วันนี้ ( 2 พ.ย.2567) นายเกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว อาจารย์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึง โครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในภาคเหนือ รัฐบาลจะให้เงินสนับสนุน 400 บาทต่อคนต่อทริป และประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจ่าย 400 บาทต่อคนต่อทริป หากใช้จ่ายมากกว่านั้นก็จะต้องจ่ายเอง
โดยสามารถใช้จ่ายได้ทั้งสินค้าท่องเที่ยว อาทิ ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก หากมีกระแสผลตอบรับดี และหน่วยที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือดีก็จะต่อยอดไปทั่วประเทศได้ ว่า ในมุมนักเศรษฐศาสตร์ อธิบายถึงงบประมาณที่มีจำกัดของรัฐบาลเพื่อไทย ที่ต้องใช้ในนโยบายเร่งด่วนอื่น ๆ
แต่การที่ต้องแบ่งเงินมาใช้ในโครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ยังไม่ตอบโจทย์ และเห็นได้ถึงความไม่พร้อม ซึ่งจุดประสงค์หลักจะใช้กระตุ้นจังหวัดที่ประสบอุทกภัย แต่พอทำโครงการจริง ๆกับใช้ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ เชื่อว่ากลุ่มคนที่จะใช้สิทธิ์น่าจะเป็นคนที่วางแผนจะไปเที่ยวอยู่แล้ว ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ส่วนคนอื่น ๆที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า 400 บาท ไม่ใช่แรงจูงใจที่จะทำให้ตัดสินใจไปแน่นอน
นักเศรษฐศาสตร์ยังแนะรัฐบาลอีก ว่า รัฐบาล ควรอัดฉีดให้ถูกจุด เน้นจังหวัดที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม เพื่อช่วยผู้ประกอบการจริง ๆ เช่น ทำโครงการ “คนละครึ่งสเปเชียล” หรือลดหย่อนภาษีให้กับผู้ประกอบการ โครงการเหล่านี้น่าจะช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
และกระตุ้นให้คนใช้จ่ายมากกว่า โครงการ "แอ่วเหนือคนละครึ่ง" เป็นโครงการใหม่ที่หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปี โดยเฉพาะช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม เริ่มให้ประชาชนลงทะเบียน และเริ่มใช้สิทธิ์กันตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ดูเหมือนหลายจังหวัดจะยังไม่คึกคัด ผู้ประกอบการสะท้อนว่ารัฐบาลหย่อนการประชาสัมพันธ์
โดยเงื่อนไข โครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” จำกัดให้เฉพาะ 10,000 สิทธิ์แรก ที่ลงทะเบียนก่อน เงินก็ให้ 400 บาท ต่อคนต่อทริป ใช้ได้เฉพาะ 17 จังหวัดภาคเหนือ และหลังลงทะเบียนแล้วต้องใช้ภายใน 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน และต้องหาโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้หลายคนบอกคิดถึง โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”
เพราะใครที่เคยเข้าร่วมจะจำได้ว่าเงื่อนไขคือจะได้ ส่วนลดที่พัก 40 % มี คูปองอาหาร/ท่องเที่ยว 900 บาท /ใช้สิทธิ์ได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้ส่วนลดตั๋วเครื่องบิน และไม่จำกัดสิทธิ์ และสามารถใช้สิทธิ์ได้ทั้งปีอีกด้วย โดยหลังจากเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิตั้งแต่วันที่ 1พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าไม่มีความคึกคักเท่าที่ควร ยังคงเหลือสิทธิกว่า 8,694 สิทธิ์
ทั้งนี้มีข้อมูลจากสำนักพยากรณ์ทางเศรษฐกิจ โครงการเราเที่ยวด้วยกันยังมีหลายเฟสใช้ได้ทั้งปี กระตุ้นเงินท่องเที่ยว 50,000 ล้านบาท GDP ขยายตัว 0.2-0.3 %
ด้าน มยุรา วงศ์สุวรรณ เจ้าของร้านอาหาร จ.พิษณุโลก ร้านข้าวซอยแม่สาย ที่ตั้งอยู่บนถนนพญาเสือ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เป็นอีกหนึ่งร้านที่เข้าร่วมโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งเมื่อวานเริ่มใช้วันแรก ไม่คึกคักเท่าทีคาดหวังไว้ มีลูกค้ามาใช้ไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ จึงอยากให้ภาครัฐเร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนมากขึ้น
เช่นเดียวกับ จิตติยา จันขาม ผู้จัดการโรงแรมสมายล้านนา จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เข้าสู่วันที่ 2 แต่ตอนนี้ยังไม่มีลูกค้าติดต่อเข้ามาใช้สิทธิ์ เบื้องต้นได้เตรียมแนะนำลูกค้าที่เข้ามาจองห้องพักให้ได้สิทธิ์ แอ่วเหนือคนละครึ่ง ซึ่งทางโรงแรมค่อนข้างคาดหวังให้มีลูกค้ามาเข้าพักเพิ่มขึ้นจากโครงการ เพื่อกระตุ้นยอดห้องพักหลังถูกน้ำท่วม
ขณะที่ จ.เชียงราย เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่กำลังกระตุ้นท่องเที่ยวหลังฟื้นจากน้ำท่วม แต่จากการสำรวจผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่งค่อนข้างน้อย ยังพบว่ายังไม่คึกคักเท่าที่ควร สอบถามโรงแรม และร้านอาหารหลายแห่งที่เข้าร่วมโครงการ แจ้งว่ายังไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ มองในแง่ดีอาจจะเพราะยังเป็นช่วงแรกๆของโครงการอยู่ ซึ่งก็คาดหวังเหมือนกันว่าเข้าสู่ฤดูหนาว หลายคนคงมาใช้สิทธิ์กันช่วงปลายปีอย่างคึกคัก
อ่านข่าว:
"แอ่วเหนือคนละครึ่ง" ยังเหลือ 9,098 สิทธิ รอลุ้นเฟส 2
เว็บล่ม! เปิดลงทะเบียน "แอ่วเหนือคนละครึ่ง" รับสิทธิส่วนลด 50%