ศาลสั่งจำคุกผู้บริหาร
ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้วันนี้ญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์เพลิงไหม้สถานบันเทิงซานติก้าผับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 มารอฟังคำพิพากษา โดยคดีนี้อัยการยื่นฟ้องผู้บริหารซานติก้าผับ และ ผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เป็นจำเลยรวม 7 คน ในความผิดฐานกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิต กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย เป็นผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ ปล่อยปะละเลยให้บุคคล ซึ่งอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปในสถานบริการและปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ รวม 6 ข้อหา ซึ่งญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นโจทก์ร่วมฟ้องกับอัยการจำนวน 57คน
หลังพิจารณาศาลอ่านคำพิพากษาให้จำคุก 3 ปีโดยไม่รอลงอาญานายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือ เสี่ยขาว ผู้บริหารซานติก้าผับ และนายบุญชู เหล่าสีนาท กรรมการผู้มีอำนาจบริษัทโพกัสไลท์ฯ เพราะกระทำการโดยประมาท โดยนายวิสุข ยืนยันต่อสู้คดีตามข้อเท็จจริง
วันนี้จำเลยที่ 1-7 เดินทางมาฟังคำพิพากษาทั้งหมดศาลใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อ่านคำพิพากษาโดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน และ เห็นว่า จำเลยที่ 1 คือนายวิสุข เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทไวท์แอนด์บราเทอร์ ซึ่งป็นเจ้าของซานติก้าผับ ไม่ใช่นายสุริยา ฤทธิ์ระบือ ที่มีชื่อในใบจดทะเบียน
ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้อ้างอิงจากรายงานของกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และผู้เชี่ยวชาญ ด้านเอฟเฟค และ พลุ เชื่อได้ว่าเพลิงไหม้เกิดเจากเอฟเฟคจากเวทีการแสดง
ขณะที่การตรวจสอบอาคาร ซานติก้าผับ พบว่า ไม่มีระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานในการป้องกันอัคคีภัย ตามกฎกระทรวง จึงเห็นว่า นายวิสุขและนายบุญชู มีความผิดในข้อหากระทำการโดยประมาทตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 3 ปีโดยไม่รอลงอาญาเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้ประกอบการรายอื่น
นอกจากนี้ศาลยังสั่งให้นายบุญชู และ บริษัทโพกัสไลท์ ซึ่งเป็นบริษัททำเอฟเฟคจ่ายเงินค่าสินใหมให้กับผู้เสียหาย 5 คนรวมเป็นเงินเกือบ 9 ล้านบาท
ส่วนคดีปล่อยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการและปล่อยให้ เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปในสถานบริการ โจทก์ไม่ได้นำสืบ ส่วนจำเลยอื่นศาลได้พิจารณายกฟ้อง
ขณะที่นายสราวุธ อะระยะ นักร้องนำวงเบิร์นผู้จุดพลุไฟ ตามที่มีพยานกล่าวอ้างในชั้นต้นศาลยกฟ้อง เพราะสาเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากนายสราวุธ โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียมากถึง 67 คน บาดเจ็บ 72 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึง 45 คน