ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

นักการเมืองคดีดิไอคอนฯ รอดยากในเงื้อมมือ “บิ๊กเต่า”

อาชญากรรม
19 พ.ย. 67
15:32
0
Logo Thai PBS
นักการเมืองคดีดิไอคอนฯ รอดยากในเงื้อมมือ “บิ๊กเต่า”
ไม่ว่าจะปฏิเสธอย่างไร อ้างถูกกลั่นแกล้งหรือแปรเปลี่ยนเจตนาของตนเองอย่างไร ตอนนี้เรื่องนักร้องเรียน นักตบทรัพย์ หรือเทวดาในหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมกระทั่งนักการเมือง อยู่ในมือตำรวจสอบสวนกลาง

และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.สอบสวนกลาง ที่กำลังเดินหน้าคลี่คลายคดีดิไอคอนกรุ๊ป ร่วมกับดีเอสไอ ประสานกับทางดีเอสไอ ที่ได้รีบมอบหมายให้ทำคดี ดีไอคอนกรุ๊ป

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคนดัง ประเภทตบทรัพย์ “บิ๊กเต่า” ขอเวลา 10 วัน สำหรับคดีของ “ฟิล์ม”นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ นักร้องชื่อดังในอดีต กับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือนักการเมืองหญิง ก.ไก่ ซึ่งขณะนี้มีถึง 4 คดี

ตั้งแต่เรื่องของ น.ส.กฤษอนงค์ หรือ เจ๊พัช ที่ถูกออกหมายจับจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หรือศาลปราบโกง ข้อหากรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน กรณีเรียกรับเงิน 3 แสนบาท และ 4.5 แสนบาท

เรื่องที่ 2 คดีถูก “หนุ่ม” นายกรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรทีวีรายการชื่อดัง แจ้งความเอาผิดทั้ง 2 คน แอบอ้างชื่อนายกรรชัยและรายการขอนายกรรชัย สำหรับฟอกขาว เรื่องที่ 3 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ น.ส.จิราพร สินธุไพร แจ้งความเอาผิด น.ส.กฤษอนงค์ เรื่องหมิ่นประมาท

และเรื่องที่ 4 น.ส.กฤษอนงค์ และ “ฟิล์ม” นายรัฐภูมิ เรียกรับเงินจาก น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน จำนวน 20 ล้านบาท ซึ่งในคดี 20 ล้านบาทนี้ วันที่ 19 พ.ย. ผู้เสียหายจะมอบอำนาจให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดีด้วย

โดนไปหลายคดี จนทำให้ น.ส.กฤษอนงค์ ออกอาการเครียดจัด หลังจากวันถูกกองปราบควบคุมตัว ได้โพสต์ข้อความ ทำนองทุกคนมีโอกาสพลั้งเผลอทำผิดพลาดได้ และในฐานะแม่ขออย่าเอาลูกมาเกี่ยวข้อง เด็ก ๆ ควรได้รับโอกาสในการใช้ชีวิตอย่างปกติ ไม่ถูกล้อเลียนจากการกระทำของผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะเด็กไม่เกี่ยวกับการกระทำของผู้ใหญ่

เพียงแต่กระแสสังคมส่วนหนึ่งตั้งข้อวิพากษ์ว่า ผู้ใหญ่ต่างหากที่ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะอุตส่าห์ตั้งศูนย์ปราบแชร์ลูกโซ่ และตั้งพรรคการเมือง แทนที่จะคอยช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือคนที่ตกเป็นเหยื่อ กลับกลายเป็นทำเสียเอง

โดยใช้ศักยภาพและความได้เปรียบที่เหนือคนอื่น ขู่กรรโชกทรัพย์ ทั้งยังปั้นน้ำเป็นตัว อ้างถึงระดับรัฐมนตรีมอบหมาย รวมกระทั่งพ่อของรัฐมนตรี มิหนำซ้ำ มีข้อมูลวงในอ้างว่า มีพฤติการณ์ลักษณะเช่นนี้มาหลายปีแล้ว โดยอาศัยเส้นสนกลไน และรู้จักคนใน สคบ. ส่วนจะเท็จจริงอย่างไร ต้องไปต่อสู้กันตามกระบวนการยุติธรรม

ถัดไปเป็นเรื่องคนสำคัญในเพจสายไหมต้องรอด ซึ่งความจริงมีบทบาทและเป็นที่ยอมรับของผู้คน ตั้งแต่โควิด 19 แพร่ระบาด โดนเรื่องปั้นพยานเท็จ เรื่องสุดท้ายที่น่าจะใหญ่ไม่แพ้คดีของน.ส.กฤษองนค์ และส่อเค้าจะเป็นหนังยาวเช่นกัน คือเรื่องนักการเมือง ส.เสือ ที่เคยสังกัดพรรคการเมืองใหญ่ เคยใกล้ชิดเป็นมือเป็นไม้ให้กับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

นักการเมืองชาย ส.เสือ เคยถูกแชร์คลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์จากบอสดิไอคอนกรุ๊ป 30 ล้านบาท อ้างเพื่อเคลียร์คดีนอกจากได้รับรายเดือนเดือนละแสน รวมทั้งบางกระแสระบุว่า มีการแทรกแซงเสนอแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ในสคบ. โดยอาศัยการเป็นกรรมาธิการ และนักการเมืองในสังกัดพรรคใหญ่

ข้อมูลล่าสุด ที่ “บิ๊กเต่า” อัพเดทล่าสุด คือพบเส้นเงินในบัญชีคุณแม่ของนักการเมือง ส.เสือ โอนเข้าบัญชีนับสิบล้านบาท ส่อเค้ามีอะไรมากกว่าข้อมูลเดิม ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากทางดิไอคอนกรุ๊ป ที่เคยเปิดแง้มประเด็นนี้

และมีการชี้แจงเบื้องต้น อ้างว่าเป็นเงินร่วมทำบุญ แต่จะเป็นด้วยความสมัครใจ หรือเป็นวิธีการที่นักตบทรัพย์นำไปใช้ เพื่อเลี่ยงว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเรียกตบทรัพย์ แต่เป็นเรื่องเงินทำบุญ ต้องไปตรวจสอบหาความกระจ่างอีกทีหนึ่ง

หลังจากก่อนหน้านี้ ก็มีข้อมูลที่น่าตกใจ เมื่อทนายบอสพอล นายวิทูรย์ เก่งงาน เข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ และระบุว่า มีผู้เรียกรับเงินจากบอสพอลมากกว่า 80 คน และเพิ่งจ่ายไปในช่วงกลางปี

มีการรีดเงินดิไอคอนมากที่สุดถึง 20 ล้านบาท ซึ่งหากเป็นจริงเท่ากับว่า ทางดิไอคอนกรุ๊ป กุมความลับ และอาจมีคลิปเสียงหรือหลักฐานอื่น ที่บอสพอลบันทึกและเก็บรวบรวมไว้เพื่อดัดหลังนักน้องเรียน นักตบทรัพย์ เทวดา รวมทั้งนักการเมือง โดยเฉพาะอีกไม่น้อย

หวยจะออกที่ใครบ้าง จะรอดพ้นเงื้อมมือกองปราบฯ ตำรวจสอบสวนกลาง และ “รองเต่า” ได้หรือไม่ ต้องติดตาม เพราะ “รองเต่า” นั้น ได้รับการยอมรับว่า เป็นนายตำรวจตงฉิน ทำมาแล้วหลายคดี และยังเป็นคนที่กล้าเปิดหน้าท้าชน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร.มาแล้ว เรื่องเกี่ยวพันกับเว็บพนันมินนี่

ได้ใจทั้งทางฝั่งตำรวจ และประชาชนในกลุ่มที่ไม่ใช่เอฟซี “บิ๊กโจ๊ก” อยู่ไม่น้อยทีเดียว

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง