วันนี้ (11 พ.ย.2567) เครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ม้งและกะเหรี่ยง ภาคเหนือ รวมตัวที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์คัดค้านร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ภายในอุทยานแห่งชาติ 3 ประเด็น ประกอบด้วย
1.ไม่เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการอนุญาตใช้ที่ดินในกรอบระยะเวลา 20 ปี ครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ ซึ่งเห็นว่า เป็นการใช้กฎหมาย เพื่อลดการใช้ที่ดินและนำไปสู่การไล่คนออกจากป่า
2.เป็นการละเมิดสิทธิ์ประชาชนที่รัฐละเลย ตามหลักสิทธิมนุษยชนและสิทธิคนพื้นเมือง ที่นานาประเทศได้ลงนามไว้
3.กฎหมายดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่ดินในเขตอนุรักษ์ ระหว่างรัฐกับประชาชนได้ แต่กลับจะทำให้ข้อพิพาททวีความรุนแรงมากขึ้น
จึงเสนอให้รัฐบาลทบทวนการออกร่าง พ.ร.ฏ.ดังกล่าว โดยพิจารณาถึง ความมั่นคงในการใช้ที่ดิน และศักยภาพของชุมชนในการใช้ที่ดินเพื่อประกอบอาชีพที่หลากหลายในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้เครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ฯ ยังออกแถลงการณ์ “รัฐบาลแพทองธาร ต้องหยุดผลักดันร่างพระราชกฤษฎีกาป่าอนุรักษ์เข้า ครม. โดยทันที” ระบุว่า
ท่ามกลางการรุกไล่ประกาศพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ตามนโยบายของหลายรัฐบาลสืบเนื่องกันมา ทำให้สถานการณ์การเร่งรัดประกาศป่าอนุรักษ์ ด้วยการออกกฎหมาย และใช้กำลังจนเกิดเป็นกรณีความขัดแย้งทั่วประเทศ
นอกจากนี้ที่ผ่านมา หลายชุมชนยังได้ร่วมกันดูแลรักษาป่า และปกป้องผืนป่า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยงานต่าง ๆ ทำให้ปัจจุบันสภาพป่าได้ฟื้นตัว และมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นกว่าเดิม แต่ภัยคุกคามใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ คือความพยายามของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่เร่งผลักดันร่างพระราชกฤษฎีกาป่าอนุรักษ์ภายใต้พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ให้มีผลบังคับใช้ผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 12 พ.ย.นี้
เนื้อหาในร่างฯ ทั้ง 2 ฉบับ เต็มไปด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชน เปลี่ยนผู้บุกเบิกให้เป็นผู้บุกรุก สอดแทรกแนวทางการยึดที่ดินของประชาชน บีบบังคับจำกัดสิทธิ์การถือครองที่ดิน และยังรวบอำนาจผูกขาดการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ไว้ที่หน่วยงานป่าไม้เท่านั้น แนวทางดังกล่าวเป็นการผลักคนออกจากป่า ไม่ต่างจากอดีตที่ผ่านมาแม้แต่น้อย
วันนี้เราขอประณามการกระทำของกระทรวงทรัพยากรฯ และกรมอุทยาน ฯ ที่พยายามผลักดันกฎหมายอนุรักษ์อันล้าหลัง และอำนาจนิยมมากดขี่ประชาชน โดยไม่สนใจกระแสการกระจายอำนาจ การจัดการทรัพยากรสู่ชุมชนท้องถิ่น
เราขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี รวมถึงคณะรัฐมนตรี ว่า คุณจะต้องแสดงความกล้าหาญปกป้องประชาชนที่อยู่ในป่าอนุรักษ์กว่า 4,000 ชุมชน ที่กำลังถูกฝ่ายรัฐราชการอำนาจนิยม กดขี่รังแก
โดยในวันที่ 12 พ.ย.นี้ รัฐบาลต้องยุติการนำร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยทันที
อ่านข่าว : ไฮไลต์ลอยกระทงรักษ์โลก 140 จุดทั่วกรุง งดใช้โฟม-ขนมปัง