วันนี้ (29 ต.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนแบบขั้นบันได มาตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา จาก 70 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 120 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดว่าปริมาณน้ำจะครบ 100% เต็มความจุของเขื่อนในเย็นวันนี้ เมื่อปรับเพิ่มการระบายน้ำจะแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบ
ปริมาณน้ำล่าสุดวันนี้อยู่ที่ 956.50 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 99.64 ซึ่งถือว่าเต็มความจุที่ระดับกักเก็บปกติของเขื่อน อยู่ที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังมีน้ำตกค้างในแม่น้ำป่าสักตอนบนไหลเข้าสู่เขื่อนอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ต้องบริหารจัดการน้ำเพื่อควบคุมปริมาณน้ำในเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม อีกทั้งในช่วงเดือน ก.ย.ต่อเนื่องถึงเดือน ต.ค. มีปริมาณน้ำเหนือจาก จ.เพชรบูรณ์ ไหลเข้าสู่เขื่อนป่าสักฯ จำนวนมาก
นายชูพงศ์ อิศรัตน์ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ ระบุว่า ขณะนี้น้ำตอนบนเหนือเขื่อนป่าสักฯ ยังมีน้ำอยู่ที่ต้นน้ำใน อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ไหลเข้าเขื่อนวันละ 15-16 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีแนวโน้มน้อยลง จึงต้องบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในอัตรา 120 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือเฉลี่ยวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีน้ำคงค้างอยู่ในเขื่อนวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตรและมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจากนี้ไปน้ำในเขื่อนจะอยู่ที่ 100% หรือเกินจากนี้เล็กน้อย
ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท คงการระบายน้ำไว้ที่อัตรา 1,699 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นวันที่ 5 ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลง 22 เซนติเมตรในรอบ 6 ชั่วโมง ส่วนระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.82 เมตร จึงยังไม่มีรายงานพื้นที่ถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะท้ายเขื่อนของ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
อ่านข่าว
น่ากังวล "พลายขุนเดช" ขาหน้าซ้ายผิดรูป-กระดูกหลังคด-คุมไม่ได้
"สุริยะ" ยังไม่ชงแก้สัญญา 3 สนามบินเข้าครม.ยันรัฐไม่เสียเปรียบ