายช้าง รอ 1 เดือนประเมินใจ "ดอกแก้ว" เพิ่งพ้นน้ำท่วม  

ผลการตรวจพบความผิดปกติที่รุนแรง โดยเฉพาะที่ขาหน้าซ้าย เคยติดบ่วงแร้ว มีความยาวมากกว่าขาขวาที่ปกติ เพราะช้างไม่ได้ใช้ขาข้างนี้รับน้ำหนัก ส่งผลให้ขาหลังต้องรับน้ำหนักชดเชย

ผลการตรวจพบความผิดปกติที่รุนแรง โดยเฉพาะที่ขาหน้าซ้าย เคยติดบ่วงแร้ว มีความยาวมากกว่าขาขวาที่ปกติ เพราะช้างไม่ได้ใช้ขาข้างนี้รับน้ำหนัก ส่งผลให้ขาหลังต้องรับน้ำหนักชดเชย

ผลการตรวจพบความผิดปกติที่รุนแรง โดยเฉพาะที่ขาหน้าซ้าย เคยติดบ่วงแร้ว มีความยาวมากกว่าขาขวาที่ปกติ เพราะช้างไม่ได้ใช้ขาข้างนี้รับน้ำหนัก ส่งผลให้ขาหลังต้องรับน้ำหนักชดเชย

ขาหน้าซ้ายยาวผิดปกติ-กระดูกสันหลังผิดรูป

สัตวแพทย์หญิงรัตนา สาริวงศ์จันทร์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 กล่าวว่า ผลการตรวจสุขภาพช้างพลายขุนเดช ของทีมสัตวแพทย์ จาก สบอ.16 ร่วมกับสถาบันคชบาล ซึ่งการตรวจได้ประสานให้ Elephant Nature Park ให้งดอาหารช้าง 12 ชั่วโมง และงดน้ำ 6 ชั่วโมง เพื่อการวางยาซึมระดับอ่อน (mild sedation) นาน 60-90 นาที เนื่องจากไม่สามารถเข้าใกล้ช้าง เพื่อเก็บตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ มูล และตรวจบาดแผลได้โดยตรง

ผลการตรวจพบความผิดปกติที่รุนแรง โดยเฉพาะที่ขาหน้าซ้าย ซึ่งเคยติดบ่วงแร้ว มีความยาวมากกว่าขาขวาที่ปกติ เพราะช้างไม่ได้ใช้ขาข้างนี้รับน้ำหนัก ส่งผลให้ขาหลังต้องรับน้ำหนักชดเชย โดยเฉพาะขาหลังขวาที่มีการลอกหลุดและงอกของฝ่าเท้าผิดธรรมชาติ เล็บเท้าผิดปกติเล็กน้อย

พบว่ากระดูกสันหลังผิดรูปเป็นรูปตัว S จากการชดเชยน้ำหนักขณะเดิน ส่วนบาดแผลที่เท้าหน้าซ้าย แม้ไม่พบการติดเชื้อ แต่มีเนื้อเยื่อส่วนเกิน ที่ไวต่อความรู้สึก และเสี่ยงต่อการเกิดแผลเปิดได้ง่าย
พลายขุนเดช พบว่ากระดูกสันหลังผิดรูปเป็นรูปตัว S จากการชดเชยน้ำหนักขณะเดิน

พลายขุนเดช พบว่ากระดูกสันหลังผิดรูปเป็นรูปตัว S จากการชดเชยน้ำหนักขณะเดิน

พลายขุนเดช พบว่ากระดูกสันหลังผิดรูปเป็นรูปตัว S จากการชดเชยน้ำหนักขณะเดิน

สัตวแพทย์หญิงรัตนา กล่าวอีกว่า ส่วนด้านพฤติกรรม พบว่าผู้ดูแลสามารถควบคุมช้างได้เพียงระดับ 5/10 ถือต่ำกว่าระดับที่เหมาะสมสำหรับการรักษาที่ต้องอยู่ในระดับ (7-8/10)

ทีมสัตวแพทย์ประเมินว่า ความผิดปกติทางโครงสร้างที่เกิดขึ้นมานานกว่า 10 ปีนี้ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เครื่องมือพิเศษในการรักษา จึงวางแผนดำเนินการหลังย้ายช้างไปยังสถานที่ใหม่

โดยระหว่างนี้จะย้ายช้างจากโรงเรือนเดิม ที่ติดชุมชน และมีดินโคลนทับถม ไปยังโรงเรือนใหม่ใกล้จุดเคลื่อนย้าย ทำความสะอาดบาดแผล พันผ้าพันแผล และสวมถุงเท้าป้องกันสิ่งสกปรกทุกวัน เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกทุกวัน

อ่านข่าว ภารกิจสุดหิน! ย้ายพลายขุนเดช-ดอกแก้ว ช้างไม่คุ้นควาญ

เปิดแผนเคลื่อนย้ายพลานขุนเดช-วางแผนรักษา

สำหรับแผนการช่วยเหลือระยะยาว ต้องตรวจสุขภาพ และประเมินพฤติกรรมในพื้นที่ต้นทาง รวมทั้งเก็บตัวอย่างตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อหาโรคติดต่อจากสัตว์สู่ช้าง เช่น โรคปากและเท้าเปื่อย โรคแท้งติดต่อ โรคแอนแทรกซ์ โรคคอบวม โรคพยาธิในเลือด โรคพยาธิใบไม้ในทางเดินอาหาร  โรคติดต่อจากสัตว์สู่คนและช้างสู่ช้างโรควัณโรค โรคติดเชื้อเฮอร์ปีส์ โรคฉี่หนู โรคมงคล่อเทียมตรวจการทำงานของอวัยวะภายในและระบบเลือด

สำหรับวิธีการเคลื่อนย้าย เส้นทาง และประสานงานผู้เกี่ยวข้อง กักโรคในพื้นที่ปลายทาง สร้างความคุ้นเคยและสื่อสาร ตรวจวินิจฉัยและรักษาพยาบาลอย่างเต็มรูปแบบ

นายอรรถพล กล่าวว่า กทุกขั้นตอนทีมสัตวแพทย์ ควาญ และเจ้าหน้าที่จะคำนึงถึงสภาพร่างกายของช้างเป็นสำคัญ  หากพบภาวะวิกฤติ จะเร่งดำเนินการเคลื่อนย้ายภายใน 24 ชั่วโมง ตามเงื่อนไขการเคลื่อนย้ายช้างป่วยหนัก เพื่อให้ช้างได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน และเหมาะสมที่สุด รวมถึงเพื่อป้องกันไม่ให้อาการบาดเจ็บลุกลามจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของช้าง

สำหรับ "พลายขุนเดช" เป็นช้างป่าที่บาดเจ็บจากบ่วงแร้วที่ จ.จันทบุรี ซึ่งได้รับการช่วยเหลือตั้งแต่ปี 2555 ขณะมีอายุเพียง 2 ปี โดยพบสาเหตุที่ทำให้แผลที่ข้อเท้าหน้าซ้ายรักษาไม่หาย เนื่องจากมีการงอกแหลมออกของกระดูกข้อเท้าบางชิ้น ประกอบกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นตามการเจริญเติบโต และพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นที่มีฮอร์โมนเพศหลั่งมากผิดปกติ

จากนั้น ได้ส่งตัวไปรักษาที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมภู่ จ.ชลบุรี ก่อนย้ายไปรักษาต่อที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ในปี 2556 จนมีอาการดีขึ้น แต่เนื่องจากเป็นช้างพิการไม่สามารถปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้ จึงได้ส่งตัวไปอยู่ในการดูแลของมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่ในปี 2557

อย่างไรก็ตาม กรมอุทยานฯ ต้องขอขอบคุณมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ที่ช่วยดูแล และรับอนุบาลพลายขุนเดช เป็นอย่างดีตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

อ่านข่าวอื่นๆ

ร้องกมธ.ปมช้าง ENP จมน้ำตายยังหาย 5 เชือก กังขาเงินบริจาค

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง