วันนี้ (3 ธ.ค.2567) นายอนุกูล พฤกษานุกูล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
1.เห็นชอบการยกเลิกโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (โครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนฯ) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567
2.เห็นชอบโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 วงเงินงบประมาณ 38,578.22 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 2 ส่วน ดังนี้ 1) กรอบวงเงินโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนฯ จำนวน 29,518.02 ล้านบาท
และ 2) กรอบวงเงินทุน ธ.ก.ส.สำรองจ่ายการดำเนินงานตามโครงการฯ เพิ่มเติมอีก จำนวน 9,060.20 ล้านบาท และให้ ธ.ก.ส. ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป
3.อนุมัติผ่อนปรนการไม่ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ในกรณีให้ทุกหน่วยงานหลักเลี่ยงการดำเนินการในลักษณะการให้เงินอุดหนุน ช่วยเหลือ ชดเชย หรือประกันราคาสินค้าเกษตร โดยตรงแก่เกษตรกรเฉพาะสินค้าข้าว
นายอนุกูล กล่าวว่า โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 กรมส่งเสริมการเกษตรจะนำข้อมูลรายชื่อเกษตรที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 ส่งให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกร ในอัตราไร่ละ 1,000 บาทไม่เกินครัวเรือน 10 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเกษตรผู้ปลูกข้าว ประมาณ 4.61 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบจนถึง 30 ก.ย.2568 ส่วนระยะเวลาจ่ายเงิน หลังจากที่คณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการ ธ.ก.ส.มีมติเห็นชอบจนถึง 30 ก.ย.2568
การดำเนินโครงการฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรสามารถดำรงชีพอยู่ได้ และสามารถลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวของศูนย์ข้าวชุมชนและขยายผลไปให้ครอบคลุม ประมาณ 4.6 ล้านครัวเรือน ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ส่วนเหลือเพิ่มขึ้นทำให้มีอำนาจการใช้จ่ายภาคครัวเรือนของเกษตรกรและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในระดับเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นการเพิ่มการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เกษตรมีเงินไว้สำหรับใช้จ่ายในการซื้อปัจจัยการผลิตข้าวหรือจ่ายค่าบริหารจัดการในการผลิตข้าว เช่น เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยา เป็นต้น
ขณะที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สำหรับชาวนาที่จะได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว ต้องเป็นเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวไว้แล้วกับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยคาดว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือภายในปี 2567 แน่นอน
ทั้งนี้เมื่อผ่านที่ประชุม ครม.แล้ว ธ.ก.ส. จะดำเนินการไปกำหนดการวางแผนจ่ายเงินให้กับชาวนาต่อไป คาดว่าจะจ่ายภายในปีนี้แน่นอน โดยทางกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะส่งรายชื่อให้ ธ.ก.ส. เพื่อโอนเงินไร่ละ 1,000 บาทให้ กำหนดแบ่งการโอนเป็นรอบต่อไป โดยจะจ่ายได้ไม่เกิน 10 วันทำการ นับจากวันนี้
อ่านข่าว :